สั่งจำคุก 3 ปี "สายน้ำ" แต่งครอปท็อป เขียนพระนาม ล้อเลียน หมิ่นเสียดสี

20 ก.ค.2566 ทวิตเตอร์ TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน @TLHR2014 ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า ศาลเยาวชนฯ พิพากษาคดี “สายน้ำ” กรณีสวมครอปท็อปเดินแฟชั่นโชว์ในกิจกรรมที่สีลม เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 63 เห็นว่ามีความผิดตาม #ม112 และ #พรกฉุกเฉิน

เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการล้อเลียน ดูหมิ่น เสียดสี ส่งผลถึงความรู้สึกของประชาชนทั่วไป ลงโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 6,000 บาท เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดครั้งแรก จึงให้ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน

จำเลยให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง จึงให้ลดโทษอีก 1 ใน 3 เหลือจำคุก 12 เดือน ปรับ 4,000 บาท และให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับกรณีนี้ ย้อนไปเมื่อวันที่ 26 ต.ค.64 อัยการสูงสุดมีนัดส่งฟ้อง “สายน้ำ”(นามสมมติ) นักเรียนวัย 16 ปี คดีม. 112 จากการเขียนข้อความ พ่อกูชื่อ “มานะ” และมีการพาดพิงถึงพระนามของในหลวงร.10 ไว้ที่ลำตัวพร้อมใส่ชุดคร็อปท็อปไปร่วมกิจกรรม ‘แคตวอล์กราษฎร’ เมื่อ 29 ต.ค.2563 ที่ถนนหน้าวัดพระศรีอุมาเวที หรือวัดแขก ถนนสีลม แต่ทางอัยการให้เลื่อนนัดออกไปอีก 3 วัน เป็นวันศุกร์ที่ 29 ต.ค.64

คดีนี้เกิดขึ้นจากวริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีกับสายน้ำและจตุพร แซ่อึง สมาชิกกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอกด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งในส่วนคดีของจตุพรเธอถูกดำเนินคดีจากการแต่งชุดไทยไปร่วมกิจกรรมเดียวกันนี้และตำรวจอ้างว่าเธอมีเจตนาแต่งตัวเลียนแบบพระราชินี

พฤติการณ์ข้อกล่าวหาโดยสรุประบุว่า สายน้ำได้ร่วมเดินบนพรมแดงฝั่งถนนสีลมขาออกโดยแต่งกายด้วยชุดครอปท็อปสีดํา (เสื้อกล้ามเอวลอย) สวมกางเกงยีนส์ขายาวใส่รองเท้าแตะ และเขียนข้อความที่ร่างกายบริเวณแผ่นหลังลงมาถึงเอวว่า “พ่อกูชื่อมานะ และมีการพาดพิงถึงพระนามของในหลวงร.10 โดยก่อนที่สายน้ำจะเดินออกมา บุคคลซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครที่ทําหน้าที่พิธีกรได้ประกาศว่า “เตรียมตัวหมอบกราบ” แล้วเมื่อสายน้ำเดินผ่านกลุ่มผู้ชุมนุม มีผู้ชุมนุมได้ตะโกนคําว่า “ทรงพระเจริญ” และ “ในหลวงสู้ๆ”

ที่ผ่านมาสายน้ำได้ยืนยันให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และศาลได้ทำการสืบพยานโจทก์มาตั้งแต่วันที่ 16-17, 22 ก.พ. 26-28 เม.ย. 3 และ 10 พ.ค. 2566 และนัดสืบพยานจำเลยไปเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2566 ก่อนศาลนัดฟังคำพิพากษา