แพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจ อัปเดตอาการป่วย “น.ช.ทักษิณ” ระบุไม่ได้เวลารักษา อ้างปอด-หัวใจ ยังน่าเป็นห่วง

"แพทย์ใหญ่" รพ.ตำรวจ อัปเดตอาการ "ทักษิณ" พบปอด-หัวใจ มีปัญหา ย้ำไม่ส่งตัวรักษาที่อื่น โต้รัวข้อข้องใจสังคม ย้ายตัวจากราชทัณฑ์ ไม่เคยมีหน่วยงานไหนต้องมาตรวจสอบ

สืบเนื่องจากกรณีที่นายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้ากรณีส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องขังในเรือนจำฯ เข้ารักษาโรงพยาบาลตำรวจ ช่วงกลางดึกวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า สำหรับเรื่องทางรักษาอาการป่วยล่าสุดของนายทักษิณให้สอบถามไปทางคณะแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ รวมทั้งเป็นสิทธิส่วนบุคคลไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะเป็นจรรยาบรรณทางวิชาชีพว่าผู้ป่วยอาการหนักหรือไม่ และไม่ใช่นายทักษิณเพียงบุคคลเดียวแต่ผู้ต้องขังทุกคนก็ไม่สามารถบอกได้ว่าสภาพร่างกายเป็นอย่างไร และแพทย์ไม่มีหน้าที่รายงานผลการรักษามาให้ราชทัณฑ์ เพียงแต่ประสานการทำงานตามหน้าที่รับผิดชอบ

 

ส่วนการเข้มงวดชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ที่รักษาตัวนายทักษิณเป็นไปตามหลักข้อปฏิบัติของสถานที่ โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คอยเฝ้าหน้าประตูร่วมกับตำรวจในพื้นที่ดูแลความปลอดภัย ป้องกันบุคคลภายนอก และขณะนี้ยังไม่มีรายงานส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลอื่นหรือเอกชน แต่จะรักษาตัวจนกลับเข้ามาในเรือนจำหรือไปรักษาต่อทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์นั้นจะมีทีมแพทย์พูดคุยหารือกับทางราชทัณฑ์อีกครั้งนั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดทางด้านพล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เปิดเผยภายหลังจากได้ไปตรวจอาการของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อวันมี่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.โสภณรัชต์ ระบุว่า ที่ผ่านมาได้ทำการตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้านายทักษิณ โดยใช้เครื่องแอคโค่ โมบาย วันนี้ใช้เครื่องแอคโค่ใหญ่ พบว่าจากการตรวจปอด และหัวใจ ยังมีอาการน่าเป็นห่วง ส่วนระยะเวลาที่ใช้ในการรักษา ยังไม่สามารถระบุได้

ขณะที่ความดันยังทรงตัว ไม่ถึงกับทรุด ยังมีสติสามารถพูดคุยกับแพทย์ได้

ทั้งนี้ อาการทั้งหมดได้รายงานไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์แล้ว ส่วนห้องที่ใช้รักษาตัวนายทักษิณ ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาได้ดัดแปลงห้องพักของนายทักษิณให้เป็นกึ่ง ICU หรือที่เรียกว่า IMCU ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายอุปกรณ์รักษาได้ทันที

 

 

 

สำหรับการรักษาของนายทักษิณ ทางโรงพยาบาลไม่ได้เป็นผู้ร้องขอ แต่ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นผู้ร้องขอให้ส่งตัวมาแบบเร่งด่วน โดยไม่มีเวลาให้ตั้งตัว ซึ่ง รพ.ตำรวจรับตัวมาเป็นกรณีเดียวกับผู้ป่วยฉุกเฉินทั่วไป โดยห้องไหนว่างก็ให้เข้าไปอยู่ห้องนั้น ส่วนกรณีญาติประสานเข้ามาเยี่ยม นายทักษิณนั้น ตรงนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ รพ.ตำรวจ ส่วนทางการแพทย์ยังไม่พ้นเวลาการกักตัวที่เป็นไปตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์

 

จากกรณีที่มีหลายฝ่ายขอให้มีแพทย์จากหน่วยงานกลางมาร่วมสังเกตการณ์ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ ระบุว่า เคสผู้ป่วยทุกรายไม่เคยมีหน่วยงานไหนต้องเข้ามาตรวจสอบ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ส่งมาจาก โรงพยาบาลราชทัณฑ์ นายทักษิณ ไม่ใช่รายแรกที่ส่งมา เพราะที่ผ่านมาเคยส่งมาเป็นจำนวนมากแทบทั้งวัน ซึ่งเป็นลักษณะนี้มากว่า 30 ปีแล้ว ไม่เคยมีหน่วยงานไหน เข้ามาร้องขอตรวจสอบ เพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ป่วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"หมอมิ้ง" ยัน "นายกฯอิ๊งค์" ไม่ลาออก ย้ำเจตนารมย์คุย "ฮุน เซน" ทำเพื่อชาติ มั่นใจปท.ผ่านพ้น 2 วิกฤต
ไม่รอด ! ฉวยโอกาส ขณะกำลังฝ่ายความมั่นคงเฝ้าชายแดน 2 ผู้ต้องหาลอบขนบุหรี่เถื่อนจากกัมพูชา
จันทบุรี จับสายลับกัมพูชาพร้อมโดรนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชี้เป้า กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์
"โฆษกกต." เผยไทยเชิญองค์การระหว่างประเทศ เข้าพบ “18 เชลยกัมพูชา” พรุ่งนี้ รับทราบข้อเท็จจริง ไล่บี้เขมรชดใช้ปมยิงถล่มรพ.-บ้านพลเรือน
ฉะเชิงเทรา ผบ.พล.ร.11 รับมอบสิ่งของธารน้ำใจ ปชช. ส่งถึงทหารแนวหน้า
สื่อกัมพูชา แท็กทีมปั่นเฟกนิวส์ไม่หยุด หลัง “มาลี” แถลงอ้างไทยส่งทหาร วางลวดหนามช่องอานม้า รุกล้ำเขมร

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​