No data was found

สบส. ปลดล็อก รพ.เอกชน-คลินิก แยกผู้ป่วยโควิดสีเขียวกักตัวที่บ้าน

กดติดตาม TOP NEWS

สบส. ออกประกาศปลดล็อก โรงพยาบาลเอกชน-คลินิก แยกกลุ่มผู้ป่วยโควิดสีเขียว ทำการรักษาตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด 19 มีความรุนแรง กระจายไปหลายพื้นที่ ประชาชนขอตรวจคัดกรองเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โรงพยาบาลเอกชนหรือคลินิกบางแห่งเกิดการขาดแคลนทรัพยากร อีกทั้งกฎหมายกำหนดให้สถานพยาบาลที่ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด 19 จะต้องประสานหรือรับเข้ารักษาในสถานพยาบาลทันที แต่เตียงที่มีจำนวนจำกัดทำให้ไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยทุกรายได้

 

ด้วยเหตุนี้ จึงได้ออกประกาศเรื่อง แนวทางการดูแลรักษา ป้องกัน ควบคุม และส่งต่อผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19 ของสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนและสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน พ.ศ.2564 ฉบับใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564

 

นพ.ธเรศ เปิดเผยต่อว่า ประกาศฉบับนี้กำหนดให้กรณีโรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิกตรวจพบผู้ติดโรคโควิด 19 ที่มีอาการอยู่ในเกณฑ์สีเขียว ให้แนะนำดูแลผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล ณ ที่พำนักของผู้ป่วย (Home Isolation) โดยสถานพยาบาลจะต้องดูแล ส่งเครื่องวัดไข้ วัดออกซิเจนในเลือด ยา อาหาร วิดีโอคอลติดตามอาการของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีอาการทรุดลงให้ประสานงานส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตของผู้ป่วย จึงขอให้ผู้ประกอบกิจการ รพ.เอกชนและคลินิก คลายกังวลในปัญหาเตียงและเดินหน้าตรวจคัดกรองโรคโควิด 19 ให้กลุ่มเสี่ยง

 

ขณะที่ ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. เปิดเผยว่า เกณฑ์ของผู้ป่วยที่ทำ Home Isolation ผู้ป่วยจะต้องไม่แสดงอาการ มีอายุน้อยกว่า 60 ปี สุขภาพร่างกายแข็งแรง อยู่คนเดียวหรือมีผู้ร่วมที่พักไม่เกิน 1 คน ไม่มีภาวะอ้วน โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ และผู้ป่วยจะต้องลงนามในหนังสือแสดงความยินยอม/เจตนาในการแยกกักตัวที่บ้านแต่สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในอาการเกณฑ์สีเหลือง สีแดง หรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษาในที่พำนักของผู้ป่วยได้ หากอยู่ใน กทม. ขอให้สถานพยาบาลเอกชนประสานศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. แต่หากอยู่ในเขตจังหวัดอื่นให้ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือสายด่วน สปสช. 1330 หรือหน่วยงานอื่นตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยทันที

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ยามเมาคลั่งตำรวจคุมตัววุ่น
จังหวัดลพบุรีส่อแล้งเขื่อนป่าสักน่าเป็นห่วงเหลือน้ำอยู่ 15 เปอร์เซ็นต์
ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567
ตำรวจ รวบหนุ่มเพื่อนบ้าน ถือปืนขู่
ครอบครัววอนช่วยตามหาญาติหายตัวขณะเที่ยวไทย
กองทุนกำลังใจฯ "เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ" เปิดอบรมหลักสูตร Care Giver หลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอาย ณ ทัณฑสถานหญิงกลาง
อัยการยื่นฟ้อง "ฮาร์ท- สุทธิพงศ์" เอาผิดคดีม.112 โพสต์หมิ่นเบื้องสูง เมื่อปี 64
FBI ชี้เป้า จับหนุ่มก้ามปู ชาวมะกัน หนีข้ามแดน บีบคอเหยื่อ บังคับค้ากาม หนีกบดานไทย
"แบงค์ ศรราม" เคลียร์ชัดทุกปม หลัง "นุ่น ดำดง" ขอลาออก ทำงงกันทั้งคณะลิเก
นักปีนเขาติดบนหน้าผาในจีน 1 ชม.เหตุแออัด (คลิป)

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น