กระทรวงแรงงาน เคาะมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการ ลด "เงินสมทบ" เข้ากองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานเหลือ 0.5%
ข่าวที่น่าสนใจ
อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เผยว่า เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน มีมติเห็นชอบเมาตรการช่วยเหลือสถานประกอบกิจการที่อยู่ในข่ายต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่ม ต้องพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่พนักงาน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของพนักงานทั้งหมดนั้น ด้วยรอบปี พ.ศ. 2565 สถานประกอบกิจการหลายแห่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด–19 บางแห่งเริ่มดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถจัดอบรมพนักงานได้เต็มที่ เนื่องจาก ต้องเร่งการผลิตและปรับปรุงกระบวนการทำงาน
เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว คณะกรรมการจึงกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือ ได้แก่
- ปรับลดสัดส่วนการพัฒนาพนักงานจากไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 เหลือไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของพนักงานทั้งหมด
- ปรับลดอัตราการส่ง “เงินสมทบ” เข้ากองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ประจำปี 2565 จากร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.5
นอกจากนี้ คณะกรรมการส่งเสริม ยังเห็นชอบจำนวนผู้เข้าอบรมผ่านการฝึกอบรมออนไลน์จากเดิมที่กำหนดให้ 1 ห้อง ต้องมีผู้เข้าอบรมไม่เกิน 30 คน ปรับเพิ่มให้เป็นไม่เกิน 50 คน ซึ่งยังสามารถควบคุมคุณภาพในการฝึกอบรมได้ แต่ทั้งนี้ ต้องรอประกาศอีกครั้งจึงจะมีผลบังคับใช้
อย่างไรก็ตาม มาตรการที่กำหนดขึ้นเป็นเพียงการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบกิจการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด- 19 และอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ แต่สำหรับผู้ประกอบกิจการที่สามารถดำเนินการได้ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ส่งเสริม เช่น จัดฝึกอบรมเพื่อพัฒนาพนักงานได้เกินกว่าร้อยละ 70 ในส่วนที่เกินกว่าร้อยละ 70 มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนให้รายละ 200 บาท และมีเงินอุดหนุนให้อีกหลายกรณี เช่น
- การจัดทำมาตรฐานฝีมือสำหรับผู้ประกอบอาชีพ สำหรับใช้เฉพาะในสถานประกอบกิจการของตนเอง
- การส่งเสริมและสนับสนุน จัดส่งพนักงานเข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน
“การรับรองหลักสูตรภายใต้พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานเริ่มคลายล็อกหลายกรณีแล้ว การรับรองการจัดฝึกในรูปแบบออนไลน์ก็สามารถทำได้แล้ว นอกจากนี้ ยังสามารถยื่นเอกสารต่าง ๆ ผ่านระบบ PRB e-Service โดยไม่ต้องเดินทางอีกด้วย ซึ่งกรมพัฒนาฝีมือแรงงานพยายามพัฒนาและปรับปรุงระบบ เพื่อให้บริการสถานประกอบกิจการและแรงงานอย่างเต็มที่”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
