นายกฯเผย ตำรวจแจงแล้วเอาผิดสถานบันเทิง และเจ้าหน้าที่ละเลยปล่อยสถานบันเทิงจนเกิดการระบาดโควิด 19 พร้อมจับตาวาระ ครม.ชงคนละครึ่งเฟส 3และขยายเวลาใช้เงินโครงการเราชนะ
วันที่ 20 เม.ย. 64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่ตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาลซึ่งเป็นไปตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกัน โควิด-19 ก่อนการประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิเสธตอบคำถาม การประชุม ครม.นี้ จะมีการพิจารณาเรื่องเยียวยาผู้ที่รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 รอบ 3 หรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเอาผิดตำรวจที่ปล่อยให้เปิดสถานบันเทิง เปิดเกินเวลา และปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาดของ โควิด-19 อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงไปแล้วเมื่อวานนี้
ขณะที่พบว่าการประชุมครม.วันนี้ มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ , นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน รวมถึงนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมครม.แบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในวันนี้ด้วย
ส่วนมาตรการจากสำนักโฆษกสำนักเลขาธิการนายกฯ ได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่เข้าปฎิบัติหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาลจะต้องลงทะเบียนแจ้งชื่อพร้อมกับตรวจวัดอุณหภูมิและต้องเว้นระยะห่างในการสัมภาษณ์ พร้อมกันนี้มีการขอความร่วมมือสื่อมวลชนไม่ให้มีการรุมสัมภาษณ์ พลเอกประวิตรวงษ์ สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี
สำหรับวาระสำคัญในการประชุม ครม. วันนี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่อง การออกมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 โดยกระทรวงการคลังจะเสนอของบประมาณ เพิ่มเติม ใช้ในโครงการเราชนะ เพียงเล็กน้อย เพื่อให้ประชาชน ที่มีคุณสมบัติเข้าหลักเกณฑ์ได้รับสิทธิ ครอบคลุมทั้งหมด แต่ทุกคนจะยังได้รับวงเงิน 7,000 บาทเท่าเดิม พร้อมทั้ง ขอขยายระยะเวลาการใช้เงินในโครงการนี้ เพิ่มอีก 1 เดือนด้วย จากเดิมสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม เป็น 30 มิถุนายนนี้
จับตาพิจารณา โครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 3 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และคาดว่าจะมีแนวทางแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคทางการค้าการลงทุน เพื่อช่วยเหลือประชาชนฐานราก เช่น ลูกจ้างชั่วคราว รวมถึงบัณฑิตจบใหม่ที่อาจตกงานกว่า 1 ล้านคน ทั้งการขอความร่วมมือเอกชนรับบัณฑิตจบใหม่เข้าทำงาน ตามโครงการ “รัฐช่วยจ่าย เอกชนช่วยจ่าย” หลังจากเปิดโครงการเมื่อปีที่แล้ว จำนวน 260,000 อัตรา ระยะเวลาจ้างงาน 1 ปี
สำนักงบประมาณจะเสนอร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ให้คณะรัฐมนตรี พิจารณา เน้นหน่วยงานราชการจัดทำโครงการระยะสั้น 1 ปี ป้องกันและฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ทางสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ถ้าหากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบที่ 4 รัฐบาลยังมีงบกลางที่จะสามารถดึงมาใช้ได้อีก 89,000 ล้านบาท รวมทั้งงบกลางฉุกเฉินเมื่อจำเป็นที่สำรองไว้สำหรับภัยพิบัติ ประมาณ 50,000 ล้านบาท ที่จะมาช่วยเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิดถ้าจำเป็น
และหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วเสร็จทีมโฆษกรัฐบาลซึ่งอยู่ระหว่างการกักตัวทั้ง 3 คนจะเข้าร่วมการประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์จากที่บ้าน จากนั้นจะมีการบันทึกเสียงเพื่อสรุปผลการประชุมครม.และเผยแพร่ผ่าน พอดแคสต์ไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วเสร็จในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้เรียกทีมเศรษฐกิจหารือนัดพิเศษ บนตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลอาทิ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น