เมื่อเวลา 12.00น. วันที่29 ก.ค. 2564 นางศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ ทนายนิด้า พร้อมด้วย ปุ้ย นางพิมลวรรณ หุ่นทองคำ พิธีกร และอดีตผู้ประกาศข่าว เดินทางมาที่ สน.ดุสิต เพื่อแจ้งความเอาผิด นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีที่นายสนธิญายื่นหนังสือให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบดาราและบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ออกมาแสดงความคิดเห็นวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลในการแก้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19
โดยนางพิมลวรรณ กล่าวว่า วันนี้เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายสนธิญา ในฐานความหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีผลให้ประชาชนเกิดความสับสน และเข้าใจผิดในเรื่องของการฉีดวัคซีน ถึงแม้ว่าจะไม่มีฝ่ายเห็นต่างโทรมาต่อว่า แต่ตนมองว่าเรื่องแบบนี้ควรแสดงความรู้สึกได้ โดยยืนยันมั่นใจว่าที่ตนโพสต์ลงไอจีทั้งหมดไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาท เป็นเพียงการแสดงความรู้สึกของประชาชนเท่านั้น ซึ่งการแสดงความรู้สึกไม่ควรกลายมาเป็นความผิด ที่ผ่านมาตนก็โพสต์เรื่องราวความรู้สึกมาโดยตลอด ก็ไม่ทราบว่าการที่นายสนธิญายื่นหนังสือที่มีภาพ และรายชื่อของตนไปยัง บช.น.เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายนั้นถือเป็นความผิดอย่างไร ส่วนที่มาแจ้งความในวันนี้ตนตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นแนวทางให้กับดาราคนอื่นด้วยหรือไม่ แต่ยืนยัน ว่าจะรับคำขอโทษเป็นเครื่องช่วยหายให้กับผู้ป่วยโควิด-19 เท่านั้น
ขณะที่นางศรันยา กล่าวว่า วันนี้มาแจ้งความดำเนินคดีนายสนธิญา ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจน ส่วนเรื่องการแจ้งความเท็จต้องให้พนักงาน สน.ดุสิต เป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งถ้าพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการในทุกข้อหาให้ถึงที่สุด ทั้งนี้การเมืองถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีความเห็นต่างกันทุกยุคทุกสมัย การที่เอาคนหนึ่งมาดำเนินคดี ให้เกิดความเสียหาย และเป็นเป้าในการโจมตีถือว่าไม่ควรกระทำ และเท่าที่ตรวจสอบการโพสต์แสดงความคิดเห็นของคุณปุ้ยทั้งหมด พบว่ามีโพสต์เดียวเท่านั้นที่อาจจะเข้าข่ายให้นายสนธิญาเอามายื่น คือโพสต์ที่มีข้อความว่า “จ่ายภาษีแบบบังคับ แล้วรอรับสวัสดิการแบบชิงโชค” ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าที่นายสนธิญายื่นให้ตรวจสอบ เป็นโพสต์นี้หรือไม๊ จึงต้องให้ตำรวจเปิดเผยข้อมูลที่ถูกร้องเรียนมา
