AP รายงานว่าโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วสหรัฐกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนพยาบาลและบุคคลากรการแพทย์อย่างหนัก โดยเฉพาะรัฐฟลอริด้า, อาร์คันซอ, หลุยเซียน่า และโอเรก้อน ได้รับผลกระทบหนักที่สุด
ที่รัฐฟลอริด้า เจ้าหน้าที่เผยว่าโรงพยาบาลหลายแห่งเต็มไปด้วยผู้ป่วยโควิดจนรถโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างเหนื่อยล้ากับการวิ่งรอกรับผู้ป่วยตามบ้าน ผู้ป่วยบางรายต้องนอนในรถพยาบาลนานนับชั่วโมงเพื่อรอเตียงว่าง และรอเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมารับเคส เพราะนอกจากเตียงที่ใกล้เต็ม พยาบาลและบุคคลกรการแพทย์ยังไม่พอด้วย
ที่เมืองนิวออร์ลีน รัฐหลุยเซียน่า ผู้ป่วยจากอาการหัวใจวายต้องวิ่งหาโรงพยาบาลถึง 6 แห่งกว่าจะได้ห้องไอซียู ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขที่รัฐหลุยเซียน่าบอกว่าสถานการณ์กำลังเลวร้ายมาก เพราะโรงพยาบาลไม่มีพยาบาลและผู้ช่วยที่จะมาดูแลผู้ป่วย
ที่รัฐแอริโซน่า และฟลอริด้า พยาบาลต่างพากันลาออกเพราะเหนื่อยล้าและรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ไหว หลายคนตัดสินใจเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น ทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งต้องใช้วิธีจ่ายค่าตอบแทนเพิ่มสำหรับพยาบาลที่สามารถทำโอที และอยู่ลากกะการทำงานได้ นอกจากค่าโอทีปกติ 1 เท่าครึ่งแล้วก็ยังบวกอีก 500 ดอลล่าร์ โดยรัฐฟลอริด้านั้นคาดกันว่า 70% ของโรงพยาบาลจะขาดแคลนเจ้าหน้าที่อย่างหนักและถ้วนหน้ากันในสัปดาห์หน้า เพราะนอกจากจะลาออกแล้ว หลายคนเริ่มล้มป่วยจากการติดโควิด
ขณะที่รัฐโอเรก้อน ผู้ว่าการรัฐได้ออกกฎให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนต้องฉีดวัคซีนให้ครบภายใน 18 ตุลาคม หลังพบว่าผู้ป่วยในโรงพยาบาลส่วนใหญ่ล้วนไม่ได้ฉีดวัคซีน ส่วนผุ้ว่าการรัฐเท็กซัสสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประกาศรับสมัครพยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตามเอเจนซี่ต่างๆอย่างเร่งด่วน
โดยสหรัฐมีอัตราผู้ติดเชื้อโควิดเฉลี่ยวันละมากกว่า 1 แสน 1 หมื่น 6 พันคน และอาการหนักจนเข้าโรงพยาบาลเฉลี่ยวันละ 5 หมื่นคน สูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วหรือในรอบ 8 เดือน