No data was found

“หมอยง” ชี้โควิด อันตราย ระบาด-กลายพันธุ์-เป็นแล้วเป็นอีก

กดติดตาม TOP NEWS

วันที่ 20 เม.ย. 64 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Yong Poovorawan” มีเนื้อหาดังนี้ โควิด-19 เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ความรู้ก็เปลี่ยน จึงมีความสำคัญในการติดตาม การใส่หน้ากากอนามัย สมัยก่อนโควิด เราจะแนะนำให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคออกไป มากกว่าที่จะแนะนำให้คนปกติใส่ เมื่อเกิดการระบาดของโรคโควิด ปัจจุบันเป็นที่ทราบแน่ชัดแล้วว่า ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันโรคร่วมกัน ในการลดการแพร่กระจายป้องกันเขา และป้องกันเรา

การแพร่กระจายของโรคโควิด แต่เดิมกล่าวว่าการแพร่กระจายจะเป็นทางฝอยละออง เพราะดูจากอำนาจการแพร่กระจายของโรค (R0) จะอยู่ที่ 2-3 ไม่ได้มากแบบโรคหัด (R0 = 15) แต่หลังจากมีการแพร่กระจายอย่างมากใน superspreading โดยเฉพาะในที่ปกปิด อากาศถ่ายเทไม่ดี รวมทั้ง หรือมีรายงานการระบาดในโบสถ์ที่มีการร้องเพลง ทำให้เข้าใจว่าการแพร่กระจายของโรค สามารถผ่านไปทางอากาศได้ (airborne) อย่างเช่นในสถานบันเทิง มาตรการในการป้องกันจึงจำเป็นที่จะต้องเข้มงวดแบบการแพร่กระจายในอากาศ ดังนั้นในอาคารจึงจำเป็นที่จะต้องสวมหน้ากากอนามัยเป็นอย่างยิ่งการกลายพันธุ์ ในระยะแรก ดูเหมือนว่าการกลายพันธุ์ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับไข้หวัดใหญ่

เมื่อไวรัสออกจากประเทศจีน เริ่มมีการกลายพันธุ์มาตลอด จะเห็นว่าสายพันธุ์ G แพร่กระจายได้รวดเร็วและกระจายไปทั่วโลก กลบสายพันธุ์อื่นต่อมาพบว่ามีการกลายพันธุ์อีกหลายสายพันธุ์ ที่ทำให้แพร่กระจายได้รวดเร็วและหลบหลีกภูมิต้านทาน สายพันธุ์อังกฤษแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์ Gเดิม ซึ่งต่อไปก็คงจะกระจายทั่วโลก และเพิ่มอัตราการติดโรคได้มากขึ้น ที่เห็นในประเทศไทย

การเป็นแล้วเป็นได้อีก หลักฐานปัจจุบันค่อนข้างชัดแล้วว่าโรคนี้ เมื่อหายแล้วยังมีโอกาสเป็นได้อีกเมื่อภูมิต้านทานตกต่ำลง หรือไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม? ดังนั้นในทำนองเดียวกันการให้วัคซีนเพื่อสร้างภูมิต้านทาน ประสิทธิภาพในการป้องกันจึงไม่ 100% เมื่อให้แล้วก็ยังเป็นโรคได้โดยมีความหวังที่จะให้ความรุนแรงของโรคลดลง

ภูมิคุ้มกันกลุ่ม ที่เคยคาดหวังไว้ จะได้ผลดี ก็ต่อเมื่อโรคนั้นเป็นแล้วโอกาสกลับเป็นซ้ำน้อยมาก เช่น โรคหัด สุกใส แต่สำหรับโควิด 19 ความหวังของภูมิคุ้มกันกลุ่ม อาจจะต้องมากกว่าที่คิด เพราะให้วัคซีนแล้ว ก็ยังมีโอกาสที่ติดเชื้อและแพร่กระจายโรคได้ แต่อาการน้อยลง อัตราในการให้วัคซีนอาจจะต้องมากกว่าตัวเลขที่คำนวณตาม R0

ดังนั้นความรู้ในปัจจุบันนี้ ณ ขณะนี้ ก็ถูกต้องสำหรับขณะนี้ แต่ในวันข้างหน้าเมื่อมีองค์ความรู้ใหม่ขึ้นมาก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โซเชียลแชร์ว่อนเน็ต ภาพชวนขนหัวลุก "แมลงสาบ" นับร้อย อัดแน่นอยู่ในเครื่องชงกาแฟ
เทคนิคชลบุรี ดังกระหึ่มกระทรวงอาชีวะ เปิดห้องปฏิบัติการภาษาจีน ทันสมัยแห่งแรกของโลก ส่งเสริมให้เด็กชลบุรี เรียนรู้ภาษาจีน พื้นฐานสู่อาชีพ รองรับโครงการอีอีซี
อบจ.ฉะเชิงเทรา จัดโครงการฝึกอบรมคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่เด็กและเยาวชน ประจำปี 2567 รุ่นที่ 2
เปิดคำฟ้องคดีที่ 3 "อานนท์" ติดคุกเพิ่ม 3 ปี ปราศรัยหมิ่น ใส่ร้าย เบื้องสูง ชัดเจน "เจ๊จุก" จวกซ้ำอย่ามาบิดเบือนแก้ตัว
เปิดใจภรรยา "รองสว.จร." เหยื่อแท็กซี่เมาแล้วขับ เผยตนฝันร้ายถึงสามีก่อนเกิดเหตุ 3 วัน
"สอบสวนกลาง" Lockdown the Cat ปิดประตูข้ามแดน สกัด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนหลบหนี
ธุรกิจอาหารสัตว์บกของซีพีเอฟ คว้ามาตรฐาน ISO 56002 ยกระดับระบบจัดการนวัตกรรมสู่ระดับโลก
"สอบสวนกลาง" ล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แฝงตัวฟอกเงินในไทย เงินสะพัด 7 หมื่นกว่าล้าน
“ทนายตั้ม” ปูดข้อมูลลับ ท่านผู้หญิง VVVIP เอี่ยวเว็บพนัน แพ็คกระเป๋า หนีเข้าอังกฤษ
“รทสช.” หนุนคนการเมือง ห้ามจุ้นเลือกตั้งสว.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น