No data was found

ย้อนขั้นตอนขออภัยโทษ “ทักษิณ” ใช้เวลาแค่ 10 วัน เรื่องถึงรัฐบาล

กดติดตาม TOP NEWS

ย้อนขั้นตอนขออภัยโทษ “ทักษิณ” ใช้เวลาแค่ 10 วัน เรื่องถึงรัฐบาล

หลังจากวานนี้ (31 ส.ค.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทวงยุติธรรม ยอมรับว่าได้รับเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนักนายกรัฐมนตรีและนักโทษคดีทุจริตแล้ว ทำให้หลายฝ่ายออกมาเตือนสตินายวิษณุว่า การดำเนินการหลังจากนี้ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้ระคายเบื้องพระยุคลบาท

 

 

สำหรับการดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณนั้น เป็นการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษแบบ “เฉพาะราย” ซึ่งกรมราชทัณฑ์เคยชี้แจงว่านายทักษิณสามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ทันทีนับตั้งแต่วันที่กลับมาติดคุก โดยขั้นตอนการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษแบบเฉพาะรายนั้น มีรายละเอียดที่สำคัญๆ ดังนี้

ข่าวที่น่าสนใจ

 

– ผู้ที่จะมีสิทธิยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษได้ จะต้องเป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้รับโทษประหารชีวิต จําคุก กักขัง ปรับ หรือริบทรัพย์สิน หรือผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้อง เช่น บิดา มารดา บุตร ภรรยา ญาติที่เกี่ยวข้องใกล้ชิด จะใช้สิทธิยื่นเรื่องราวทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษผ่านเรือนจําหรือทัณฑสถาน หรือสวนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องก็ได้ เช่น สํานักราชเลขาธิการ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย หรือ กระทรวงการต่างประเทศ กรณีเป็นนักโทษชาวต่างประเทศ

– การยื่นขอพระราชทานอภัยโทษไม่ว่าช่องทางใด จะต้องย้อนส่งเรื่องมานับหนึ่งที่เรือนจํา หรือทัณฑสถานที่คุมตัวนักโทษ ซึ่งเมื่อเรือนจำได้รับเรื่องแล้ว จะต้องดำเนินการสอบสวนเรื่องราวทูลเกล้าฯ เพื่อรวบรวมเอกสารหลักฐานให้แล้วเสร็จ แล้วส่งเอกสารหลักฐานต่างๆที่ได้กำหนดไว้ไปให้กรมราชทัณฑ์เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง อาทิ สําเนาคำพิพากษาทุกชั้นศาล ,บันทึกความเห็นของแพทย์หรือจิตแพทย์ กรณีนักโทษอ้างปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ความพิการของร่างกาย ความบกพร่องทางจิตใจและอารมณ์ หรือเอกสารอื่นถ้ามี เช่น เอกสารหรือภาพถ่ายแสดงการประกอบคุณงามความดีในอดีตตามที่กล่าวอ้าง

– ในส่วนของวิธีดำเนินการของกรมราชทัณฑ์ เมื่อได้รับเรื่องราวขอพระราชทานอภัยโทษจากเรือนจำ/ทัณฑสถานแล้ว จะดำเนินการดังนี้

1.ตรวจสอบเรื่องราวโดยละเอียดเกี่ยวกับฎีกา คำพิพากษา หมายจำคุก หมายลดโทษ เอกสารประกอบเรื่องราวว่าถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ หากไม่ถูกต้องจะจัดส่งกลับไปเรือนจำและทัณฑสถานเพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง

2.ในกรณีมีปัญหาที่จะต้องขอทราบข้อเท็จจริง ประวัติการกระทำผิดหรือรายละเอียดบางประการเกี่ยวกับนักโทษ จะต้องประสานงานไปยังเรือนจำ หรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานีตำรวจภูธรท้องที่ หรือศาล เป็นต้น

3.ในรายที่เป็นนักโทษความผิดคดียาเสพติดให้โทษ ต้องขอทราบข้อมูลประวัติการกระทำผิดไปยัง สำนักงาน ปปส. เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาทุกราย

4.สรุปย่อฎีกาทูลเกล้าฯ และคำพิพากษาในคดีของนักโทษเด็ดขาดรายนั้นๆ

5.ประมวลเรื่องราว ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและเหตุผลที่จะถวายความเห็นขึ้นไปตามลำดับชั้นจนถึงกระทรวงยุติธรรม เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาให้ความเห็นแล้ว จะเสนอเรื่องเพื่อนายกรัฐมนตรีนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯต่อไป

6.เมื่อมีพระบรมราชวินิจฉัยในเรื่องราวทูลเกล้าฯถวายฎีกานั้นเป็นประการใด กรมราชทัณฑ์จะแจ้งให้เรือนจำ หรือ ทัณฑสถานทราบเพื่อแจ้งผู้ถวายฎีกา และบันทึกรับทราบไว้เป็นหลักฐานต่อไป

7.กรณีนักโทษซึ่งต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ประหารชีวิต ก็จะต้องดำเนินการโดยนัยเดียวกันกับการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นรายบุคคลดังกล่าวมาแล้ว หากมีพระราชกระแสให้ยกฎีกา คือไม่พระราชทานอภัยโทษให้ กรมราชทัณฑ์จะแจ้งเรือนจำให้บังคับโทษประหารชีวิตกับนักโทษรายนั้นโดยไม่ชักช้า

 

 

เมื่อกรมราชทัณฑ์ดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้น จะส่งเรื่องไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ตามขั้นตอน ไล่ไปตั้งแต่ กระทรวงยุติธรรม สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักราชเลขาธิการ จากนั้นจะเป็นการนำความขึ้นกราบบังคมทูล ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย และเมื่อมีผลฎีกาไม่ว่าจะเป็นการพักโทษ ลดโทษ พ้นโทษ หรือยกฎีกา ก็จะมีการแจ้งมายังเรือนจำหรือทัณฑสถานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามหากทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยยกฏีกาหรือไม่อภัยโทษ นักโทษคนนั้นๆจะไม่สามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้อีก จนกว่าจะพ้นระยะเวลา 2 ปี

 

 

ทั้งนี้หากนับระยะเวลาตั้งแต่นายทักษิณกลับมารับโทษเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมจนถึงปัจจุบัน ใช้ระยะเวลาเพียง 10 วันเท่านั้น ที่เรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณได้ถูกส่งมาถึงมือนายวิษณุในฐานะรักษาการกระทรวงยุติธรรมแล้ว ขั้นตอนจากนี้เหลือเพียงอีกสามขั้นตอนเท่านั้นคือ ส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสำนักราชเลขาธิการ ก่อนนำความขึ้นกราบบังคมทูล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สอบสวนกลาง" ล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แฝงตัวฟอกเงินในไทย เงินสะพัด 7 หมื่นกว่าล้าน
“ทนายตั้ม” ปูดข้อมูลลับ ท่านผู้หญิง VVVIP เอี่ยวเว็บพนัน แพ็คกระเป๋า หนีเข้าอังกฤษ
“รทสช.” หนุนคนการเมือง ห้ามจุ้นเลือกตั้งสว.
สุดสลด "พ่อป่วยจิต" คลั่งคว้าชะแลงเหล็กไล่ทุบ "ลูก-เมีย" ดับ ก่อนลาโลก
กะเหรี่ยงระส่ำหนัก ส่อแตกคอกันเอง แย่งคุมพื้นที่ ล่าสุด “ปะหล่อง” สั่ง “คะฉิ่น” ถอนกำลังออกจากหมู่บ้านน้ำอุ๋ม ตอกย้ำรอยร้าว
“ผบ.ทสส.” ฮึ่ม สั่งกองทัพพัฒนาอาวุธยิงระยะไกล-โดรน ตอบโต้ภัยคุกคาม ติดเขี้ยวเล็บทหารไทย
"ดร.นิว"ฝากถึงสภาธรรมศาสตร์ ตัดสินใจให้ดีเลือกอธิการฯคนใหม่ ระวังมธ.ถูกนำใช้เป็นเครื่องมือการเมือง 3 นิ้ว
โซเชียล ซัดยับ "รถเบนซ์" ขับขวางรถพยาบาล ขณะไปรับผู้ป่วยฉุกเฉิน จี้ล่าตัวดำเนินคดี
"รัฐบาลไทย-บรูไนฯ" ยินดีร่วมมือทุกมติ สานสัมพันธ์ทางการทูต ครบรอบ 40 ปี
ศึกยะไข่เดือด กองทัพอาระกัน (AA) ประกาศเคอร์ฟิวด่วนที่สุด หลัง “โรฮิงญา” ซุ่มตีชาวบ้าน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น