“นายกฯ” ปลื้ม เพิ่ม “อัตราค่าจ้างมาตรฐานฝีมือ” อีก 3 อาชีพ

นายกฯ ยินดีรัฐบาลโดยกระทรวงแรงงาน เพิ่ม "อัตราค่าจ้างมาตรฐานฝีมือ"อีก 3 สาขาอาชีพ ดูแลแรงงานไทย

1 ก.พ.66 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ค ระบุว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ ผมมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่รัฐบาลได้บรรลุเป้าหมายไปอีกขั้นหนึ่ง ในการดูแลพี่น้องแรงงานชาวไทย ด้วยการกำหนด “อัตราค่าจ้างมาตรฐานฝีมือ” เพิ่มเติมอีก 3 สาขาอาชีพ ได้แก่ (1) ช่างอุตสาหการ เช่น ระบบงานเชื่อมด้วยหุ่นยนต์ งานเมคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์อุตสาหการ (2) ช่างเครื่องกล เช่น งานซ่อมรถแทรกเตอร์การเกษตร งานควบคุมเครื่องจักรรถขุด-รถตัก-รถลาก (3) อาชีพภาคบริการ เช่น การดูแลเด็กปฐมวัย ช่างเครื่องช่วยคนพิการ และนักส่งเสริมสุขภาพต่างๆ เป็นต้น รวมทั้งสิ้น 17 สาขา ให้มีอัตราค่าจ้างในช่วง 465-715 บาท/วัน ตามลักษณะงาน ที่ต้องอาศัยทักษะความรู้แต่ละงานแตกต่างกันไป ซึ่งทั้งหมดจะได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำที่เป็นเกณฑ์อ้างอิง สำหรับทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว

ข่าวที่น่าสนใจ

จากการกำหนดอัตราค่าจ้างมาตรฐานฝีมือในครั้งนี้ ทำให้แรงงานไทยมีโอกาสได้รับเงินตอบแทน “รายสาขาอาชีพ” และตามระดับทักษะฝีมือ เพิ่มขึ้นเป็น 129 สาขา (จากเดิม 112 สาขา) ซึ่งรัฐบาลได้มีการทบทวนปรับปรุงให้สอดคล้องกับตลาดแรงงาน ทั้งภายในและภายนอกประเทศ มาอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อคุ้มครองสิทธิของลูกจ้าง/แรงงาน และส่งเสริมให้มีการยกระดับทักษะฝีมือแรงงานควบคู่กันไปด้วย โดยที่ผ่านมาศูนย์ฝึกอาชีพ ของกระทรวงแรงงาน ได้รับความสนใจอย่างมากจากบริษัทเอกชน ในการส่งแรงงานเข้ามาฝึกฝีมือ ยกระดับทักษะในการทำงานให้มีความเชี่ยวชาญมากขึ้น เพราะต้องการประสิทธิภาพในการทำงาน จากลูกจ้างที่มีศักยภาพสูงขึ้น

ผลดีที่จะเกิดขึ้นจากการกำหนดอัตราค่าจ้างมาตรฐานฝีมือนั้นมีหลายประการ ดังเช่น
(1) แรงงานได้รับค่าตอบแทนสูงขึ้น ขวัญกำลังใจดีขึ้น ส่งเสริมให้มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
(2) นายจ้าง มีโอกาสคัดเลือกลูกจ้างจากผู้ที่มีทักษะ สร้างความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจ เป็นการลงทุนด้านทรัพยากรบุคคลที่คุ้มค่า โดยเฉพาะในสาขาที่ต้องการทักษะและความเชี่ยวชาญสูง
(3) เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่ตัดสินใจตั้งฐานการผลิต หรือตั้งสถานประกอบการในประเทศไทย ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

 

ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะขยายรูปแบบการส่งเสริม ไม่เพียงแรงงานในประเทศ รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า – รถไฟความเร็วสูง – อากาศยาน แต่รวมถึงการสร้าง “แรงงานไทยคุณภาพระดับโลก” เพื่อส่งออกไปทำงานในต่างแดนที่มีรายได้สูง เช่น ช่างเชื่อมในอู่ต่อเรือเกาหลีใต้ ที่มีรายได้ราว 50,000 บาท/เดือน หรืองานในแท่นขุดเจาะที่ซาอุดีอาระเบีย มีรายได้สูงถึง 70,000-80,000 บาท/เดือน เป็นต้น ซึ่งผมมีความปรารถนาที่อยากจะเห็นพี่น้องแรงงานทุกคน มีความมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ ด้วยวินัยและการไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ยกระดับตนเองจากการเสริมทักษะการทำงานของตนขึ้นเป็นแรงงานทักษะสูง และขึ้นไปสู่ระดับผู้คุมงาน หรือสร้างธุรกิจของตนเอง จนประสบความสำเร็จในชีวิต สร้างรายได้ ความกินดีอยู่ดีให้กับตนเอง ครอบครัว ถิ่นฐานบ้านเกิด และประเทศชาติ ดังคำกล่าวที่ว่า “ความจนแพ้คนขยัน” ผมขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ และจะทำอย่างเต็มที่ ให้พี่น้องแรงงานไปสู่ฝันได้ทุกคนครับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“บิ๊กเล็ก” จี้กัมพูชา ให้เกียรติกำลังพลตัวเอง เข้าเก็บร่างทหารแนวหน้า หวั่นเกิดโรคระบาด พร้อมแจงเหตุผล ยังไม่ส่งกลับ 18 เชลยศึก
ระยอง ตำรวจ MOU เทคนิคระยอง จับมือ นักเรียน นักศึกษา ร่วมโครงการตำรวจช่าง ซ่อมยานพาหนะให้ ปชช. และ นักท่องเที่ยว
โซเชียลแชร์เรื่องซึ้ง "พลทหาร" เอ่ยคำทำน้ำตาซึม "MK Group" ส่งมอบอาหารให้ถึงโรงครัวพระราชทาน
เขมรไม่ยอมจบแน่! เพจดังเปิดภาพดาวเทียม "เขาพระวิหาร" ตกอยู่ในวงล้อมฝ่ายทหารไทย จับตากัมพูชาเอาคืน
NARIT ชี้แจง ลูกไฟสีเขียวใหญ่บนฟ้า เสียงดังสนั่น  คาดเป็น "ดาวตกชนิดระเบิด" 
"สื่อกัมพูชา" ยอมรับแล้ว เขมรสร้างข่าวปลอม "กองทัพไทย" ใช้สารเคมีโจมตีทางทหาร

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​