No data was found

กกร. คาด โควิดรอบใหม่กระทบศก. 3 เดือน วอนรัฐเร่งฉีดวัคซีน-เพิ่มเยียวยากระตุ้นศก.

กดติดตาม TOP NEWS

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท.แถลงผลประชุม กกร.ประจำเดือน เม.ย.64 ว่า จากการแพร่ระบาดของโค วิด-19 ระลอกเดือนเมษายน คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศอย่างน้อย 3 เดือน โดยเฉพาะแผนการท่องเที่ยวและการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศช่วง 3 เดือนข้างหน้า ทำได้ยากหรืออาจต้องเลื่อนออกไป รวมถึงกำลังซื้อภายในประเทศ เพราะแรงงานในภาคบริการต้องหยุดหรือลดชั่วโมงการทำงาน

ดังนั้น รัฐจำเป็นต้องใช้เม็ดเงินที่มีกว่า 2 แสนล้านบาท เพื่อมาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้องคำนึงถึง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีความแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน (K-shape Recovery) การประคับประคองกำลังซื้อในประเทศโดยรวม การขยายระยะเวลามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการและแรงงานที่ยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรค และการกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 ที่ต้องเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพราะวัคซีนจะเป็นปัจจัยที่สร้างเสริมความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจ และประชาชนได้มากที่สุด และทำให้ภาพของอุปสงค์ในประเทศกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มมีทิศทางฟื้นตัวขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะขยายตัวดีกว่าที่ประเมินไว้ก่อน หน้าค่อนข้างมาก จากเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ รวมถึงการฉีดวัคซีนที่ทำได้รวดเร็ว ทำให้การขยายตัวของ เศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นแรงขับเคลื่อนหลักให้ภาพรวมเศรษฐกิจและการค้าโลกมีทิศทางฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่ประเมินไว้

สอดคล้องกับรายงาน ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในเดือน เม.ย.64 ที่ได้ประเมินเศรษฐกิจโลกในปี 2564 ว่าจะขยายตัว 6.0% ดีขึ้นเมื่อ เทียบกับประมาณการครั้งก่อนที่คาดว่าจะขยายตัว 5.5%

เศรษฐกิจไทยจะได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจคู่ค้าที่ขยายตัวดีขึ้น แม้หลายประเทศจะยังเผชิญวิกฤตโรคระบาด แต่เครื่องชี้ ภาคการผลิตและอุปสงค์ต่างประเทศกลับสะท้อน Momentum ที่มีทิศทางดีขึ้นตามลำดับ สอดคล้องกับรายงานขององค์การการค้าโลก (WTO) ณ เดือน มี.ค.64 ที่ประเมินว่า ปริมาณการค้าโลก (World Merchandise Trade) ในปี 64 จะขยายตัวได้ถึง 8.0% เมื่อ เทียบกับประมาณการครั้งก่อนที่คาดว่าจะขยายตัว 7.2% อันจะเป็นผลดีต่อภาคการผลิตและการส่งออกของไทยที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดีกว่า การประเมินครั้งก่อนด้วยเช่นกัน

รวมไปถึงมุมมองต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและมูลค่าการนำเข้าของคู่ค้าหลักของไทยในปีนี้มีทิศทางดีขึ้นเมื่อเทียบ กับการประเมินครั้งก่อน โดยเฉพาะสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่นที่ขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ยังมีปัญหาขาดแคลนตู้ขนส่งสินค้าและค่าระวางเรือ ที่ทรงตัวในระดับสูง รวมถึงต้นทุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในระดับสูงยังเป็นแรงกดดันสำคัญต่อความสามารถของผู้ส่งออกของไทยในระยะต่อ ไป

นายสุพันธุ์ กล่าวอีกว่า กกร.มีความเป็นห่วงเรื่องการกระจายวัคซีนที่ยังล่าช้าและแผนงานยังไม่ชัดเจน จึงจัด ตั้งคณะทำงานใน 4 ด้าน เพื่อจัดทำข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี คือ

1.คณะแก้ไขปัญหาการกระจายและฉีดวัคซีน โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนในเรื่องโลจิสติกส์ การขนส่งและสถานที่ใน การฉีด เช่น ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร นิคมอุตสาหกรรม ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น

2.คณะสร้างความเชื่อมั่นและประชาสัมพันธ์ โดยประสานข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน

3.คณะสนับสนุนระบบอำนวยความสะดวกระบบงานต่างๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการฉีด จนถึงการออกใบรับรอง และการจัดทำระบบ Vaccine Passport เพื่อใช้แสดงในการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ

4.คณะจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ที่ผ่านมาได้รวบรวมความต้องการภาคเอกชนในการซื้อวัคซีนเพื่อเร่งการฉีดให้เร็วขึ้น โดยมีผู้ซื้อ แสดงความจำนงมาแล้วกว่า 5 ล้านโดส และขอให้ อย.ผ่อนคลายระเบียบเพื่อให้มีการซื้อวัคซีนได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากภาคเอกชนจัดส่งข้อมูลให้ภาครัฐแล้ว นายกรัฐมนตรีและคณะทำงานพิจารณาการจัดหา วัคซีนฯ ได้ตอบรับข้อเสนออย่างรวดเร็ว โดยได้อำนวยความสะดวกในการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม พร้อมกับจะจัดหาวัคซีนอีก 2-3 ยี่ห้อ เพิ่มเติมจากที่ดำเนินการไว้แล้ว 35 ล้านโดส ซึ่ง กกร.จะช่วยรัฐบาลจัดหาวัคซีนให้กับพนักงานลูกจ้างเองด้วย เพื่อช่วยลดงบประมาณของ รัฐบาล

นอกจากนี้ ส.อ.ท.และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้เสนอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขยายเวลา พ.ร. ก.กำหนดหน่วยงานและกิจการที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ที่ได้ขยาย ระยะเวลามา 1 ปีและจะครบกำหนดเดือน พ.ค.นี้ออกไปก่อน เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องรายละเอียดการบังคับใช้ ทำให้ผู้ ประกอบการไม่สามารถปฎิบัติตามได้ นอกจากนี้จะขอให้กระทรวงฯ ทบทวน พ.ร.บ. PDPA ที่มีรายละเอียดและบทลงโทษเข้มงวดเกินไป ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เพลิงไหม้โรงงานเก็บการสารเคมีอุตสาหกรรมวินโพรเสส สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งควบคุมสถานการณ์ไฟที่ปะทุ และจัดทำแผนการเยียวยา ปชช.
กองทัพเรือ ร่วมมูลนิธิ รพ.สิริกิติ์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ทอดผ้าป่าสามัคคีการกุศล
"บีทีเอส" แจงปมผู้โดยสารติดลิฟต์ สถานีแบริ่ง จนท.เร่งช่วยเหลือปลอดภัย
"ตร.ไซเบอร์" บุกทลาย 2 เหมืองบิทคอยน์ ภาคตะวันตก ลักไฟหลวง 2 เดือน กว่า 5 ล้านบาท
"กกต." เตือน จูงใจ ชี้ชวนให้คนลงสมัครสว.เสี่ยงผิดกฎหมาย
ข่าวดี "นายกฯ" เผยยางพาราแตะ กก. 100 บาทเร็วๆนี้ ลั่นมาจากการทุ่มเททำงาน ไม่ใช่โชคช่วย
สอบสวนกลาง รวบ "หนุ่มดาวทวิต" ลวงเด็กชายถ่ายคลิปสร้างคอนเทนต์ ขายในกลุ่มลับ
จนท.ชุดลาดตระเวนกว่า 20 นาย เร่งติดตาม "แก๊งผ้าเหลือง" ลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว
สอบสวนกลาง บุกค้นโรงงานรีไซเคิลพลาสติกเถื่อน ชลบุรี สร้างความเดือนร้อนให้ชุมชน
เปิดเบื้องลึก "รมว.ปุ๋ง" ถูกโยกนั่งวธ. รับงานใหญ่ ลุย Soft Power

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น