เกินไปมาก “รศ.อัศวินีย์” ย้อนเล่านาทีบัณฑิตม.ขอนแก่น ยืนชู 3 นิ้ว หน้าพระพักตร์ “กรมสมเด็จพระเทพฯ” ทรงตกพระทัย อัยการกลับชี้เหตุไม่รุนแรง

เราเองก็เคยทำหน้าที่ฝ่ายพิธีการในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาก่อน เข้าใจถึงความกังวลต่าง ๆ เหล่านี้เลยค่ะ เรื่องที่มีบัณฑิตเดินเข้ามาชู 3 นิ้วนี้เคยได้ยินในข่าวมาก่อน แต่ก็ไม่เคยทราบเลยว่า…พระองค์จะทรงตกพระทัย จนมีอาการพระหทัยสั่น… ในสถานการณ์ขณะนั้น

การแสดงกริยาดังกล่าว เป็นเสมือนการประสงค์ร้ายต่อพระองค์ ซึ่งพระองค์ท่านก็ไม่เคยทำอะไรให้ใครเดือดร้อน และมิได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองเลย มีแต่จะทรงงานหนัก อันเป็นประโยชน์แก่พสกนิกรชาวไทย ต้องเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อเยี่ยมโรงเรียนในชนบทมากมาย ดังนั้น การพยายามยุยงให้เกิดกระแสความเกลียดชังต่อพระองค์รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ จึงเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง
ทำไมสังคมไทยในปัจจุบัน เยาวชนถึงได้มีจิตใจหยาบมากขึ้นขนาดนี้ หรืออาจเป็นเพราะนับวันคณาจารย์ในสถานศึกษาจำนวนมาก มีความคิดที่มองแต่ผลประโยชน์ของตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มที่พยายามใช้นักศึกษาเป็นเครื่องมือ ส่วนใหญ่มาจากคณะที่สอนเกี่ยวกับกฏหมายและการเมือง ทำให้เด็กเยาวชนเข้าใจคำว่าประชาธิปไตยในแบบที่ไม่ถูกต้อง พยายามยุยงให้เยาวชนออกมาแสดงความหยาบคาย ก้าวร้าว และตามมาด้วยการใช้ความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินของหน่วยงานราชการอย่างไม่มีเหตุผล แต่พอโดนจับ กฏหมายจะลงโทษ ก็ออกมาเรียกร้องว่าถูกกลั่นแกล้ง โกหกผ่านสื่อต่าง ๆ นานา

นี่คือสิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ในสังคมนะคะ โดยเฉพาะ การที่แกนนำทางการเมืองบางคน ออกมาแสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ใช้คำพูดหยาบคายไม่สุภาพต่อผู้ที่อาวุโสกว่า ก็ยิ่งเป็นเสมือนเยี่ยงอย่างให้เด็กดู และจะกลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ ที่จะให้ทำตาม ๆ กันอีกมากมายในสังคม
ฉะนั้นผู้ที่ดูแลเรื่องเหล่านี้ ก็ควรมีบทลงโทษต่อคนที่กระทำผิดอย่างเด็ดขาดค่ะ