นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เปิดเผย หลังยื่นเรื่องต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อให้ระงับยับยั้งความเสียหายของการเงินการคลังของประเทศ ในโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งเป็นการยื่นเสริมเพื่อเติมเต็มทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฏหมาย หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้ยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อส่งต่อไปยังศาลปกครอง ทั้งนี้ตามมาตรา 245 ของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 8 ของพรบ.ตรวจเงินแผ่นดินพ.ศ.2561 สตง.สามารถระงับยั้บยั้งได้ หากเห็นว่าจะนำไปสู่ความเสียหายต่อวินัยการเงินการคลังและไม่เป็นไปตามข้อกฏหมาย นอกจากนี้ถ้าคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเห็นชอบตามที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเสนอสามารถเรียก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) มาประชุมร่วมกัน ถ้ามีมติ 2 ใน 3 เห็นว่าโครงการนี้นำไปสู่ความเสียหายก็สามารถทำเรื่องต่อ ครม. สภาผู้แทนราษฏร และวุฒิสภา ได้ นี่จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่พรรคไทยภักดีมายื่นเพื่อดำเนินการระงับยับยั้งโครงการเงินดิจิทัล เมื่อถามว่าหากรัฐบาลยังยืนยันเดินหน้าแจกเงินดิจิทัล จะมีผลอย่างไร นพ.วรงค์ กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นนอกจากผิดกฏหมาย ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 162 และ 164 ผิดกฏหมายวินัยการเงินการคลัง ผิดพ.ร.บ.เงินตรามาตรา 6 และมาตรา 9 แล้ว ยังมีโอกาสนำไปสู่ความเสียหายการเงินการคลังของประเทศอย่างร้ายแรง ดังนั้นตนคิดว่าไม่เป็นประโยชน์ที่รัฐบาลจะลุยไฟเดินหน้าอย่างเดียว มีช่องทางปรับก็ควรปรับเพราะมีหลายสิ่งที่แนะนำไปก็ควรรับฟัง





