กฟน.มอบเงินช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยเพลิงไหม้สำเพ็ง

กฟน. ขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรีช่วยเหลือเยียวยา มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพลิงไหม้ พร้อมร่วมประชุมแก้ปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จากเหตุเพลิงไหม้บริเวณสำเพ็ง เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยผู้ที่ได้รับผลกระทบ และได้นำข้อสั่งการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเยียวยา ดูแลผู้ประสบภัยและแก้ปัญหาระยะยาว โดยสั่งให้การไฟฟ้านครหลวงลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมจ่ายเงินเยียวยาประชาชนเป็นการด่วน พร้อมทั้ง นัดประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กฟน กสทช ผู้ประกอบการสื่อสาร เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน และแก้ปัญหาในวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม 2565 ทั้งเรื่องการช่วยเหลือ รับฟังสถานการณ์ แผนงาน และมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีกในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ความคืบหน้าล่าสุด (28 มิถุนายน 2565) นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการธุรกิจ การไฟฟ้านครหลวงและโฆษก MEA ได้ลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับกลุ่มร้านค้ารถเข็นซึ่งได้แจ้งความและประเมินค่าเสียหายในขณะเกิดเหตุไว้ ณ สถานีตำรวจนครบาลจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ จำนวน 3 ราย ได้แก่ นาย ลำไพร ขาววงศ์ จำนวน 17,000 บาท นางสาวสมใจ โสพิษ จำนวน 6,000 บาท และนางแพง อรสาม จำนวน 13,000 บาท โดยมี พลตำรวจตรีสรเสริญ ใช้สถิตย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 และพันตำรวจเอก นนท์ นุ่มบุญนำ รักษาการผู้กำกับการ สน.จักรวรรดิ ช่วยประสานงานและอำนวยความสะดวกให้กลุ่มร้านค้า ณ สถานีตำรวจนครบาลจักรวรรดิ

โฆษก MEA กล่าวเพิ่มเติมว่า การไฟฟ้านครหลวงขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ และได้ดำเนินมาตรการเยียวยาเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ประสบเหตุได้รับความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยไม่รอกระบวนการพิสูจน์หลักฐาน ล่าสุด นอกจากผู้เสียหายในกลุ่มร้านค้ารถเข็นแล้ว ได้ติดต่อให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ระหว่างการติดต่อให้ความช่วยเหลือกับผู้ได้รับผลกระทบในกลุ่มอื่น ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ สามารถดำเนินการได้และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ ขณะที่ด้านกระบวนการทางกฎหมาย ยังต้องรอผลการตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ และมูลค่าความเสียหาย เพื่อให้ความเป็นธรรมสูงสุดต่อผู้ได้รับผลกระทบ

โฆษก MEA ยืนยันการไฟฟ้านครหลวงจะปรับปรุงแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์สูญเสียเกิดขึ้นอีก โดยมีมาตรการทบทวนแผนการบำรุงดูแลรักษาอุปกรณ์ เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ นำนวัตกรรมการแจ้งเตือนเหตุสำหรับหม้อแปลงไฟฟ้ามาใช้เพิ่มเติมจากระบบเดิมที่มีอยู่ พร้อมเร่งตรวจสอบดูแลระบบไฟฟ้ารวมถึงจุดเสี่ยงต่าง ๆ และจัดระเบียบสายสื่อสารร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.นครสวรรค์ เร่งคลายปมชายถูกฆาตกรรม หัวขาด กลางไร่อ้อย ตำรวจชี้อาจป่วยตาย แต่ญาติยังติดใจเรื่องการตาย
แม่ใจสลาย! กลับจากทำบุญ พบ ลูกชายป่วยซึมเศร้า กรีดแขนลาโลกคาเตียง!
"นายกฯอนุทิน" ลงพื้นที่ให้กำลังใจชาวบ้านศูนย์พักพิง "บุรีรัมย์-สุรินทร์" ลั่น "ทนได้ก็ทนไป" กัมพูชาไม่เจรจา ไม่รับผิดชอบผิดละเมิด
ปู่ฤาษีพรหมเมศศักดิ์สิทธิ์ลูกศิษย์นำฟักทอง 999 ลูกแก้บนไม่พลาดส่องเลขเทวะบันดาลอ่างน้ำมนต์
อุตรดิตถ์ ทำพิธีกรรมทำขวัญข้าว สายมูส่องเลขเด็ด
เปิด “ราไวย์ คลินิกเวชกรรม” รองรับนักท่องเที่ยวช่วง High Season

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​