ความปั่นป่วนของม็อบเยาวชนขับไล่ รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำโดยกลุ่มต่างๆที่สลับสับเปลี่ยนกันออกมาลงถนน หนึ่งในนั้นยังมี “กลุ่มอาชีวะฟันเฟืองประชาธิปไตย” ที่ปัจจุบัน มีตัวจี๊ด นำโดย นายธนเดช ศรีสงคราม หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ม่อน อาชีวะ” ศิษย์เก่าวิทยาลัยเทคโนโลยีมีนบุรีโปลีเทคนิค ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า กลุ่มของ “ม่อน อาชีวะ” มีการแสดงออกไปในแนวทางล้มสถาบันฯ และเป็นแนวร่วมสนับสนุนกลุ่มม็อบที่ทำการจบจ้วงเบื้องสูงหลายครั้ง แม้เจ้าตัวจะเคยออกมายืนยันว่า “ พวกเราอาชีวะไม่ล้มสถาบันแต่จะล้มระบอบประยุทธ์”
ภายหลังได้เกิดการขัดแย้งกันเองอย่างหนักของแกนนำกลุ่มต่างๆ ส่งผลให้ เมื่อช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมา “ม่อน อาชีวะ” ได้แยกตัวจากเครือกลุ่มราษฎร มาจัดตั้ง “กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ขึ้นใหม่ โดยมีกลุ่มอาชีวะสมุทรปราการ อาชีวะมีนบุรี และอีกหลายสถาบัน เข้าร่วม นอกจากนี้ “ม่อน อาชีวะ” ยังได้นำทีมงานเข้าไปเป็นการ์ดอาสา ให้กับการชุมนุมของหลายๆกลุ่ม โดยเฉพาะการเข้าร่วมเป็นเนื้อเดียวกับ “ตู่ จตุพร พรหมพันธ์” ในนามกลุ่มไทยไม่ทน จนสุดท้าย ม่อนถูกสถาปนาให้เป็นหนึ่งในแกนนำของคณะ “ไทยไม่ทน” และมีการขับเคลื่อนม็อบร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
วีรกรรมของม่อน ถ้ายังจำกันได้ เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2563 ที่ผ่านมา ขณะ กลุ่มราษฎรนัด ชุมนุมหน้าธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ ถ.รัชดาภิเษก หลังยุติการชุมนุม การ์ดอาชีวะมีนบุรีใช้ปืนยิงการ์ดอาชีวะปทุมธานี ได้รับบาดเจ็บ หลังเหตุการณ์สงบ “ม่อน อาชีวะ” ได้พามือยิงเข้ามอบตัวต่อตำรวจ บอกว่า เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีเรื่องการเมือง และ “ม่อน” ต้องถอยออกมาจากขบวนเยาวชนคนรุ่นใหม่
และเมื่อย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติติการพิเศษ 191 ได้ทำการจับกุม “ม่อน อาชีวะ” พร้อมพวกอีก 13 คน ขณะจอดรถรับ-ส่งเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ที่บริเวณวงเวียนบางเขน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน หลังจากเสร็จสิ้นการเข้าร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พร้อมของกลางรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ผค 1043 เพชรบูรณ์ รถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ทะเบียน 1 ฒว 3479 กรุงเทพมหานคร มีดสปาต้า ขนาดความยาว 1 ฟุต 2 เล่ม คมแฝก 1 ท่อน หนังสติ๊ก 14 อัน และหัวน็อตล้อรถยนต์อีกจำนวนหนึ่ง พร้อมส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี ถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนนำตัวส่ง ตชด.ภ.1
ล่าสุด “ม่อน อาชีวะ” กลับมาเป็นกระแสข่าวอีกครั้ง เมื่อทวิตเตอร์ เจ๊จุกคลอง 3 โพสต์ข้อความพร้อมชี้เป้าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใจความระบุว่า “เจ๊ขอเสนอไอเดียนะคะ แทนที่จะเอาตำรวจมายืนถือโล่ให้เป็นเป้านิ่ง วันนี้คุณตำรวจไปลากคอไอ้ม่อนมาเลยค่ะ แล้วทุกอย่างจะจบเอง ไปไล่จับตัวปลาซิวปลาสร้อยมันไม่มีประโยชน์ จับไอ้ตัวการใหญ่ที่คิดชั่ว สั่งการชั่วๆ เลยจะได้ผลกว่า และยังมีตัวเป้งๆ อีกหลายตัว ลากคอมันไปเข้าคุกให้หมด”
การออกมาโพสต์ข้อความของเจ๊จุกคลอง3 ครั้งนี้ เล่นเอา “ไอม่อน” เต้นเป็นเจ้าเข้า รีบเดินทางไปแจ้งความเอาผิด ที่ สน.ลำผักชี แต่กลับถูกตำรวจไล่กลับมา เพราะไม่ได้เอาหลักฐานใดๆไปยื่นให้ตำรวจตรวจสอบ
คงต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของ “ม่อน อาชีวะ” กันไปยาวๆ ว่าจะมีจุดสิ้นสุดขับเคลื่อนม็อบอย่างไร หรือต้องระหก ระเหิน หนีไปอาศัยในต่างแดนเหมือนแกนนำรุ่น พี่อย่าง นายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้งอาชีวะ อดีตแดงฮาร์ดคอร์
