“ปราชญ์ สามสี” ฟาด “จิรัฏฐ์” กำลังโกหกประเทศไทย ยกคำพิพากษาชี้ชัดจำเลยไม่มีหลักฐานแสดงหักล้าง ใบสด.43ปลอม

“ปราชญ์ สามสี” ฟาด “จิรัฏฐ์” กำลังโกหกประเทศไทย สอนสู้ด้วยหลักฐานในกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่สู้ด้วยวาทกรรมบนหน้าจอ

“ปราชญ์ สามสี” ฟาด “จิรัฏฐ์” กำลังโกหกประเทศไทย ยกคำพิพากษาชี้ชัดจำเลยไม่มีหลักฐานแสดงหักล้าง ใบสด.43ปลอม – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก “ปราชญ์ สามสี” โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีนายจิรัฏฐ์ หรือนวรินทร์ ทองสุวรรณ์ อดีตส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชนา ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ฐานใช้เอกสาร ใบ สด.43ปลอม ว่า ประเทศไทยไม่ได้แกล้งคุณหรอก คุณต่างหากที่กำลังโกหกประเทศไทย

ในคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลได้พิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบแล้วเห็นว่า พยานฝ่ายโจทก์ ทั้งพยานราชการ/นายทหารกรมพระธรรมนูญ เบิกความยืนยันถึงข้อมูลการเกณฑ์ทหารใน “เล่มต้นฉบับ” และระบบตรวจสอบที่เป็นระเบียบ โดยปรากฏว่ามีการผ่อนผันระหว่างเป็นนักศึกษา และเมื่อครบกำหนดมีหมายเรียกให้เข้ารับการตรวจเลือก แต่มีการหลีกเลี่ยงไม่เข้ารับการตรวจเลือกตามหมายเรียก จนเคยมีคำพิพากษาในคดีหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารมาก่อนแล้ว

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ที่สำคัญ ในประเด็น ใบ สด.43 ศาลได้กล่าวไว้ชัดว่า แม้โจทก์จะไม่ได้สืบให้ชัดเจนว่า “ใครเป็นผู้ทำเอกสารปลอม” แต่ศาลให้น้ำหนักที่ “การนำไปใช้” และ “สภาพพยานหลักฐาน” โดยข้อเท็จจริงคือ จำเลยไม่ได้นำเอกสารต้นฉบับมาแสดงต่อศาล และ ไม่มีพยานฝ่ายจำเลยมาเบิกความสนับสนุน ทั้งที่ศาลเห็นว่า จำเลย “รู้ดีอยู่แล้ว” ว่าตนไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกิน

ศาลยังพิจารณาสถานะของจำเลยในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการทหารของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง “ย่อมรู้ดี” ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และศาลระบุด้วยว่า พยานโจทก์ล้วนเบิกความไปตามจริง ไม่มีเจตนาปรักปรำหรือกลั่นแกล้ง

ท้ายที่สุด ศาลวินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อกระทรวงกลาโหม ประชาชน และกระทบความเชื่อมั่นต่อระบบการเกณฑ์ทหาร อันเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ จึงลงโทษฐานใช้เอกสารราชการปลอม โดยพิพากษาจำคุกตามที่ปรากฏในคำพิพากษาชั้นต้น ข้อหาอื่นให้ยก

 

 

ดังนั้น ถ้าจะออกมาพูดบนสื่อใหญ่ว่า “ถูกกลั่นแกล้งเป็นขบวนการ” หรือ “เอกสารไม่ปลอม” อย่างน้อยที่สุดต้องย้อนกลับมาดูว่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยอะไรไว้แล้ว เพราะการพูดสวนคำพิพากษา โดยไม่หยิบหลักฐานเดิมที่ศาลต้องการมาแสดงให้ชัด ไม่ได้ทำให้เรื่องจริงเปลี่ยนไป มีแต่จะยิ่งทำให้สังคมเห็นว่า กำลังสื่อสารเพื่อกลบข้อเท็จจริง ขอเตือนตรง ๆ ด้วยความหวังดี การโกหกหรือบิดเบือนบนหน้าสื่อใหญ่ ไม่ได้ช่วยให้รอด แต่มักทำให้เสียหายหนักกว่าเดิม เพราะมันจะย้อนกลับมาทำลายทั้งความน่าเชื่อถือ ชื่อเสียง คนรอบตัว และโอกาสทางการเมืองในระยะยาว แบบ “เจ็บซ้ำ” โดยไม่จำเป็นเลย ถ้าจะสู้ ก็สู้ด้วยหลักฐานในกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่สู้ด้วยวาทกรรมบนหน้าจอ

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กัมพูชาแบนโดรนทุกชนิดในพนมเปญ
สส. เม็กซิโกตะลุมบอนวุ่นระหว่างประชุมสภา
ฮุนเซนขอเอกชนกัมพูชาบริจาคเงินเดือนช่วยผู้หนีภัย
ผบช.ภ.3 ปล่อยแถวระดมกำลังโคราช กวาดล้างอาชญากรรมเข้ม รับมือชายแดน โดรนสอดแนม เทศกาลปีใหม่
พัทยาคึกคัก เรือสำราญระดับโลก เวสเตอร์ดัม ปล่อยนักท่องเที่ยว  ลูกเรือกว่า 2,500 คน ทัวร์เมืองพัทยา
คณะอนุกรรมาธิการกิจการทหารด้านความมั่นคงแบบองค์รวม ประชุม ครั้งที่ 17/2568

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​