“ปิยบุตร” โผล่รับข้อหา ม.116 ยุยง ปลุกปั่น ลั่นกม.มีปัญหาต้องรื้อแก้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าตำรวจมีใบสั่งมาหรือไม่ นายปิยบุตร เปิดเผยว่า ไม่อยากมองเช่นนั้น ตนเองก็เคารพพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนก็คงปฏิบัติตามหน้าที่ ส่วนจะมีการฟ้องกลับนายณฐพร หรือไม่ ตนเองไม่อยากจะฟ้องใคร โดยเฉพาะข้อหาหมิ่นประมาท แต่หากเป็นข้อหาแจ้งความเท็จ ก็จะขอพิจารณาดูก่อน พร้อมทั้งยืนยันว่า ตนเองก็เรียนกฎหมายมา มีความระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นเสมอ และมั่นใจว่าทุกข้อความที่ตนเองพูด ไม่เข้าข่ายข้อหา “ยุยงปลุกปั่น” แน่นอน แต่ต้องขอดูรายละเอียดที่นายณฐพร แจ้งความไว้ก่อน

ทั้งนี้นายปิยบุตร ยังบอกอีกว่า กฎหมายมาตรา 116 มีขอบข่ายที่กว้างมาก ทั้งที่เป็นข้อหาร้ายแรงเกี่ยวกับความมั่นคง ทำให้เป็นช่องโหว่ให้นักร้องเรียนนำมาใช้ ทำราวกับว่าพลเมืองไทยมีปัญหากับรัฐไทยมาขนาดนี้เลยหรือ ถึงร้องเรียนได้มากมายขนาดนี้ แสดงว่าตัวกฎหมายต้องมีปัญหา และการใช้กฎหมายนี้ก็มีปัญหา ซึ่งทางพรรคก้าวไกล ก็ได้เสนอให้แก้กฎหมายนี้มาโดยตลอด ซึ่งในสมัยที่ตนเองเป็นอาจารย์ ก็พยายามผลักดันเรื่องกฎหมายการป้องกันรัฐประหาร การแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ เช่น กฎหมายความมั่นคง จนมาก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ก็ได้ผลักดันมาโดยตลอด แต่ไม่เป็นผล เป็นได้แค่เพียงความคิดเห็นเท่านั้น

ทั้งนี้ หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนเองถูกแจ้งข้อหา “ยุยงปลุกปั่น” จากเนื้อหาในแอปพลิเคชันคลับเฮาส์ ที่จัดร่วมกับแอมมี่ ที่ได้ยกตัวอย่างกรณีที่ศาลยกฟ้องมาตรา 112 จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำการหมิ่นพระบรมฉายาลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเพียงการยกตัวอย่างตามข้อเท็จจริง เช่นเดียวกับการยกกรณีตัวอย่างคดีในการสอนวิชากฎหมาย ไม่ใช่การยุยงปลุกปั่นให้คนออกมาต่อสู้อย่างที่นายณฐพร กล่าวหา วันนี้จึงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งหลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งเอกสาร และบุคคลมาใช้ในการต่อสู้คดีต่อไป โดยมีสิทธิให้ชี้แจงภายในระยะเวลา 30 วัน