สั่งจำคุก 24 ปี “ประยุทธ มหากิจศิริ” โดนป.ป.ช.ฟ้องผิด ร่วมทุจริตแปลงป่าสงวนฯ ทำโฉนดที่ดินสร้างสนามกอล์ฟ

สั่งจำคุก 24 ปี "ประยุทธ มหากิจศิริ" โดนป.ป.ช.ฟ้องผิด ร่วมทุจริตแปลงป่าสงวนฯ ทำโฉนดที่ดินสร้างสนามกอล์ฟ

สั่งจำคุก 24 ปี “ประยุทธ มหากิจศิริ” โดนป.ป.ช.ฟ้องผิด ร่วมทุจริตแปลงป่าสงวนฯ ทำโฉนดที่ดินสร้างสนามกอล์ฟ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

1 พฤษภาคม 2568 ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 พิพากษาคดีที่ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกลุ่มบริษัทเอกชน โดยมีชื่อของนายประยุทธ มหากิจศิริ เป็นจำเลย หลังพบพฤติกรรมว่ากลุ่มเอกชนให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐสอบเขตขยายเนื้อที่ของโฉนดที่ดิน เพื่อนำมาสร้างสนามกอล์ฟ เมาน์เทน ครีก กอล์ฟ แอนด์รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนซ์ นครราชสีมา ถือเป็นการร่วมกันกระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน

 

โดยศาลมีคำพิพากษาลงโทษนายประยุทธ มหากิจศิริ มีความผิดตาม ป.อาญา ม.149 ประกอบ ม.86 กระทงละ 4 ปี 6 กระทง รวม 24 ปี ส่วน น.ส.อุษณา มหากิจศิริ (ลูกสาวนายประยุทธ) มีความผิดตาม ป.อาญา ม.149 ประกอบ ม.86 กระทงละ 4 ปี 4 กระทง รวม 12 ปี

ทั้งนี้ ถือเป็นคดีที่ 2 โดยก่อนหน้านี้นายประยุทธ์ โดนโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน คดีเอกสารสิทธิกระบี่ไปแล้ว

สำหรับคดีดังกล่าว ป.ป.ช.ได้ชี้มูลตั้งแต่ปี 2564 ชี้มูลความผิดเจ้าพนักงานที่ดินนครราชสีมา สาขาสีคิ้ว กับพวก ประมาณ 5-6 ราย อาทิ หัวหน้าฝ่ายรังวัด ช่างรังวัด เจ้าหน้าที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และกลุ่มบริษัทเอกชน โดยมีชื่อของนายประยุทธ มหากิจศิริ ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาถูกชี้มูลด้วย

โดยพบพฤติการณ์ว่า กลุ่มเอกชนได้ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐสอบเขตขยายเนื้อที่ของโฉนดที่ดิน เพื่อนำมาสร้างสนามกอล์ฟ เมาน์เทน ครีก กอล์ฟ แอนด์รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนซ์ นครราชสีมา ถือเป็นการร่วมกันกระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบว่ากลุ่มเอกชนได้ไปซื้อที่ดินที่มีโฉนด และซื้อที่ดินที่ไม่มีหลักฐานก่อนจะนำมาสอบเขต เพื่อนำที่ดินที่ไม่มีหลักฐานนั้นเข้าไปรวมด้วย ซึ่งที่ดินที่ไม่มีหลักฐานมีทั้งอยู่ในเขต ส.ป.ก.และเขตป่าสงวน เพื่อนำไปจัดทำสนามกอล์ฟดังกล่าว ถือว่าร่วมกันการกระทำความผิด

แต่เนื่องจากเอกชนไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ จึงถูกชี้มูลความผิดตามมาตรา 151 มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และมีบางรายโดนมาตรา 149 ด้วย รวมถึงความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าไม้ ในส่วนเจ้าหน้าที่รัฐถูกชี้มูลความผิดตามมาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 149 และมีความผิดวินัยร้ายแรง

สำหรับอัตราโทษในมาตรา 149 นั้น ระบุให้จำคุก 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และระวางโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต ส่วนอัตราโทษตามมาตรา 151 จำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนอัตราโทษตามมาตรา 157 จำคุก 1-10 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชุดปกครองอำเภอวังวันทร์ จ.ระยอง ล่อซื้อยาไอซ์ “ไอ้ตี๋” ขายแต่ไอซ์ ประวัติจำคุกยาบ้า 2 ครั้ง
"เกรียงยศ" โพสต์เดือด "พีระพันธุ์" โผล่ร่วมเฟรมนายกฯ หนุนเดินหน้าบริหารประเทศ ลั่นเป็นตัวแทนสส.แค่ 18 คน
"อิหร่าน" ฟาด "สหรัฐฯ" ทรยศการทูต-หักหลังชาวอเมริกัน ปมโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน
"ฮุน มาเนต" ยกระดับโต้ สั่งระงับนําเข้า "น้ำมัน - ก๊าซ" จากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้
"สื่อกัมพูชา" รีบโต้วุ่น ยัน "ปอยเปต" มีไฟฟ้าใช้ ไม่ขาดแคลนน้ำมัน หลังยกเลิกนำเข้าจากไทย
"โฆษกทบ." สวน "กัมพูชา" กิจกรรมปั่นจักรยาน เยี่ยมชมตาเมือนธม ไม่ได้ละเมิดข้อตกลง ตั้งในพื้นที่เขตไทย ย้ำปมปิดช่องสายตะกู ปรับให้สอดคล้องแนวทางศบ.ทก.
"แม่ทัพภาคที่ 2 " แจงย้ำ เหตุจำเป็นปิดด่าน ไทย-กัมพูชา ยันยึดหลักมนุษยธรรม ดูแลผู้เจ็บป่วยรักษาฝั่งไทย กำชับชาวเขมรห้ามแสดงสัญลักษณ์
"ก่อแก้ว" โพสต์ภาพ "นายกฯ" ร่วมหน.พรรค พร้อมหยันเสียใจด้วย คนอยากให้รัฐบาลล้ม "ไผ่ ลิกค์" ลั่นอบอุ่นกว่าเดิม
ระยอง จับกุมขบวนการขนยาข้ามชาติ เตรียมส่งออกนอกราชอาณาจักรไทย มูลค่ามูลค่ากว่า 400 ล้าน
"กรมการค้าต่างประเทศ" เปิด 10 รายชื่อสินค้ายอดนิยม "กัมพูชา" สั่งนำเข้าจาก "ไทย"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น