No data was found

หยุด 8 ความเชื่อผิด ๆ “ดื่มนม” ไม่ดีต่อสุขภาพ

ดื่มนม, ดื่มนมวัว, น้ำตาลแลคโตส, เบาหวาน, มะเร็ง, แพ้น้ำตาลแลคโตส, น้ำตาลในนม, ผลิตภัณฑ์จากนม, นมพร่องมันเนย, นมทำให้เป็นสิว, น้ำนม, ควร ดื่ม นม วัน ละ กี่ แก้ว, วัน ดื่ม นม โลก

กดติดตาม TOP NEWS

รวม 8 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการ "ดื่มนม" ลือสะพัดไม่ดีต่อสุขภาพ ย้ำไม่เป็นความจริง เช็คเลยมีอะไรบ้าง

หยุดความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการ “ดื่มนม” ควร ดื่ม นม วัน ละ กี่ แก้ว วัน ดื่ม นม โลก รวม 8 ความเชื่อและชุดความคิดที่หลายคนเชื่อมาตลอด เช็คเลยมีอะไรบ้าง ติดตามต่อได้ที่นี่ TOP News

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

 

1. คนเราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ “ดื่มนม” วัว เพราะมีน้ำตาลแลคโตสที่ร่างกายย่อยไม่ได้

  • ในความเป็นจริงแล้วคนส่วนใหญ่แล้วสามารถย่อยนมได้สบาย
  • น้ำตาลแลคโตส (Lactose) ที่อยู่ในนม เกิดขึ้นตามธรรมชาติและต้องใช้เอนไซม์แลคเตส (lactase) ในร่างกายเราในการย่อย ไม่ว่าจะนมแม่ของคน หรือของวัว แพะ แกะ ฯลฯ ก็ตาม

แต่ก็มีหลายคนที่มีอาการแพ้น้ำตาลแลคโตส (lactose intolerance) เนื่องจาก ร่างกายมีเอนไซม์แลคเตสน้อย ทำให้ย่อยน้ำตาลในนมไม่หมด น้ำตาลแลกโตสถูกส่งผ่านมาถึงลำไส้ใหญ่และมาถูกเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ย่อยเป็นอาหาร จึงเกิดอาการไม่สบายต่อระบบทางเดินอาหารหลังจากดื่ม นมหรือกินผลิตภัณฑ์จากนม เช่น

  • แน่นท้อง
  • ท้องอืด
  • ปวดท้อง
  • ผายลมบ่อย
  • คลื่นไส้
  • ท้องเสีย
  • อาเจียน
  • ถ่ายเหลว

พบในผู้ใหญ่มากกว่าในเด็ก และในบางคนอาจจะเกิดขึ้นชั่วคราวจากการติดเชื้อโรคในทางเดินอาหาร จนไปทำลายเยื่อบุลำไส้และทำให้สร้างเอนไซม์แลคเตสไม่ได้ (เมื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาดื่ม นมได้)

 

 

 

มีการประเมินว่า ประมาณ 2 ใน 3 ของประชากรทั้งโลกมีอาการแพ้น้ำตาลแลคโตส โดยอัตราส่วนของประชากรชาวเอเชียและชาวอัฟริกา ที่มีอาการแพ้น้ำตาลแลกโตสมีอัตราส่วนสูงกว่าชาวยุโรป เนื่องจาก มีการการบริโภคนมในอาหารประจำวันน้อยกว่า

  • ถ้าใครมีอาการแพ้น้ำตาลแลคโตส ก็ยังสามารถบริโภคอาหารที่เป็นผลิตภัณฑ์นมชนิดที่เอาน้ำตาลแลคโตสออกไปแล้ว (เช่น เนย) หรือถูกย่อยแล้ว (เช่น ชีส) หรือถูกหมัก (เช่น โยเกิร์ต) หรือแม้แต่นมแลคโตสฟรี สามารถได้รับสารอาหารต่าง ๆ จากนมได้อย่างครบถ้วน ขาดแค่น้ำตาลแลคโตสเท่านั้น
  • นมเป็นอาหารที่มีแคลเซียมสูง เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของกระดูกของเด็ก และการรักษากระดูกของผู้ใหญ่ให้เป็นปกติ

 

 

 

ดื่มนม, ดื่มนมวัว, น้ำตาลแลคโตส, เบาหวาน, มะเร็ง, แพ้น้ำตาลแลคโตส, น้ำตาลในนม, ผลิตภัณฑ์จากนม, นมพร่องมันเนย, นมทำให้เป็นสิว, น้ำนม, ควร ดื่ม นม วัน ละ กี่ แก้ว, วัน ดื่ม นม โลก

 

 

 

2. นมเต็มไปด้วยไขมัน ทำให้อ้วน

  • น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เป็นเรื่องของจำนวนแคลอรีที่กินเข้าไปเทียบกับจำนวนที่ร่างกายต้องการนำไปใช้งาน ขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารทุกอย่างที่กินเข้าไป และจากไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน
  • ไม่ได้จะเกิดจากเพียงแค่อาหารหรือเครื่องดื่มชนิดใดชนิดหนึ่ง
  • มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เผยว่า การดื่ม นมมีแนวโน้มเป็นกลาง ต่อการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว และนมไม่ใช่อาหารที่มีไขมันสูงอย่างที่หลายคนเข้าใจ
  • แม้แต่นมที่เรียกว่า ฟูลแฟตมิลค์ full fat milk ก็มีไขมันอยู่ในนมเพียงแค่ 4% หรือถ้าเป็นนมพร่องมันเนยลงมา ไขมันก็จะอยู่ที่ประมาณน้อยกว่า 2%

 

 

 

3. นมทำให้เป็นสิว

  • แม้ว่าจะมีการสำรวจพบว่าคนบางคนที่ดื่ม นมสามารถทำให้เป็นสิวจริง แต่ก็ยังไม่มีการรีวิวงานวิจัยหลายนี้อย่างเป็นระบบ และพบว่าการสำรวจดังกล่าว มักจะไม่ได้เอาปัจจัยอื่น ๆ มาคิดด้วย
  • และยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่านมทำให้คนส่วนใหญ่เกิดปัญหาผิวหนังขึ้น
  • โดยรวมแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเห็นพ้องกันว่า ไม่ได้มีหลักฐานเพียงพอที่จะบอกว่ามีความเชื่อมโยงชัดเจนระหว่างนมกับการเกิดสิว หรือบอกว่านมเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปัญหาผิวหนังกับคนส่วนใหญ่
  • ในทางกลับกัน นมและผลิตภัณฑ์นมยังอุดมไปด้วสารอาหารหลายอย่าง เช่น ซิงค์ (สังกะสี), ไอโอดีน และวิตามิน A วิตามิน B2 ที่ดีต่อการรักษาผิว

 

 

 

4. นมเต็มไปด้วยฮอร์โมน ยาปฏิชีวนะ และสารปรุงแต่งต่าง ๆ

  • ในน้ำนมนั้นมีฮอร์โมนกลุ่มสเตียรอยด์ตามธรรมชาติ เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่จริง แต่มีเพียงจำนวนน้อยมาก น้อยกว่าที่ร่างกายของคนเราสร้างขึ้นเองเยอะ
  • น้ำนมมีฮอร์โมนเยอะ เพราะ ถูกฉีดด้วยฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโต เพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิต ไม่เป็นความจริง วิธีการดังกล่าวได้ถูกห้ามทำไปแล้ว (เช่น ในยุโรป ได้มีการแบนการฉีดฮอร์โมนดังกลาว เมื่อปี ค.ศ. 1999 บนหลักการสุขภาพของสัตว์)
  • และยังมีการอ้างว่า นมมียาปฏิชีวนะ (antibiotic) ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน เพราะถึงแม้จะมีการใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาวัวที่ป่วย แต่จะต้องหยุดการรีดนมไว้ก่อน จนกว่าร่างกายของวัวจะกำจัดเอายาปฏิชีวนะไปหมดแล้ว นมวัวจากฟาร์มที่ได้มาตรฐานจะมีการนำมาตรวจหายาปฏิชีวนะเสียก่อน ถ้าพบแม้เพียงเล็กน้อย นมทั้งแท็งค์ที่ขนมาก็จะถูกยกเลิกการรับซื้อ และเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวก็จะสูญเสียรายได้อย่างมาก
  • นอกจากนี้ ยังมีมีความเชื่อว่า นมเต็มไปด้วยสารปรุงแต่งสังเคราะห์หลายชนิด ก็ไม่เป็นความจริงอีกเช่นกัน
  • นมจืดสามารถนำมาบริโภคเป็นอาหารตามธรรมชาติได้โดยที่ไม่ต้องเติมสารอะไรลงไปอีก และกระบวนการผลิตน้ำนมจากฟาร์ม สู่โรงงาน สู่มือผู้บริโภค ก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรมาก มีเพียงแค่การนำไปฆ่าเชื้อ ด้วยวิธีพาสเจอไรซ์ โดยการให้ความร้อนสูงเป็นเวลาสั้น ๆ และลดอุณหภูมิลง เพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายเท่านั้น

 

 

 

ดื่มนม, ดื่มนมวัว, น้ำตาลแลคโตส, เบาหวาน, มะเร็ง, แพ้น้ำตาลแลคโตส, น้ำตาลในนม, ผลิตภัณฑ์จากนม, นมพร่องมันเนย, นมทำให้เป็นสิว, น้ำนม, ควร ดื่ม นม วัน ละ กี่ แก้ว, วัน ดื่ม นม โลก

 

 

 

5. นมเต็มไปด้วยหนอง

  • ในน้ำนมตามปกติของวัว (หรือแม้แต่นมแม่) มีเม็ดเลือดขาวอยู่แล้ว ซึ่งมีส่วนช่วยให้น้ำนมที่กินเข้าไปนั้น ไปเสริมภูมิคุ้มกันในทางเดินอาหาร ต่อต้านกับการติดเชื้อแบคทีเรียก่อโรค
  • นอกจากนี้ ปริมาณของเม็ดเลือดขาวช่วยบอกถึงคุณภาพของน้ำนมได้อีกด้วย
  • บ้างก็มีการลือกันว่า การดื่มนมทำให้คัดจมูก และมีน้ำมูกออกมามาก และยังทำให้มีน้ำลายเหนียวอีก ซึ่งในปัจจุบันยืนยันว่า ไม่มีหลักฐานตามอย่างที่ลือกัน

 

 

 

ดื่มนม, ดื่มนมวัว, น้ำตาลแลคโตส, เบาหวาน, มะเร็ง, แพ้น้ำตาลแลคโตส, น้ำตาลในนม, ผลิตภัณฑ์จากนม, นมพร่องมันเนย, นมทำให้เป็นสิว, น้ำนม, ควร ดื่ม นม วัน ละ กี่ แก้ว, วัน ดื่ม นม โลก

 

 

 

6. นมดูดเอาแคลเซียมไปจากกระดูก

  • เกิดจากการที่มีคนเสนอสมมติฐานเอาไว้ สุขภาพของร่างกายเราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ด้วยการกินอาหารที่มีความเป็นกรดให้น้อยลง หรือก็คือให้กินอาหารที่เป็นด่าง
  • ซึ่งกลุ่มที่ศรัทธาในเรื่องอาหารด่างนั้น เชื่อว่าอาหารที่มีโปรตีนสูงอย่างเช่นนม จะทำให้เลือดของเราเป็นกรดมากขึ้น โดยอ้างว่าร่างกายจะพยายามจะลดความเป็นกรด ด้วยการดึงเอาแร่ธาตุที่เป็นด่างออกมา เช่นแคลเซียมจากกระดูก ทำให้กระดูกอ่อนแอ และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุน
  • แต่ในความเป็นจริงแล้ว ระดับของค่า PH ของเลือดคนเราถูกควบคุมอย่างเข้มงวดด้วยการทำงานของไตและปอด และไม่ได้เป็นผลจากอาหารที่เรากินเข้าไปแต่อย่างไร
  • ยิ่งไปกว่านั้น ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าอาหารที่มีความเป็นกรดไม่ได้จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อระดับของแคลเซียม แต่อย่างใด
  • ในทางตรงกันข้าม อาหารเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพของกระดูก ทั้งสารอาหารจำเป็นต้องการเจริญเติบโตและพัฒนาของกระดูกของเด็ก และจำเป็นต่อการรักษากระดูกของผู้ใหญ่และผู้สูงวัยให้เป็นปกติอีกด้วย

 

 

 

7. นมมีน้ำตาลสูง ทำให้เป็นโรคเบาหวาน

  • จริง ๆ แล้วน้ำตาลในน้ำนมนั้นมีอยู่ประมาณ 4.7% (ค่าอยู่ระหว่างมะเขือเทศกับมันหวาน) และอยู่ในรูปของน้ำตาลแลคโตสตามธรรมชาติ ไม่เหมือนพวกน้ำตาลที่เพิ่มเข้าไปในอาหาร
  • นอกจากจะไม่มีหลักฐานที่ระบุว่านมและผลิตภัณฑ์นมเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานหรือโรคอ้วนแล้ว นมยังช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ในระยะยาวได้ด้วย

 

 

 

 

  • อย่างไรก็ตาม มีพวกโยเกิร์ตหรือเครื่องดื่มนมที่แต่งรสชาติด้วยการเติมน้ำตาลลงไป ซึ่งปริมาณนั้นมากน้อยต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ ซึ่งจะมีระบุเอาไว้ในฉลากสารอาหารบนบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้พิจารณาเวลาจะควบคุมระดับน้ำตาลที่บริโภคในแต่ละวัน
  • ส่วนความเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานประเภท 2 นั้น ผลการศึกษาหลายฉบับ เผยว่า การกินอาหารที่มีผลิตภัณฑ์นมมากขึ้น โดยเฉพาะโยเกิร์ต อาจจะช่วยป้องกันการเป็นโรคเบาหวานประเภทนี้ได้ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว คำแนะนำที่ดีที่สุดในการลดโอกาสในเกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2 คือ การพยายามและรักษาสุขภาพให้ดี กระชับกระเฉงขึ้น และกินอาหารที่มีประโยชน์และสมดุลย์มากขึ้น ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์นมด้วย

 

 

 

8. นมทำให้เป็นมะเร็ง

  • เป็นเรื่องที่ชอบอ้างกันมากที่สุดของกลุ่มที่ต่อต้านการดื่มนม โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • แต่หน่วยงานที่เกี่ยวกับโรคมะเร็งอย่างเช่น The World Cancer Research Fund (WCRF) ระบุว่า จริง ๆ แล้ว มีหลักฐานอยู่อย่างจำกัดว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์นมมากขึ้นอาจจะนำไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ในทางตรงกันข้าม มีหลักฐานอยู่เยอะมากที่บอกว่าการมีน้ำหนักตัวเกิน จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากขั้นลุกลาม
  • ซึ่งทาง WCRF ระบุว่า มีหลักฐานบางส่วนที่บ่งชี้ว่า การบริโภคผลิตภัณฑ์นมจริง ๆ แล้วอาจจะลดโอกาสที่จะเกิดมะเร็งเต้านมในช่วงก่อนหมดประจำเดือนลงได้ แม้ว่าจะยังเป็นหัวข้อวิจัยที่ต้องการการศึกษาเพิ่มขึ้นก่อนที่จะมีข้อสรุปออกมาได้
  • ยิ่งไปกว่านั้น ทาง WCRF ยังบอกว่าผลิตภัณฑ์นม รวมถึงการบริโภคพวกธัญพืชแบบโฮลเกรน และอาหารที่มีเส้นใยสูง สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้

 

 

ข้อมูล : อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แม่น้องไนซ์ เชื่อมจิต" ร่อนจดหมายขอพบ "รมต.-ผอ.สำนักพุทธฯ" โวยถูกโซเชียลและสื่อบิดเบือน
ประเทศไทย แถลงความสำเร็จ เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลก คาดสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล
ปัสสาวะเป็นเลือด สัญญาณอันตราย เสี่ยงภัยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ผลสำเร็จ กระตุ้นศก.ไทย "นายกฯ" ดันส่งออกสินค้ากลุ่มคลายร้อน อันดับ 1 อาเซียน และ Top10 ของโลก
"ตร.พัทยา" บุกรวบ 9 นักพนันชาวต่างชาติ เปิดร้านกาแฟบังหน้า ยึดของกลางได้เพียบ
สภาพอากาศวันนี้ อุตุฯเผยอากาศร้อนจัดในตอนกลางวัน เตือน 61 จว.รับมือฝนถล่ม กทม.โดนด้วย
ปูตินไม่มีแผนยึดคาร์คิฟ รุกยึดพื้นชายแดนเพื่อสร้างเขตกันชน
จีนดัน "กุ้ยโจว" เมืองเสน่ห์ท่องเที่ยวธรรมชาติ-วัฒนธรรมยุคใหม่ เต็มไปด้วยมรดกธรรมชาติอันล้ำค่า สวยสดงดงาม
นาทีพายุกำลังแรงเทียบเฮอร์ริเคนถล่มเท็กซัส ตาย4 (คลิป)
ชายแอลจีเรียหายตัวไป ที่แท้โดนเพื่อนบ้านขัง 26 ปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น