“นพ.วรงค์” ถึงกับช็อก หลังรู้ข่าวราชทัณฑ์ ลดโทษ “คนโกง” จำนำข้าว

"นพ.วรงค์" ถึงกับช็อก หลังรู้ข่าวราชทัณฑ์ ลดโทษ "คนโกง" จำนำข้าว

นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม เปิดใจทีมข่าวท็อปนิวส์ รับรู้ข่าวที่กรมราชทัณฑ์ลดโทษคนโกงคดีจำนำข้าว เผยกว่าจะนำคนทุจริตมารับโทษตามกฎหมายเลือดตาแทบกระเด็น ชี้คดีนี้ทำความเสียหายใหญ่หลวงและเป็น “คดีโกงชาติ” ซึ่งร้ายแรงกว่าคดียาเสพติด แต่ราชทัณฑ์ลดโทษให้ติดคุกไม่กี่ปียอมรับไม่ได้ ชี้กระทรวงยุติธรรมกำลังนำความ “อยุติธรรม” ให้กับผู้เสียภาษี

หลังจากที่ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เสนอลดโทษผู้ต้องขังจำนวน 1 แสน 3 หมื่นราย ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปรากฎออกมาสู่สายตาประชาชน ก็คงจะไม่มีแรงสั่นสะเทือนอะไร หากนักโทษที่ได้รับการลดโทษ ไม่ใช่ นักโทษ “บิ๊กเนม” ทั้งนักการเมือง และอดีตข้าราชการระดับสูง ที่ถูกศาลพิพากษาในคดีสำคัญ จำนวน 5 ราย คือ นาย ภูมิ สาระผล นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ นายมนัส สร้อยพลอย นายอภิชาติ หรือ เสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร และนาง จุฑามาศ ศิริวรรณ รวมอยู่ด้วย

ล่าสุดทีมข่าวท็อปนิวส์ ได้สัมภาษณ์นายแพทย์วรง เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี และเป็นผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีรับจำนำข้าว ซึ่งนายแพทย์วรงค์ อธิบายการตรวจสอลคดีโกงชาติครั้งมโหฬาร ว่ากว่าจะหาหลักฐาน มาแสดงให้ประชาชนทั่วประเทศได้เห็นเครือข่ายการทุจริตคอรัปชั่นครั้งใหญ่นี้เลือดตาแทบกระเด็น กว่าจะนำคนที่โกงชาติบ้านเมืองเข้าคุกได้ ทีมงานทำงานเหนื่อยหนัก แต่จู่ ๆ กรมราชทัณฑ์กลับใช้ “กฎกระทรวง”ฉวยโอกาสลดหย่อนโทษ ให้นักโทษการเมืองเหล่านี้ ทำให้ตนเอง “ช็อกมาก” เพราะคิดไม่ถึงเพราะจำได้ว่าอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ นายบุญทรง ถูกตัดสินจำคุกนานถึง 42 ปี พอไปยื่นอุทรณ์ก็กลายเป็นรับโทษ 48 ปี ส่วนเสี่ยเปี๋ยงก็ 48 ปี ซึ่งเท่าที่ทราบรู้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ติดคุกมาแล้ว 4 ปี 4 เดือน ถ้าได้ลดโทษจะได้ออกจากคุกในปีหน้านี้

ที่สำคัญคำอธิบายของคนที่เกี่ยวข้องต่อสาธารณชนเหมือนการอธิบายเหมือนนักโทษทั่ว ๆ ไป ที่ไปวิ่งราว ปล้นทรัพย์หรือคดีอื่นๆ ก็พอรับได้แต่คดีที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อประเทศชาติ ส่วนตัวถือเป็นคดี “โกงชาติ” ซึ่งร้ายแรงกว่าคดียาเสพติด เพราะมันสร้างความเสียหายต่อระบบตลาดข้าว กระทบระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่ผู้กระทำผิดกลับได้รับโทษไม่กี่ปีแบบนี้ รับไม่ได้

นายแพทย์วรงค์ อธิบายต่อว่า ส่วนตัวยอมรับในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมที่หลังจากศาลตัดสินแล้ว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจาก “ช่องโหว่”ที่เกิดขึ้นหลังศาลตัดสิน ซึ่้งรัฐธรรมนูญฉบับบนี้เป็นคดีที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นฉบับปราบโกง แต่หารู้ไม่ว่าหลังจากที่ศาลตัดสินแล้วกลับกลายเป็นช่องโหว่ โดยส่วนตัวเชื่อว่ากระบวนการที่อ้างมานั่น “มีธง” ในใจ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ตนเชื่อว่าคนที่เกี่ยวข้องมีธงเนื่องจากตนได้ไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทราบว่า การจะลดโทษใครนั้นมีเป้าหมายอยู่แล้วว่าจะช่วยใคร จึงพยายามดึงกฎเกณฑ์ออกมาในรูปแบบนั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ขนลุก! มูลนิธิร่วมกตัญญู จัดโต๊ะจีนเชิญดวงวิญญาณตึกสตง.ถล่ม "หนุ่มกู้ภัย" ร้องลั่น "หิว ช่วยด้วย"
"เอกสิทธิ์" เผยมาตรฐาน-คุณภาพภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยสำคัญสร้างเชื่อมั่นความปลอดภัย รองรับพิบัติภัยในอนาคต
"รมว.ท่องเที่ยว" ระดมภาครัฐ-เอกชน ถกปัญหาความปลอดภัย ฟื้นภาพลักษณ์เที่ยวไทย หลังเจอกระแสข่าวด้านลบ
นาทีชีวิต! ส่งเฮลิคอปเตอร์ EC-725 ช่วยผู้ป่วยวิกฤต ส่งถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา
วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระกุศล "เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ" วันคล้ายวันประสูติ
"สก.นภาพล" ซัดกระทู้ถาม "กทม." เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า
จีนสั่งยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทจากสหรัฐ
"รองผอ." คดีฮั้วประมูล เผย "3 วิศวกร" รับลงชื่อตรวจงานสร้างตึกสตง.จริง เร่งสอบลายมืออีก 7 ราย ยังปฏิเสธ
"นายกฯ" รับมอบเงิน 5 ล้าน มูลนิธิเรนวูด ช่วยผู้ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว
"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ตรง ป.ป.ช.-อสส.ไม่ทำหน้าที่โจทก์ เหตุศาลฎีกาฯ ต้องออกโรงไต่สวนเอง "ทักษิณ"ไม่ติดคุกจริงตามคำพิพากษา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น