“อดีตพระ-นาง” โร่ร้องทนาย ถูกอดีตโฆษก ปชป.ใช้ชื่อซื้อรถ ก่อนเบี้ยวค่างวด

น.ส.ปานพิมพ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ช่วงเดือน ธ.ค.63 ตนได้มาทำงานเป็นเลขาส่วนตัวให้กับนายชวนนท์ จากนั้นไม่นานนายชวนนท์ได้บอกกับตนว่า ให้ช่วยเช่าซื้อรถเก๋งบีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่นซี่รีย์ 7 ให้เนื่องจากตัวนายชวนนท์ทำเรื่องไม่ผ่านอ้างว่าเครดิตไม่ดี และมีคดีความค้างอยู่ในศาลจึงไม่สามารถออกรถเองได้ โดยนายชวนนท์จะรับผิดชอบค่างวดทั้งหมดเอง ด้วยความที่เชื่อใจประกอบกับตนทำงานเป็นเลขานายชวนนท์ จึงยอมออกรถให้โดยคันแรกเป็นรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู ซี่รีย์ 7 ราคา 2,090,000 บาท เงินดาวน์ 498,214 บาท ผ่อนงวดละ 39,648 บาท 43 งวด โดยตลอด 1 ปีแรก นายชวนนท์ส่งค่างวดรถตรงมาโดยตลอด ต่อมาเมื่อเดือน ก.พ. 64 นายชวนนท์ได้ออกปากให้ตนช่วยออกรถเบนซ์ให้อีกคัน ซึ่งตนก็เริ่มลังเลเพราะเกรงว่าจะรับภาระหนัก แต่นายชวนนท์อ้างว่า จะซื้อรถให้พ่อโดยไปดูที่ศูนย์รถแห่งหนึ่งซึ่งเป็นรถเบนซ์มือ 2 แต่ยังเป็นป้ายแดงอยู่ ตนก็ยอมโดยให้แฟนเป็นคนซื้อรถแต่เอกสารไม่ผ่าน นายชวนนท์จึงมาขอให้ตนเป็นคนซื้อรถให้โดยจะเดินเรื่องทุกอย่างเอง จนผ่านจึงได้ออกรถเบนซ์ รุ่น อี 350 ป้ายแดง มือสอง ราคา 1,960,000 บาท ดาวน์ 490,000 บาท ผ่อนงวดละ 45,064 บาท 48 งวด เป็นชื่อตนร่วมที่ตนออกรถให้นายชวนนท์จำนวน 2 คัน หลังจากนั้นเดือน ธ.ค.64 ตนได้ลาออกจากการเป็นเลขานายชวนนท์

กระทั่งเมื่อเดือนพ.ค.65 ตนได้รับโทรศัพท์จากไฟแนนท์แจ้งว่า ตนผิดนัดชำระค่างวดรถโดยรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู ค้างค่างวดรถอยู่ 3 งวด ส่วนรถเบนซ์ ค้างค่างวดรถอยู่ 4 งวด ให้ตนรีบนำเงินมาชำระหรือไม่ก็ส่งรถคืนให้กับทางไฟแนนท์ จึงได้โทรศัพท์สอบถามไปที่นายชวนนท์ถึงเรื่องดังกล่าว แต่กลับถูกปฏิเสธความรับผิดชอบ กระทั่งตนได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนหนึ่งอ้างว่า ได้รับจำนำรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู ซึ่งเป็นชื่อของตนไว้ในราคา 380,000 บาท ให้ตนนำเงินมาไถ่ถอนรถออกไปพร้อมดอกเบี้ย 13,000 บาท จึงโทรศัพท์ไปหานายชวนนท์อีกแต่ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงรู้สึกเครียดมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงตัดสินใจนำเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมเอกสารหลักฐานต่างเข้ามาปรึกษากับทางทนายรัชพลให้ช่วยเหลือ