“พิธา” ยันสัมพันธ์ “ปิยบุตร” กลับมาดี 1,000% โนดราม่าสร้างเรตติ้งก้าวไกล

“พิธา” ยันสัมพันธ์ “ปิยบุตร” กลับมาดี 1,000% โนดราม่าสร้างเรตติ้งก้าวไกล ลั่น จะไม่เกิดขึ้นอีก รับเป็นปัญหาสะสมมานาน บอกเคลียร์ใจแล้วฮึกเหิมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง

วันที่ 23 ก.พ.66 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงปมขัดแย้ง กับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ว่า สาเหตุหลักเกิดจาก มีเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน และเป็นการถอยเพื่อก้าวกระโดด และเมื่อมีการปรับความเข้าใจกันก็สามารถทำงานเดินต่อไปได้ ในเวลาที่เหลือเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งอย่างเต็มที่แน่นอนว่าทุกพรรคการเมืองก็ต้องมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกันบ้าง ในที่สุดก็จะสามารถปรับความเข้าใจกันได้ เชื่อว่าจากนี้จะทำให้พรรคก้าวไกลสู้ศึกได้แบบก้าวกระโดด

ส่วนเนื้อหาที่นายปิยบุตร โพสต์ข้อความถึงเนื้อหาค่อนข้างรุนแรง ได้ชี้แจงกับลูกพรรคอย่างไรเพราะสะท้อนถึงตัวของนายพิธาชัดเจน นั้น เป็นความเข้าใจผิด แต่พอได้พูดคุยกันแล้วก็เข้าใจกัน ที่เหลือก็ไม่มีอะไร สามารถทำงานต่อไปได้ เนื้อหาส่วนใหญ่เหมือนความคาดหวังของนายปิยบุตร ไม่ตรงกับการทำงานของพรรคก้าวไกลนั้น ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของนายปิยบุตรอย่างเดียว เมื่อยุบพรรคอนาคตใหม่ กรรมการบริหารพรรค ก็ไม่สามารถทำในสิ่งที่อยากทำได้ และมีกฎหมายข้อห้าม เรื่องการครอบงำทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจ และได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว ถือเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนจะมีผลต่อสนามเลือกตั้งหรือไม่นั้น เมื่อตนและนายปิยะบุตรได้ปรับความเข้าใจกันแล้วก็ทำให้ ทีมงานเห็นภาพที่มีความเข้าใจกันความฮึกเหิม เมื่อคืนนี้เทียบเท่ากับสปิริตอนาคตใหม่กลับมา ซึ่งอาจจะดูเหมือนว่ามีการขัดขากันหรือเปล่า ขอยืนยันว่าไม่ใช่การขัดขาแต่เป็นการถอยกันมาคนละเก้าเพื่อพี่จะก้าวกระโดด สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เวลาที่เหลืออยู่ยังทัน ที่จะเรียกความเชื่อมั่นให้ประชาชน และใช้โอกาสนี้ในการขอบคุณทุกคนที่เป็นตัวเชื่อม อยากเห็นความเป็นปึกแผ่นของพรรคก้าวไกล ให้เราทั้งสองคนได้มีโอกาสพูดคุยกัน โดยคนที่เป็นตัวเชื่อมก็คือประชาชน

สำหรับความรู้สึกก่อนโพสต์ข้อความถึงนายปิยบุตรเหนื่อยท้อหรือไม่ เพราะคนใกล้ชิดมองนายพิธาในมุมลบ นายพิธา กล่าวว่า ไม่มีเหนื่อย ไม่มีท้อ เพราะตั้งใจจะไปสู่เป้าหมายเดียวกันให้ได้ด้วยการลงพื้นที่อย่างหนัก และได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งถ้าทำงานอย่างมีสมาธิดีที่สุด สุดท้ายก็จะเป็นประโยชน์กับการทำงานของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะเมื่อได้ปรับความเข้าใจเรียนรู้บทเรียนกันแล้ว สิ่งที่จะแตกต่างจากในอดีตคือการทำงานที่เข้มข้นมากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น และถ้าหากมีปัญหาอะไรที่ไม่ตรงกันอีกในอนาคตก็จะพูดคุยกันอย่างฉันมิตร และไม่ต้องบอกผ่านสื่อมวลชนหรือโซเชียลมีเดียอีกต่อไป ย้ำว่านี่ไม่ใช่การครอบงำ แต่หากอะไรที่เห็นไม่ตรงกันก็สามารถพูดคุยกัน เป็นเพื่อนร่วมงานได้

ทั้งนี้ นายพิธา ยังกล่าวว่า ปมปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการทำงานเล็กๆน้อยๆ หลายเรื่องรวมกัน ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น ซึ่งการที่นายปิยบุตร ถูกตัดสิทธิ์ก็ไม่สามารถที่จะมาครอบงำได้และตนก็เป็นตัวของตัวเอง ในวิธีคิด ส่วนที่มีการมองว่าเป็นการสร้างความขัดแย้งเพื่อเรียกเรตติ้งใกล้ช่วงเลือกตั้งหรือไม่ นายพิธา ยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้พรรคเรามีวุฒิภาวะพอที่จะหาเสียง และทำงาน แต่บางครั้งเมื่อมีความไม่เข้าใจกัน และโอกาสในการพูดคุยกันมีน้อย จึงมีการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งตรงนี้ขอยืนยันกับประชาชนอีกครั้ง ว่าจะไม่เกิดขึ้น ย้ำว่าตอนนี้สปิริตของพรรคอนาคตใหม่กลับมา คนอื่นอาจจะดูว่าสะดุดหรือเปล่า ถอยหรือไม่ แต่การที่จะกระโดดให้ไกล เราต้องถอยกลับมาหนึ่งก้าวก่อน เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่สะสมและปะทุออกมา ได้ทำความเข้าใจกันก็ระลึกถึงสิ่งที่เรามาเป็นนักการเมือง และตั้งพรรคการเมืองทำไม มันชัดเจนมากขึ้น ทำให้เรามีพลังมากขึ้น และใช้พลังนี้ต่อยอดไปจนถึงวันเลือกตั้งให้ได้

สำหรับนายปิยบุตร และนายธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ จะมาร่วมลงพื้นที่ช่วยพรรคก้าวไกลหาเสียงด้วยหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ต้องดูก่อนเพราะตามกฏหมายสามารถมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ ซึ่งทั้งคู่พร้อมที่จะสนับสนุนพรรคก้าวไกล พร้อมย้ำว่า ต้องทำให้ชัดเจนด้วยการแจ้งความประสงค์ไปยังกกต. เพื่อลงรายชื่อให้เป็นผู้ช่วยหาเสียง เหมือนสมัยกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

ส่วนบทบาท และอิทธิพลของอดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ต่อพรรคก้าวไกล มีมากน้อยแค่ไหน นายพิธา ยอมรับว่า มีเรื่องอุดมการความคิดที่แชร์ร่วมกันมา ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ส่วนเรื่องบริหารจัดการ การคัดเลือกตัวว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. และนโยบาย เป็นอำนาจของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล

จากนี้นายปิยบุตรยังสามารถวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกลผ่านทางโซเชียลมีเดียได้อีกหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เท่าที่คุยกันการวิพากษ์วิจารณ์ การถกเถียงถือเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนตนเองก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดเพราะเป็นบุคคลสาธารณะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันหากกลายเป็นเรื่อง ที่ออกไปข้างนอกและไม่สามารถควบคุมได้ ก็ตกลงกันว่าจะยังคงวิพากษ์วิจารณ์ ถกกันเหมือนเดิม แต่จะไม่ให้กระทบกับสมาชิกพรรค และประชาชนเหมือนครั้งที่ผ่านมา ย้ำว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อถามว่าความสัมพันธ์กับนายปิยะบุตรตอนนี้ 100%หรือไม่ นายพิธา ยิ้มและกล่าวว่า 1000%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนแข่ง 'วิ่งส้นสูง' นานาชาติ เด็กไทยร่วมประชันฝีเท้า
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนฉลอง 2,500 ปี คลองใหญ่แห่งปักกิ่ง
ระทึก! "น้องหม่ำ" ลิงเลี้ยงหลุดกรง ไล่กัดเด็ก 2 คน หน้า-แขน-หัวโดนขย้ำเย็บ 14 เข็ม
สุดยื้อ เหยื่อปูนร่วงใส่รถพระราม 2 กระจกแตกยับ เสียชีวิตแล้ว
"อุตุฯ" เตือน 38 จังหวัด รับมือฝนถล่ม-ลมกระโชกแรง กทม.ร้อยละ 30 ของพื้นที่
เที่ยวบินครม.สัญจรระทึก เจออากาศแปรปรวนหนักลงจอดไม่ได้ ต้องบินกลับพิษณุโลก
“พีระพันธุ์” หารือ “รมว.เศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม” ญี่ปุ่น ขับเคลื่อนความร่วมมือด้านพลังงาน
มาแน่ “กรมอุตุฯ” ประกาศฉบับ 12 เตือนระวังอันตราย "พายุฤดูร้อน" พัดถล่ม จว.ที่ไหนบ้างเช็กเลย
ฝนตกหนัก "อนุทิน" กำชับ "ผู้ว่าฯ เชียงราย" ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำสายใกล้ชิด
"รมว.สุดาวรรณ" นำชมนิทรรศการ สาธิตวิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรมโดดเด่นชาวนครพนม ชูเส้นทางตามรอยศรัทธาธรรม 7 วันสักการะ 8 พระธาตุประจำวันเกิด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น