‘สมาคมทนายความฯ’ จี้รัฐ ทบทวนแผนจัดซื้อ ‘ซิโนแวค’

'สมาคมทนายความฯ' จี้รัฐทบทวนแผนจัดซื้อ 'ซิโนแวค' 10.9 ล้านโดส วงเงิน 6.1 พันล้าน

วันที่ 8 ก.ค.-สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่ได้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งเป็นโรคติดต่อได้ง่ายและเป็นอันตรายอย่างมากต่อชีวิตของผู้ได้รับเชื้อ ซึ่งต่อมา นายกรัฐมนตรีได้อาศัยอำนาจตามมาตรา5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดนั้น โดยที่โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายทั้งตามประกาศขององค์การอนามัยโลก และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว รัฐจึงมีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง ส่วนประชาชนก็ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อันเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 55 และ มาตรา 47 วรรคสาม

เพื่อป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายดังกล่าว รัฐบาลได้สั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคมาฉีดให้กับประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้มีการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติมอีกจำนวน 10.9 ล้านโดส ในวงเงินจำนวน 6,100 ล้านบาท แต่ปัจจุบันเกิดข้อถกเถียงทางการแพทย์ว่า วัคซีนดังกล่าวไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย (Delta) หรือสายพันธุ์อื่น ๆ ที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทยในขณะนี้ได้ วัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพเพียงป้องกันไม่ให้ผู้ที่ติดเชื้อต้องเสียชีวิตลงเท่านั้น ดังนั้นการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคและการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้มีการสั่งซื้อเพิ่มเติมดังกล่าวจึงมิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและขัดต่อกฎหมายทำให้ประเทศชาติและประชาชนได้รับความเสียหาย

ส่วนที่อ้างว่ารัฐบาลจะต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ลงนามไว้แล้วนั้น สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เห็นว่า วัตถุประสงค์ของการซื้อขายวัคซีนเพื่อนำมาฉีดให้กับประชาชน ป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสดังกล่าว ดังนั้นหากวัคซีนดังกล่าวไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อที่กลายพันธุ์ได้ รัฐบาลซึ่งเป็นฝ่ายผู้ซื้อย่อมมีสิทธิที่จะยกเลิกสัญญาหรือปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ เพราะวัคซีนที่จะส่งมอบมิได้มีคุณสมบัติเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสัญญา

สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย จึงขอเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีได้ทบทวนการสั่งซื้อวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพที่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชน เพราะเงินที่ใช้ในการจัดซื้อเป็นเงินที่มาจากภาษีของประชาชน จึงต้องดำเนินการให้สมประโยชน์แก่ประชาชนและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย การดำเนินการหรือให้ความเห็นชอบกับกระบวนการที่มิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายคือการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ยินดีเป็นตัวแทนของประชาชนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอันเป็นการปกป้องผลประโยชน์และชีวิตของประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แพทองธาร - พินทองทา" พร้อมสามี เข้าเยี่ยม "ทักษิณ" เรือนจำกลางคลองเปรม ถือจดหมายหลานฝากให้คุณตา
หนุ่มโรงงานวิ่งหนีตาย ถูกกลุ่มชายปริศนาบุกมีดฟันนิ้วขาดขณะนั่งดื่มกินกับสาวฝึกงาน
พ่อค้าแม่ค้า ยอมรับกลัวการอายัดบัญชี แต่ก็ต้องรับโอนจ่ายค่าของเหมือนเดิม เนื่องจากลูกค้าไม่ค่อยพกเงินสด
กองทัพบก เปิดไทม์ไลน์ "ชาวกัมพูชา" ขนคน 6 คันรถ ป่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว พุ่งรื้อลวดหนาม ทำร้ายจนท.ไทย จนต้องยกระดับใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง ระงับเหตุ
ชมรมโฮปฯ เดินสายมอบกำลังใจ ส่งข้าวสาร-อาหารแห้งช่วยผู้ป่วย พร้อมน้ำดื่มให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงบางปู
เล่นบทเหยื่ออีกแล้ว "ฮุน มาเนต" ฟ้องผู้นำโลก ไทยละเมิดสิทธิมนุษยชน พูดมาได้ เหตุป่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว ขอหยุดขับไล่คนเขมร

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​