No data was found

Top news เปิดเวทีดีเบต เขต 4 กทม. กองเชียร์แห่ให้กำลังใจคับคั่ง

กดติดตาม TOP NEWS

"ท็อปนิวส์" จัดดีเบตผู้สมัครส.ส.เขต 4 สุดคึกคัก "กรณิศ" เตรียมหาทางออกให้ 3 ข้อ เจรจาการท่าเรือ หาที่อยู่ให้คนคลองเตย ด้าน "เขตรัฐ" ชูรักษาพยาบาลต้องมาก่อน ส่วน "พงศกร" ลั่นสร้างอาชีพให้ชุมชน ขณะที่ "กษิติ" ยันชาวบ้านต้องได้รับเงินเยียวยา 2 ล้านหากต้องย้ายออกไป ด้าน "ภูวกร"มุ่งปราบการพนัน ปราบพวกผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย

11 เมษายน 2566 ที่สถานีโทรทัศน์ “ท็อปนิวส์” จัดดีเบตเกาะติดศึกเลือกตั้ง 2566 เขต 4 กทม. (คลองเตย-วัฒนา) โดยมีผู้สมัครส.ส.กรุงเทพมหานครเขต 4 ร่วมดีเบตกันอย่างคึกคัก

 

 

 

 

ประกอบด้วย นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา พรรคภูมิใจไทย, นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ พรรครวมไทยสร้างชาติ, นายภูวกร ปรางภรพิทักษ์ พรรคพลังประชารัฐ, นายพงศกร ขวัญเมือง พรรคประชาธิปัตย์ และ นายกษิติ กมลนาวิน พรรคเสรีรวมไทย โดยคำถามเป็นปัญหาในชุมชนคลองเตย อาทิ เรื่องที่อยู่อาศัย, ยาเสพติด, หวยยี่กี และการพัฒนาย่านทองหล่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในระดับประเทศ รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างไร โดยมีนายอุดร แสงอรุณ และ น.ส.อุบลรัตน์ เถาน้อย เป็นผู้ดำเนินรายการ

 

 

 

 

 

นางกรณิศ เปิดเผยว่า ตนอยู่ในพื้นที่มามากกว่า 10 ปี รับทราบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยมาตลอด แม้ว่าจะมีการเจรจากับเจ้าของพื้นที่คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทยแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถหาทางออกร่วมกันได้ โดยเฉพาะ 26 ชุมชมที่จะต้องมีการรื้อถอนย้ายออกไป ยังมีปัญหาคาราคาซังกันอยู่ ส่วนตัวอยากให้ภาครัฐยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อหาข้อสรุปในทางที่ดีร่วมกัน ทั้งนี้การท่าเรือฯมีให้ 3 ทางเลือก คือ 1. ให้ย้ายขึ้นไปอยู่บนแฟลต 2.กลับไปภูมิลำเนาเดิม และ 3.ให้เงินคืนชดเชย

 

 

 

แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีบางครอบครัวย้ายไปอยู่ย่านวัชรพลแล้ว แต่ทุกคนไม่มีงานทำเลยต้องกลับมาที่นี่อีก ดังนั้นหากตนได้รับความไว้วางใจจากประชาชนจะเป็นตัวกลางเจรจากับท่าเรือฯ เพื่อประชาชนให้เอง ส่วนปัญหาการพนันและยาเสพติด เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วถือว่า เป็นอันดับ 1 ของกทม.แต่เวลานี้ทุกอย่างลดลงแล้ว ที่สำคัญตำรวจจะต้องเป็นที่พึ่งให้ประชาชนและใช้กฎหมายอย่างจริงจังถึงจะมีทางออกได้

ข่าวที่น่าสนใจ

นายเขตรัฐ กล่าวว่า เป็นคนในท้องที่อยู่แล้ว รับทราบปัญหาทุกอย่างดี ส่วนใหญ่คนในชุมชุนคลองเตยเป็นคนต่างจังหวัด ต้องการมาแสวงหาโชคชะตา แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในเรื่องการรักษาพยาบาล จากเดิมรักษาตัวที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทตามสิทธิ์ของแต่ละคน แต่ทุกวันนี้หลายคนต้องย้ายไปอยู่แถวเจริญกรุง ไม่สะดวกเลย ดังนั้นเรื่องกฎหมายการรักษาพยาบาลต้องดีกว่านี้ เพราะพวกเขาก็คือ คนไทยเหมือนกัน สำหรับเรื่องการพนันและยาเสพติด คงต้องมองเป็น 3 ระยะ คือ สั้น กลาง และยาว ต้องมีศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติดอย่างมีมาตรฐาน เพราะพวกเขาคือ ผู้ป่วย และต้องสร้างเอ็นเตอร์เทนเม้นส์คอมเพล็กซ์ขึ้นมา เพื่อนำเงินจากภาษีมาพัฒนาประเทศต่อ

 

 

 

 

นายพงศกร กล่าวว่า ส่วนตัวขอเสนอให้ 3 ทางเลือกคือ 1. ความชัดเจน คือ คุยกับชาวบ้านผ่านโครงการต่าง ๆ ว่า บ้านแต่ละหลังมีสมาชิกมากน้อยแค่ไหนแล้วจะไปอยู่ตรงไหนดี 2.ต้องสร้างอาชีพให้กับชุมชนไม่ต้องเดินทางไปทำงานไกล ๆ และ 3. การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนดังกล่าว ทั้งหมดทั้งปวงขอเป็นคนกลางไปเจรจากับผู้บริหารการท่าเรือฯให้ เพื่อหาข้อสรุปและเนรมิตรสร้างชุมชนคลองเตยขึ้นมาใหม่ให้มีชีวิตชีวากว่าในอดีต ส่วนเรื่องการพนันนั้น ต้องควบคุมผู้ค้ายาให้เข้มข้นกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ พร้อมเอาผู้เสพมาบำบัดอย่างถูกวิธี และสร้างรายได้ที่แน่นอนให้กับประชาชน

 

 

 

 

นายกษิติ เปิดเผยว่า สำหรับ 2 ทางออกที่เสนอคือ 1.สร้างหมู่บ้านให้กับประชาชนใหม่ทั้งหมด มีทั้งโรงพยาบาล, ตลาด, โรงเรียน และ สนามเด็กเล่นที่สร้างสรรค์เรื่องปัญญาเหมือนกับ จ.สงขลา และ 2.ให้เงินกับทุกครอบครัว เฉลี่ยครอบครัวละ 2 ล้านบาทและกลับไปอยู่บ้านเกิดของตัวเอง ทุกอย่างตนจะเป็นคนไปเจรจากับผู้เกี่ยวข้องให้เพื่อให้ทุกอย่างได้ข้อยุติ ขณะที่เรื่องปัญหาการพนันกับยาเสพติด ต้องรีบจัดการให้เป็นศูนย์ แม้ว่าสมัยก่อนเคยมีอดีตผู้นำคนหนึ่งเคยจัดการเด็ดขาดไปแล้ว แต่ทุกวันนี้ยาเสพติดยังระบาดมากยิ่งขึ้น ปัญหา คือ เจ้าหน้าที่ภาครัฐฯ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นคนยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ ดังนั้นจะต้องดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด

 

 

นายภูวกร ชี้แจงว่า ต้องมีการพูดคุยกันอย่างจริงจัง โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องถอยหลังมาคนละก้าว ทางพรรคพลังประชารัฐได้มีโครงการบ้าน 360 องศาให้กับประชาชนอยู่แล้ว ทุกคนไม่ต้องย้ายออกไปไหนทำมาหากินอยู่ที่เดิม แต่ต้องปรับสภาพแวดล้อมที่มีอยู่ให้ดีและน่าอยู่กว่าเก่า ส่วนการพนันต้องปราบพวกผู้มีอิทธิพลทั้งหลายแชร์ลูกโซ่ และการหลอกหลวงประชาชนต้องหายไป ดังนั้นต้องทำให้ทุกคนมีความรู้เรื่องการศึกษามากยิ่งขึ้น และทำให้สังคมเป็นสีขาว

 

 

 

 

นอกจากนี้พิธีกรยังได้สอบถามผู้สมัครแต่ละพรรคว่า ทำไมถึงจะต้องเลือกตัวเองเข้ามาเป็น ส.ส.และเป็นแคนดิเดตพรรคในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เริ่มจาก นายเขตรัฐ ได้กล่าวว่า ตนคิดว่า เหตุผลที่ประชาชนเลือกเพราะเป็นคนทำจริง สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำงานมีประสบการณ์บริหารประเทศมาแล้ว 8 ปี แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็ง ถึงแม้บางครั้งจะถูกวาดภาพให้ดูดุร้าย แต่นั่นเป็นความเข้มแข็งในฐานะผู้นำ ความเข้มแข็งนี้ทำให้หยุดวัฒนธรรมเก้าอี้ดนตรี ซึ่งสมัยก่อนมีการเปลี่ยนแปลงตัวรัฐมนตรีบ่อยมาก จนทำให้งานติดขัด นโยบายรัฐบาลเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก แต่วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานต่อเนื่อง จนทำให้ประเทศพ้นกับดักความยากจน ประเทศต้องวางโครงสร้างที่ใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ “ลุงตู่” กำลังทำอยู่ ดังนั้นสิ่งที่ท่านบอกว่า ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ และต้องทำเพิ่มไปอีก ซึ่งตั้งแต่สมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ยังไม่เคยเห็นผู้นำคนไหน ที่มีคุณสมบัติเป็นผู้นำที่แน่วแน่เด็ดขาดเท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ และท่านก็ไม่ใช่เผด็จการเพราะผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว 2 ครั้ง เพราะฉะนั้นถ้าเลือกตนเข้าไปเป็น ส.ส.ก็จะเข้าไปโหวตให้ลุงตู่ไปต่อ

 

 

 

ส่วนนางกรณิศ กล่าวว่า ตนเป็นผู้แทนตั้งแต่ปี 49 เริ่มจากการเป็น ส.ก. จนได้รับเป็น ส.ส.ประชาชนเห็นผลงานเพราะสามารถเข้าถึงรับฟังปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีความแน่วแน่ที่จะดูแล จึงขอโอกาสมาสานงานต่อ 17 ปีที่ผ่านมา ตนช่วยเหลือประชาชนมาตลอด ขณะที่แคนดิเดตนายกฯ คือ นายอนุทิน ก็มีผลงานจากการจัดการโควิด-19 ทำให้ไทยได้รับการยอมรับไปจากทั่วโลก จึงขอโอกาสจากคนกทม.ให้พรรคภูมิใจไทยเข้ามาปักธงคว้าส.ส.ได้

 

 

 

ด้านนายพงศกร เผยว่า ตนตั้งใจเข้ามาทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งที่ลงสมัครในพรรคประชาธิปัตย์ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ 1.เพราะมีความคุ้นเคย เนื่องจากประชาธิปัตย์มีความคุ้นเคยกับชาวกทม.ผ่านการเลือกตั้งทุกระดับ ตั้งแต่ ส.ข. ส.ก. ส.ส. ผู้ว่าฯและเครือข่ายของพรรคจึงเชื่อว่า จะสามารถผลักดันนโยบาย 2.พรรคปชป.ไม่มีนายทุนมาควบคุม และ 3.พรรคปชป.เป็นสถาบันการเมือง จึงมั่นใจว่า ไม่ว่าจะผ่านการเลือกตั้งสักกี่ครั้งก็ยังอยู่ เพื่อผลักดันนโยบายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องให้เป็นจริงได้ ตนขอโอกาสจากประชาชนเลือกเป็น ส.ส.

 

 

 

ขณะที่นายกษิติ กล่าวว่า ถ้าเป็น ส.ส.จะดูแลโดยการเป็นตัวแทนเจรจาเพื่อให้ชาวคลองเตยวัฒนามีชีวิตที่ดี โดยเฉพาะประชาชนในชุมชนถ้าต้องย้ายไปอยู่ที่ใหม่ต้องได้รับการเยียวยา โดยเฉพาะคนในพื้นที่คลองเตยต้องได้คนละ 2 ล้านบาท ต่อครัวเรือน ส่วนที่ใหม่ต้องมีที่ทางทำมาหากิน มีโรงเรียน โรงพยาบาล สนามเด็กเล่น นอกจากนี้จะเน้นเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ขณะที่ผับในย่านทองหล่อจะให้เปิด 24 ชั่วโมง แต่จะมีที่วัดระดับเสียงไม่ให้เกินมาตรฐาน

 

 

นายภูวกร กล่าวว่า เคยเป็นจิตอาสามาก่อน และช่วยเหลือประชาชนช่วงโควิด จึงรู้ดีว่าประชาชนต้องการอะไร ส่วนตัวไม่เคยเป็นนักการเมืองมาก่อน จึงอยากขอให้โอกาสนี้ให้ทุกคนเลือก เพราะพลังประชารัฐต้องการก้าวข้ามความขัดแย้งปัญหาต่าง ๆ การที่ทุกคนร่วมมือกันโดยมีประชาชนเป็นที่ตั้ง ในฐานะที่เป็นคนในพื้นที่ เชื่อว่าประชาชนจะไม่ผิดหวัง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุชาติ" เปิดบ้านชื่นมื่น ชาวชลบุรีแห่ยินดี รับตำแหน่งรมช.พาณิชย์ ลั่นมุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน สถาบันหลักชาติ
รอง ผอ.ศรชล.จว.สป. เป็นประธานจัดกิจกรรม "วันอาภากร"
ยายวัย 82 โชคดีหวิดดับ หลังมายืนรดน้ำต้นไม้
ผู้กำกับพัทยาจัดพิธีบวงสรวง เสด็จเตี่ย เนื่องในวันอาภากร
สพป.ขอนแก่น สั่งเด้ง "ผอ." ซื้อบริการเด็ก 12 ปี ตั้งคกก.สอบ เข้าข่ายผิดวินิยร้ายแรง
"โฆษกศธ." ย้ำนโยบายลดภาระเปิดเทอม ผ่อนผัน ยกเว้นแต่งชุดนร.ไม่ใช่ยกเลิก
"ทนายด่าง" เตรียมนำทีมครอบครัว ทวงถามรพ.ราชทัณฑ์ ขอเอกสารก่อน "บุ้ง" เสียชีวิต 5 วัน ยังคาใจใส่ท่อผิดจุด
เตรียมพิธีรับมอบ "Golden Boy–สตรีพนมมือ" หวนคืนแผ่นดินไทย 21 พ.ค.นี้
"นักโบราณคดี" ยืนยัน "โกลเด้นบอย" ถูกค้นพบที่ จ.บุรีรัมย์ ถือเป็นหลักฐานใหม่ พลิกหน้าประวัติศาสตร์
คลิปนี้ชัดมาก “แม่น้องไนซ์” พูดเต็มปากเต็มคำ เชื่อมจิตมีในพระไตรปิฎก โซเชียลจับตาส่อผิด พ.ร.บ.คอมพ์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น