วันนี้ เวลา 10.00 น. ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อมด้วย พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี เลขาธิการเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ และเครือข่ายภาคประชาชนที่เดือดร้อนจากการขึ้นค่าไฟฟ้า ยื่นคำฟ้องคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนการขึ้นค่าไฟฟ้า หรือค่าเอฟที (FI) งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.65 ถึง 4.72 บาท อันเป็นการผลักภาระให้ประชาชนรับผิดชอบ ทั้งๆที่เป็นความผิดพลาดล้มเหลวของรัฐบาล
ข่าวที่น่าสนใจ
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติขึ้น ‘ค่าเอฟที’ ใหม่ ไปอยู่ที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย หรือปรับเพิ่มขึ้น 68.66 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งการปรับค่าเอฟทีดังกล่าว จะส่งผลให้ราคาค่ไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่ายในงวดใหม่ เดือน ก.ย.65 ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย จากเดิม 4 บาท ถือเป็นอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงสุดตั้งแต่เรียกเก็บมา ซึ่งเป็นการผลักภาระให้ประชาชนทุกครัวเรือนทั้งประเทศให้ร่วมรับผิดชอบ การคิดค่าเอฟทีหรือค่าไฟฟ้าผันแปร มาจากความผิดพลาดของแผน PDP2018 ที่เปิดโอกาสให้เอกชนสามารถผลิตไฟฟ้าขายให้ กฟผ.ได้อย่างเต็มที่ทำให้ประเทศมีกำลังการผลิตไฟฟ้ากว่า 48,159.37 เมกกะวัตต์ แต่ปรากฏว่ามีการใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศสูงสุดไม่ถึง 3 หมื่นเมกกะวัตต์
ซึ่งสถิติการใช้ไฟฟ้าช่วงฤดูร้อนสูงสุดเมื่อปี 2565 ก็แค่เพียง 30,936.5 เมกกะวัตต์ เมื่อ 23 เม.ย.65 เท่านั้น ทำให้ประเทศมีไฟฟ้าสำรองเกือบ 50 เปอร์เซ็น หรือเกือบ 2 หมื่นเมกกะวัตต์ ซึ่งระบบสากลกำหนดให้มีไฟฟ้าสำรองได้เพียงประมาณ 15% พอแล้ว แต่ กกพ.กลับปล่อยให้บริษัทไฟฟ้าเอกชะต่าง ๆร่ำรวย และผลักมาให้ผู้ใช้ไฟฟ้าแต่ละครัวเรือนร่วมรับผิดชอบ อย่างไม่เป็นธรรม
ที่สำคัญ กกพ.ใช้อำนาจที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 ม.56 ที่กำหนดให้โครงสร้างหรือ โครงข่ายขั้นพื้นฐานของกิจการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐ จะทำให้รัฐเป็นเจ้าของน้อยกว่าร้อยละ 51 มีได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดินได้วินิจฉัยและส่งรื่องให้รัฐบาลแก้ไขแล้ว แต่กลับเพิกเฉยกันไม่ยอมแก้ไข สมาคมฯและเครือชายฯจึงไม่อาจปล่อยให้ กกพ.ใช้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้ วันนี้จึงมาฟ้องศาลปกครองให้เพิกถอนมติของ กกพ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
