น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า จากการหารือทั้งสองฝ่ายได้กำหนดแนวทางวางมาตรการร่วมกันว่า ในส่วนของกระทรวง อว. จะออกประกาศให้มหาวิทยาลัยส่งหลักสูตร Non Degree ที่จะเปิดรับนักศึกษาต่างมาชาติมาให้กระทรวง อว. รับทราบและพิจารณาถึงความเหมาะสมก่อน ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำคัญก่อนเปิดรับนักศึกษาต่างชาติ และเมื่อกระทรวง อว. พิจารณาว่าหลักสูตรมีความถูกต้องเหมาะสม กระทรวง อว. จะเป็นผู้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่ออนุมัติวีซ่าให้นักศึกษา โดยจะกำหนดให้ออกวีซ่าตามระยะเวลาของหลักสูตรเท่านั้น หากไม่ดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว จะไม่สามารถเสนอชื่อเพื่อขอวีซ่าให้นักศึกษาได้

“กระทรวง อว. จะทำการตรวจสอบหรือให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับความเหมาะสมของหลักสูตร Non Degree ใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.เนื้อหาหลักสูตร ว่ามีความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์และระดับของหลักสูตรหรือไม่ 2.รูปแบบการเรียนการสอน ต้องระบุให้ชัดเจนว่าเป็นการเรียนแบบออนไซต์ (Onsite) ออนไลน์ (Online) หรือแบบผสมผสาน พร้อมกำหนดสัดส่วนอย่างเป็นระบบ และ 3.ระยะเวลาในการเรียน ต้องมีระยะเวลาที่เหมาะสมกับเนื้อหาและระดับของหลักสูตร ซึ่งต้องกำหนดไว้อย่างชัดเจน และไม่ควรเกินระยะเวลา 6 เดือน” น.ส.ศุภมาส กล่าว

ศ.ดร.ศุภชัย กล่าวว่า กระทรวง อว. จะมีการสุ่มตรวจและติดตามมหาวิทยาลัยเป็นระยะๆ เพื่อประเมินว่านักศึกษาเข้าเรียนจริงหรือไม่ เรียนจบตรงตามแผนหรือไม่ และมหาวิทยาลัยจะต้องรายงานจำนวนนักศึกษาต่างชาติที่เรียนจบในแต่ละปีมายังกระทรวง อว. ขอย้ำว่า หลักสูตร Non-Degree ที่เรียนแบบออนไลน์ต้องระบุสัดส่วนการเรียนการสอนอย่างชัดเจน เพื่อให้การเปิดหลักสูตร Non-Degree สำหรับนักศึกษาต่างชาติเป็นไปอย่างมีมาตรฐาน โปร่งใส และตรวจสอบได้ เช่นเดียวกับหลักสูตรปริญญาที่ปัจจุบันกำหนดไว้ว่าหากมีการเรียนแบบออนไลน์เกิน 60% ต้องรายงานมาที่กระทรวง อว. ตามระบบ โดยขณะนี้กระทรวง อว. และ สตม. กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อวางระบบการประสานงานระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม

พล.ต.ท.ภานุมาศ กล่าวว่า ในส่วนของ สตม.ได้มีมาตรการเชิงรุก โดยมหาวิทยาลัยต้องให้ความร่วมมือตรวจสอบเพิ่มเติมในประเด็นต่อไปนี้ คือ 1.การเข้าเรียนของนักศึกษา ต้องมีการตรวจสอบว่านักศึกษาที่ลงทะเบียนในหลักสูตรนี้มีการเข้าเรียนจริงหรือไม่ เรียนครบตามชั่วโมงหรือหน่วยกิตที่กำหนดหรือไม่ 2.จำนวนการรับนักศึกษาต่างชาติ ต้องประเมินความเหมาะสมว่ามหาวิทยาลัยสามารถรับนักศึกษาต่างชาติได้ในสัดส่วนเท่าใด และมีการควบคุมดูแลตามศักยภาพของมหาวิทยาลัยหรือไม่ 3.ความเหมาะสมของหลักสูตร ซึ่งในส่วนนี้ต้องขอให้กระทรวง อว. ช่วยพิจารณาว่าหลักสูตรที่เปิดสอนมีความสอดคล้องกับความเชี่ยวชาญและเป้าหมายของมหาวิทยาลัยหรือไม่ และเป็นหลักสูตรที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานหรือไม่ โดยหากมหาวิทยาลัยไม่ปฏิบัติตามมาตรการ เช่น ไม่รายงานข้อมูลตามกำหนดเวลา หรือมีการละเลยในการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด สตม.จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อจัดการปัญหาต่อไป