เป็นไปตามความคาดหมายภายหลังจากกลุ่มสามนิ้วล้มเจ้าประสบความสำเร็จในการจัดกิจกรรมขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค.2564 ภายใต้การนำของกลุ่มเยาวชนปลดแอก (Free YOUTH) พร้อมแนวร่วม ประกอบด้วย กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย DRG , ขบวนการริมสระ ,คณะประชาธิปไตยเพื่อความหวัง DemHope , เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ,กลุ่มทะลุฟ้า ,เฟมินิสต์ปลดแอก, ภาคีบุคลากรสาธารณสุข ,เยาวชนปลดแอก,ราษฎรมูเตลู,ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย,สหภาพคนทำงาน,สหภาพไรเดอร์,SUPPORTER THAILAND, We Volunteer หรือ WeVo, ราษฎรออฟโรด เป็นต้น
รอบนั้นมีการเกณฑ์ กลุ่มรถจักรยานยนต์ รถยนต์ ภายใต้การนำของ “บก.ลายจุด” สมบัติ บุญงามอนงค์ ตั้งขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ยาวไปทางแยกคอกวัว มุ่งหน้าไปทำกิจกรรมแถวทำเนียบรัฐบาล พร้อมชู 3 ข้อเรียกร้อง คือ 1. พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข 2. ปรับลดงบประมาณสถาบัน-กองทัพสู้โควิด และ 3. เปลี่ยนวัคซีนซิโนแวค เป็นวัคซีน mRNA สุดท้ายปลายทางบริเวณเชิงสะพานแยกพาณิชยการ เกิดการปะทะระหว่างการ์ดผู้ชุมนุมกับตำรวจควบคุมฝูงชน มีการขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจควบคุมฝูงชน สุดท้ายตำรวจควบคุมฝูงชนจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม
18 ก.ค.จึงกลายเป็นโมเดลเป็นจุดเริ่มต้นที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำมาเป็นตัวอย่างการชุมนุมประท้วงในเวลาต่อมา ที่ก่อนหน้านี้กลุ่มสามนิ้วล้มเจ้าประกาศชัดว่าเดือนสิงหาคมจะเป็นห้วงเวลาของการความเคลื่อนไหวหนักหน่วงต่อเนื่องในการขับไล่พล.อ.ประยุทธ์
เปิดหัวเริ่มต้นเดือน 1 ส.ค.2564 สมบัติ นัดเครือข่ายจัดคาร์ม็อบทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล จัดขบวนรถตั้งแถวขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ในเมืองหลวงมีการนัดรวมตัวกันหลายจุด มีคาร์ม็อบจากปริมณฑลเข้ามาสมทบ ก่อนจัดกิจกรรมขับรถวนถนนวิภาวดีรังสิตต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ ช่วงเย็นหลังยุติการชุมนุม มีผู้ชุมนุมบางส่วนปาสิ่งของใส่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่เข้ากระชับพื้นที่ สุดท้ายมีการฉีดแก๊สน้ำตามีการตอบโต้กันบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงและในอุโมงค์ทางลอดดินแดงจากช่วงห้าโมงเย็นถึงช่วงค่ำ
7 ส.ค.2564 กลุ่มเยาวชนปลดแอกนัดเครือข่ายทำกิจกรรมรวมพลจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเคลื่อนพลไปวังหลวง ย้ำข้อเรียกร้อง 3 เรื่องเดิม 1.นายกฯออก 2.ลดงบสถาบันและกองทัพ 3.เปลี่ยนวัคซีนเจ้าสัวCPเป็นmRNA แต่ก่อนถึงเวลาเกิดผิดแผนหลังถูกตำรวจชิงจังหวะควบคุมแกนนำ พร้อมส่งสายสืบรวบตัวพวกฮาร์ดคอร์ที่เตรียมตัวมาก่อเหตุคาที่พัก ยึดรถยึดสิ่งเทียมอาวุธ ได้จำนวนมาก โดยเฉพาะกรณีรถตู้พยาบาลของการ์ดวีโว่ ที่จอดในวัดมหรรณพารามฯ พบ หัวน๊อต พลุควัน ระเบิดปิงปอง สิ่งเทียมอาวุธจำนวนมาก ขณะที่หน้างานตำรวจก็ชิงจังหวะคุมพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่งผลให้ผู้ชุมนุมถอยร่นไปตั้งหลักที่ตลาดนางเลิ้ง ก่อนเปลี่ยนแผนไปชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแทน แล้วก็สร้างวีรเวรพ่นสีฉีดสเปรย์ ใช้จิตใจใฝ่ต่ำเขียนข้อความบาปหยาบช้าบนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นอนุสรณ์ที่ระลึกสร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของ 59 ผู้กล้า ทหาร ตำรวจ และพลเรือนที่เสียชีวิต ระหว่างเกิดข้อพิพาทไทยกับฝรั่งเศส ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนก่อเหตุขว้างปาสิ่งของกับตำรวจควบคุมฝูงชนจนมีการยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม สุดท้ายปลายทางของเหตุการณ์มีการเผารถควบคุมผู้ต้องหา 1 คัน เสียหายจนเหลือแค่ซาก หลังเกิดเหตุพบว่ามีตำรวจหนึ่งคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์กระสุนฝังเข้าที่คอด้วย
10 ส.ค.2564 แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดรวมตัวกันที่สี่แยกราชประสงค์ จัดคาร์ม็อบใหญ่ไล่ทรราช โดยก่อนหน้าการชุมนุมตำรวจตรวจพบลูกแก้ว 9,000 ลูก หนังสติ๊ก 80 อัน ทิ้งใกล้จุดนัดชุมนุม ก่อนที่บ่ายโมงผู้ชุมนุมจะกระจายตัวจัดกิจกรรมหลายจุด ประกอบด้วย 1.ไปตึกซิโน-ไทย ทาวเวอร์ ตรงข้ามตลาดอโศก สาดเลือดหมูหน้าป้าย ขว้างปาสิ่งของ 2.ไปบ้านธรรมนัส ซ.เลิศแก้ว พระราม 9 จัดกิจกรรมวางห่อศพ ทำลายข้าวของ 3.ไปคิง พาวเวอร์ ถนนรางน้ำ พญาไท สาดสี พ่นป้าย ทำลายข้าวของ ปิดท้ายด้วยการรวมตัวประท้วงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เกิดการขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจ ทุบตีป้อมตำรวจจราจรใต้ทางด่วน ก่อนเผาป้อมจนเสียหายใช้งานไม่ได้ หลังเกิดเหตุพบว่ามีตำรวจหนึ่งคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขา
11 ส.ค.2564 กลุ่มทะลุฟ้า ประกาศนัดชุมนุมไล่ล่าทรราช บ่ายสามเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เคลื่อนพลไปบ้านพักนายกฯภายใน ร.1 รอ.
มีการตั้งข้อสังเกตจากผู้ที่คร่ำหวอดการชุมนุม วิเคราะห์การเดินเกมส์ของกลุ่มสามนิ้วเป้าหมายยังอยู่ที่การตั้งใจก่อจลาจลหวังล้มเจ้าจากแรงหนุนของต่างชาติ เห็นได้ชัดว่า 4-5 ครั้งหลังของการเคลื่อนไหวชุมนุม แนวร่วมที่เคยสนับสนุนลดลงไปมากแบบน่าใจหาย จากหลายพันคน ปัจจุบันจัดม็อบแต่ละคราวแค่หลัก1-2 พัน ไม่แปลกที่จะมีการนำคาร์ม็อบมาช่วยเพื่อให้การชุมนุมดูมีพลังเป็นขบวนยาวๆ เพราะถ้าเดินเท้ากันจริงขบวนม็อบตอนนี้คงสั้นจุ๊ดจู๋ เพราะหลายคนเห็นธาตุแท้ หลายคนไม่เอาด้วย นอกจากจะล้มเจ้าแล้ว ยังเสพติดการใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไทยรับไม่ได้
ด้วยเหตุที่คนสนับสนุนเริ่มน้อยลงไปมาก การชุมนุมส่วนใหญ่ในตอนนี้พวกที่ก่อเหตุป่วนบ้านปั่นเมือง หลักๆจึงเป็นพวกการ์ดวีโว่ ( We Volunteer) ภายใต้การนำของ “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ ที่มีข่าวว่ามีการนำวัยรุ่นพวกฮาร์ดคอไปฝึกก่อเหตุ ฝึกปะทะ ฝึกการใช้อาวุธ มาแล้วถึง 12 รุ่น ที่สถานที่ลับแห่งหนึ่งในจ.เพชรบูรณ์ ก่อนเอามาเป็นด่านหน้าก่อเหตุปะทะตำรวจควบคุมฝูงชนในทุกเหตุการณ์ อีกส่วนก็เป็นพวกอาชีวะปกป้องประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย พวกการ์ดจากกลุ่มต่างๆ ผสมกับพวกวัยรุ่นเลือดร้อน ขาดสติอยากลองของ แต่ที่เป็นพลังบริสุทธิ์เป็นแนวร่วมมวลชน หนุ่มสาวจากรั้วมหาวิทยาลัยจริงๆพวกนี้มีน้อยมาก สังเกตได้ว่าทุกเหตุการณ์ที่มีการปะทะจะเกิดหลังกิจกรรมหลักแล้วเสร็จ และเหตุการณ์จะรุนแรงเพราะส่วนใหญ่เป็นฝีมือของการ์ดโตโต้ พวกฮาร์ดคอ และวัยรุ่นเลือดร้อนกลุ่มนี้ทั้งสิ้น
นอกจากนี้เป็นที่น่าสังเกตและติดตามพัฒนาการของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ล่าสุดเริ่มมีการพกอาวุธปืนเข้าไปในพื้นที่การชุมนุม เริ่มมีการใช้ปืน เอาอาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ ล่าสุด 2 เหตุการณ์ก็มีตำรวจถูกยิงไปแล้ว 2 คน หนำซ้ำความรุนแรงก็เพิ่มมากขึ้น จากขว่างปาของ เขวี้ยงขวด ยิงหนักสติ๊กใส่หัวน็อตใส่ลูกแก้ว ตอนนี้เริ่มมีการเผารถควบคุมผู้ต้องหา เผาป้อมจราจร เคลื่อนขบวนทำลายทรัพย์สินอาคารของกลุ่มที่เห็นต่างและกลุ่มที่อยู่ตรงข้ามฝ่ายตัวเอง แบบไม่เกรงกลัวกฎหมายไม่สนใจอาญาแผ่นดิน เคลื่อนขบวนจัดกิจกรรมหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ใช้ปืนยิ่งใส่ตำรวจแล้ว อนาคตจะมีการเอาอะไรอีกมาขว้างใส่ตำรวจมาทำร้ายเจ้าหน้าที่ ระเบิด ปืน อาวุธสงคราม ฯลฯ จะจัดกิจกรรมสร้างความเดือดร้อนอีกกี่วัน ล่าสุด 15 ส.ค. ณัฐวุฒิ ประกาศจัด “Car Park” จัดคาร์ม็อบผสมไฮด์ปาร์ค ไล่นายกฯ
ถามว่าระดับผู้นำประเทศอย่างพล.อ.ประยุทธ์ คนดูแลเรื่องความมั่นคงอย่างพล.อ.ประวิตร และโดยเฉพาะท่านพิทักษ์ 1 “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ท่านเตรียมการรับมือการเคลื่อนไหวของคนพวกนี้อย่างไร หรือจะปล่อยให้พวกกเฬวราก ออกมาเคลื่อนไหวก่อเหตุ “เถื่อน ถ่อย แถ” เหมือนที่ “ท่านใหม่” ม.ล.จุลเจิม ยุคล ออกมาเตือน นั่งดูให้พวกคนระยำทำความฉิบหายทำลายบ้านเมืองที่บรรพบุรษและสถาบันอันเป็นที่รักของคนไทยก่อร่างสร้างตัวขึ้นมา โดยไม่ออกมาทำอะไรไม่มีมาตราการจับกุมคุมขัง ลงโทษเอาผิดบังคับใช้กฎหมายอย่างนั้นเลยหรือ ตัวอย่างการชุมนุมก็มีให้เห็นแล้วว่าพวกนี้ทำอะไร เคลื่อนไหวแบบไหน สามเหลี่ยมดินแดงคือสมรภูมิหลักที่พวกนี้ใช้ปักหลักป่วนบ้านทำลายเมือง จะจัดกำลังอย่างไร จะเข้าจับกุมแบบไหน จะติดตามคนที่หลบหนีหลังก่อเหตุอย่างไร เพราะซอกซอยแถวนั้นมีเยอะ พาหนะพวกนี้ก็ใช้มอเตอร์ไซด์เป็นหลัก จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ตั้งด่านปิดถนน สั่งคนปิดตรอกอุดซอย ส่งเจ้าหน้าที่ตั้งจุดสแกนให้ละเอียดยิบ เรื่องพวกนี้ท่านได้คิดได้เตรียมแนวทางได้มีความพร้อมจะบังคับใช้กฎหมายให้เด็ดขาดอย่างไรไหม
ตอนนี้ชัดเจนว่ากลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้ชุมนุมตามกติกาประชาธิปไตย สงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ทุกอย่างมันเกินเพดานทะลุซอยพ้นกรอบการชุมนุม ถูกล้างสมองไร้สติแยกแยะผิดชอบชั่วดีจนกลายเป็นประชาธิปไตยกลายพันธุ์ไปหมดแล้ว ลองสังเกตดูหลังๆแทบไม่มีการไฮด์ปาร์ค ไม่มีการพูดเชิงวิชาการ ไม่มีข้อเสนอข้อเรียกร้องอย่างผู้มีอารยะต่างชาติเขาทำกัน จัดกิจกรรมรอเวลาไขว้กับตำรวจขนอาวุธเตรียมมาปะทะกับเจ้าหน้าที่อย่างเดียวเลย หนำซ้ำบ้านเมืองตอนนี้ก็อยู่ในช่วงแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขั้นวิกฤต กรุงเทพฯมีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ สารพัดกฎหมายควบคุมอยู่ แต่กลุ่มคนพวกนี้ไม่ยี่หระต่อกฎหมายบ้านเมืองเลย ยังออกมาชุมนุมไม่เว้นแต่ละวันซ้ำเติมสถานการณ์สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน
ในม็อบก็มีแต่พวกหัวรุนแรง พฤติกรรมก็สุดถ่อยแสนเถื่อน เอะอะไม่พอใจก็เผาทรัพย์สินทางราชการ เคลื่อนพลไปไหนก็ทำรถติดคนเดือดร้อนไปทั่ว ชุมนุมจุดไหนก็ทำลายข้าวของชาวบ้านย่อยยับไปหมด ฝากผลงานชั่วช้าทิ้งความเลวทรามไว้เกลื่อนเมือง หนักข้อขึ้นตอนนี้เริ่มมีการใช้อาวุธพกกระสุนจริงยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจกันแล้ว บทเรียนในอดีตเรามีมากแล้วอย่าปล่อยให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นมาอีก คงไม่มีคนไทยคนไหนอยากเห็นไฟไหม้พระนคร เผาบ้านเผาเมืองรอบ 2 มีสงครามกลางกรุงเกิดขึ้นอีก ทางออกมันมี ตำรวจต้องเข้มแข็ง กฎหมายต้องเด็ดขาด ชาติถึงจะรอด
//////////////////////
