“เฉลิม” คัมแบ็กสุดปัง จ้อสื่อปมประธานสภาฯ ลั่นไม่ใช่อะไรก็พรรค ก.

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงการเมืองปัจจุบันว่า การเมืองวันนี้ แปลกๆ คนรุ่นเก่าเหมือนยาหมดอายุต้องให้คนรุ่นใหม่มาทำงาน ถ้าคนรุ่นเก่ายังมีสติปัญญา มีความรู้ดีกว่าคนรุ่นใหม่ จะเอาคนรุ่นใหม่ไปไว้ที่ไหน ต้องทำงานผสมผสาน อย่าดูถูกกัน ทุกคนมีจิตสำนึกรักบ้านเมือง ไม่ใช่อยู่พรรคนี้รักบ้านเมืองกว่า ส่วนอยู่พรรคนี้มีแต่ทัวร์ลง นี่ไม่ใช่ลักษณะการเมือง การเมืองต้องพูดในเรื่องของวิสัยทัศน์ การอภิปรายในสภาฯ และการเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง

สำหรับกรณีพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล มีตัวแทน 8 พรรค ร่วมปรึกษาหารือว่าใครเป็นประธานสภาฯ ร.ต.อ.เฉลิม เผยว่า พรรคเพื่อไทยมีตัวแทนเช่นกัน เมื่อได้ข้อตกลงต้องกลับมาที่พรรค ต้องถามสมาชิกว่าเห็นด้วยหรือไม่ ไม่ใช่ไปเพียง 7-8 คนแล้วตกลงกัน คนนี้ก็จะขอตำแหน่ง คนนั้นก็จะขอตำแหน่ง ขอให้คนทั้ง 8 พรรค กลับไปสรุปก่อน อย่าเถียงกัน

เมื่อถามว่า ประธานสภาฯ จะเป็นของพรรคก้าวไกลตามที่พูดคุยได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า ตนต้องทำตามมติพรรคเพื่อไทย หากไม่เห็นด้วยตนก็ไม่เห็นด้วย แต่ถ้าพรรคเห็นด้วยก็จะเป็นมติของพรรค และสุดท้ายก็ต้องมาโหวตในสภาฯ

“ตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่มีรัฐบาลไหนตั้งได้ง่ายๆ ยากทุกครั้ง นี่เพิ่งเริ่มต้น รายงานตัว ส.ส. ยังไม่ครบ ก็ตั้งตัวจะเป็นรัฐบาล มีตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ ขอให้ทุกคนใจเย็น คนหนุ่มใจร้อนแต่คนอายุมากเขาคิดเป็น”

ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชารัฐจะเสนอ นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภาฯ นั้น “คนของพรรคเพื่อไทยจะสละสิทธิ์หรือไม่ หรือจะปล่อยให้เป็นกระบวนการตามสภาฯ ตนยังไม่ขอพูดเพราะยังเป็นเรื่องใหม่ ตนไม่กล้าพูด ให้เข้าประชุมพรรคก่อน”

เมื่อถามว่า คนรุ่นใหม่มีความเหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม เผยว่า ตนไม่เคยพูดเพราะอยู่คนละพรรค ผมไม่กลัวทัวร์ลง ผมจะเห็นพรรคอื่นเป็นนายกฯ ได้อย่างไร ผมต้องเห็นคนของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น จะเล่นการเมืองต้องเล่นให้เป็น ไม่ใช่นิดหน่อยก็ตื่นเต้น หากผมเห็น พิธา ดีกว่าคนของพรรคเพื่อไทย ผมก็ไม่ใช่ เฉลิม อยู่บำรุง”

“ประธานสภาฯ อายุน้อยจะเป็นอุปสรรคหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความชำนาญ ความมั่นคง ประสบการณ์ ทำตัวเป็นกลาง ไม่ใช่อะไรก็พรรค ก. ประธานสภาฯ พรรษาน้อยไม่เป็นปัญหาถ้าเก่ง แต่อย่าใช้คำพูดว่า ประธานสภาฯ เป็นพรรคของผมพรรคนั้นพรรคนี้ คนพูดไม่รู้เรื่องไม่รู้การเมือง เลอะเถอะ ประธานสภาฯ เป็นของทุกพรรค ไม่ใช่เป็นของผม จะมาเสนอกฎหมายพรรคเดียวก็ไม่ผ่าน ที่พูดมามันโง่”

เมื่อถามว่า พรรคอันดับหนึ่งจะเสนอเป็นนายกฯ และประธานสภาฯ ได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ของง่ายๆ ทำให้ยาก ถ้าพรรคเพื่อไทยตกลงไม่ส่งคนลงแข่งขัน พรรคไหนลงแข่งขันแล้วสมาชิกเลือกก็ได้เป็น แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยส่งคนลงแข่งขันแล้วสมาชิกในสภาฯ เลือกพรรคเพื่อไทยก็ได้เป็น เช่นเดียวกันกับนายกฯ ไม่ได้พูดเฉพาะเพื่อไทย แต่ก้าวไกลเองก็เหมือนกัน