ที่รัฐสภา ระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. …. แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 วาระที่สองฉบับใหม่ที่กมธ.ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้อภิปรายต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า ขอตั้งข้อสังเกตต่อประเด็นความเห็นเพิ่มเติมจากกมธ. ในมาตรา 83 วรรคสอง ที่ระบุให้การเลือกตั้ง ส.ส. ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ เนื่องจากประเด็นการออกเสียงโดยตรงและลับนั้น ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัย ในสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า กรณีที่มีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งหรือบุคคลที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใช้ช่วยกาเครื่องหมายบนบัตรเลือกตั้งในคูหา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 92 กำหนด ว่าจะขัดต่อการลงมติเป็นการลับหรือไม่ ว่าสามารถทำได้ เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 บัญญัติไว้
พล.อ.ต.เฉลิมชัย อภิปรายท้วงติง ด้วยว่าในการแก้ไขมาตรา 83 ที่กำหนดเนื้อหาให้มีบัตรเลือกตั้งแบบละ 1 ใบ คือ แบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น อาจทำให้มีปัญหากระทบต่อการจัดการเลือกตั้งด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540, รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 และ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ไม่เคยเขียนถึงจำนวนบัตรเลือกตั้ง เพราะมีประเด็นที่อนาคตอาจใช้วิธีการเลือกตั้งแบบอื่นนอกจากบัตรเลือกกตั้ง อีกทั้งในการพิจารณาพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เคยหารือกันถึงการใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการอภิปรายของส.ว. ในการแก้ไขมาตรา 83 นั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าได้ถอนคำแปรญัตติตามที่สงวนไว้ แต่ยังมีการตั้งข้อสังเกตเพื่อให้รัฐสภาบันทึกไว้ อาทิ การคำนวณคะแนนของส.ส. ที่ไม่ควรใช้ระบบคำนวณที่ทำให้ได้ส.ส.เกินคะแนนนิยมที่ผ่านการลงคะแนนเลือกตั้ง และควรพิจารณาให้เหมาะสมกับสัดส่วนของผู้ลงคะแนนเลือกผู้แทนตามความจริง