“ธนวรรธน์” จี้ภาครัฐทบทวนค่าไฟ บรรเทาความเดือดร้อนปชช.-ภาคธุรกิจ

นักวิชาการ ชี้ภาครัฐควรทบทวนค่าไฟฟ้า หลังประชาชนเดือดร้อนจากค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น พร้อมหาแนวทางลดต้นทุนค่าไฟฟ้าให้ถูกลง แนะเปิดกว้างทุกฝ่ายร่วมหาทางออกกำหนดอัตราเหมาะสมของประเทศ

วันที่ 21 เม.ย.66 รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ) เตรียมทบทวนค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที ) ในส่วนของภาคธุรกิจ และประชาชนใหม่ ว่า ในการแก้ปัญหาของค่าไฟฟ้า ระยะกลางถึงระยะยาว ภาครัฐควรจะต้องเชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคเอกชนและภาคประชาชน มานั่งร่วมกันพิจารณาโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าของประเทศใหม่หรือไม่ โดยเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออกว่าอัตราค่าไฟฟ้าของประเทศไทย ว่าควรเป็นอัตราใดถึงจะเหมาะสมยอมรับได้ และการหามาตรการเพื่อช่วยเหลือหรือลดบรรเทาผลกระทบให้ประชาชน สามารถเดินหน้าต่อไปได้ รวมถึงการทบทวนในเรื่องของสูตรค่าเอฟทีของประเทศไทย ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่

ส่วนเรื่องระยะสั้น ต้องมาดูว่า ค่าไฟปัจจุบัน ที่เอกชนกับประชาชน จะใช้ประมาณ 4.70 บาทต่อหน่วย แพงเกินไปหรือไม่ เป็นผลเสียต่อธุรกิจที่จะมีต้นทุนการผลิตสูงที่สูงขึ้น และทำให้ต้องปรับราคาสินค้าขึ้น ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูง หรือทำให้กระทบความสามารถการแข่งขันในการส่งออกของภาคธุรกิจ ต้องพิจารณา ขณะที่ในส่วนของภาคประชาชน ขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวถ้าค่าเอฟทีสูง เป็นผลเสียต่อภาคประชาชนหรือไม่ จะต้องมาร่วมกันพิจารณา โดยสิ่งที่ภาครัฐจะต้องทำคือให้ทุกฝ่ายร่วมกันพิจารณาโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าของประเทศร่วมกันใหม่ เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับและรู้ถึงปัญหาข้อเท็จจริงสิ่งที่เกิดขึ้นของราคาค่าไฟฟ้าของไทย และให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะเดียวกัน มองว่า ในการแก้ปัญหาค่าไฟฟ้านั้น หากมีความจำเป็นที่จะต้องปรึกษา คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ว่า รัฐบาลสามารถดำเนินการได้หรือไม่ จะสามารถลดราคาค่าไฟ หรือมีมาตรการเพื่อช่วยเหลือ ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการ

นอกจากนี้ ยังต้องดูว่า กลไกการตรึงราคาค่าไฟฟ้าทำได้อย่างไร เพราะตอนนี้ ค่าไฟถูกตรึงราคาโดย 3 การไฟฟ้าฯ ถ้ามีกลไกที่รัฐบาลจะสามารถจะตั้งกองทุนเพื่อชดเชย เยียวยาได้ ถ้าทำได้ก็อาจจะต้องลองดูว่าจะทำให้รัฐบาลสามารถลดราคาค่าไฟฟ้าได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องของกฎหมายและการบริหารของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.ธนวรรธน์ ระบุว่า ค่าไฟนั้น มีการปรับขึ้นตามต้นทุนขอองราคาพลังงานจริงๆ ดังนั้น เราอาจจะใช้ไฟถูกเกินไป ถ้าเราบิดเบือนกลไกราคามากเกินไป และอาจจะไม่เป็นผลดีกับภาระหนี้สินของภาคราชการ หรือภาครัฐวิสาหกิจ

 

สำหรับการสำรองไฟฟ้าที่สูงเกินความจำเป็นที่ 60% นั้น นายธนวรรธน์ มองว่า การสำรองไฟฟ้าถือเป็นเรื่องที่จำเป็น แต่จะต้องสำรองในระดับที่เหมาะสม 15 ถึง 20% เพื่อป้องกันไม่ให้มีปัญหาไฟฟ้าดับในช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ซึ่งใน 1 ปี จะมีประมาณ 1 วันเท่านั้น และเชื่อว่าการไฟฟ้าฯ ทั้ง 3 แห่ง จะไม่มีการตั้งสำรองไฟถึง 60% อย่างแน่นอน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) บุกโรงงาน 'หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์' ฝีมือจีน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปิดเที่ยวบิน 'เสิ่นหยาง-กรุงเทพฯ'หนุนท่องเที่ยวข้ามภูมิภาค
"ซาบีดา" เปิดโครงการส่งเสริม สืบสานศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นจ.นครสวรรค์ "ต้นไม้วัฒนธรรมหลากสีแห่งเมืองสวรรค์" ปลูกพลังวัฒนธรรม สู่เมืองสวรรค์อย่างยั่งยืน
ตม.ประจวบฯ สานสัมพันธ์ จัดหางานจังหวัดฯ สวัสดีปีใหม่
ส่องลุคแฟชั่นผ้าไทยสไตล์ "ซาบีดา" สวมเสื้อแซว ทรงไทยจิตรลดา นุ่งมัดหมี่โฮล ราชินีแห่งผ้า อัตลักษณ์ประจำจังหวัดสุรินทร์
อบจ.ปทุมธานี เตรียมจัดงานใหญ่ รำลึกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2568

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​