No data was found

ไม่รอรัฐบาลแล้ว ยะลาผนึกกำลัง “ตั้งกองทุนซื้อวัคซีนโควิด”

กดติดตาม TOP NEWS

"พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา" นำทัพ ระดมทุนและความร่วมมือทุกภาคส่วนตั้ง “กองทุนซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อชาวยะลา”

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2564 ที่ห้องประชุมเทศบาลนครยะลา นายพงษ์ศักดิ์   ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ร่วมแถลงข่าว กรณีที่เทศบาลนครยะลา ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดยะลา หอการค้าจังหวัดยะลา มูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา มูลนิธิแม่ทับทิมยะลา ชมรมชาวไทยเชื้อสายจีนจังหวัดยะลา ชมรมนักธุรกิจมุสลิมจังหวัดยะลา ชมรมธนาคารจังหวัดยะลา ผู้มีจิตศรัทธา และมีความสมัครใจ ร่วมกันระดมทุนและความร่วมมือเพื่อจัดตั้ง “กองทุนซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อชาวยะลา”

สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid 19) ในจังหวัดยะลา ระลอกที่ 3 ซึ่งกำลังระบาดหนักและพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เทศบาลนครยะลา พร้อมด้วย ภาคีเครือข่าย ภาคประชาชน จึง ร่วมกันจัดตั้ง กองทุน”วัคซีน โควิด 19 เพื่อชาวยะลา “ เพื่อเป็นการต่อยอด วัคซีนจากทางรัฐบาล วัคซีนของทางเทศบาลทีจัดซื้อเอง เพื่อให้ครอบคลุมการฉีดให้ประชาชนชาวยะลา ให้มากที่สุดและเร็วที่สุด

 

นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา  ได้กล่าวว่า  วันนี้เป็นวันดีที่องค์กรหลักของชาวยะลาได้มารวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับวิกฤตการณ์ของโคโรนา 2019 ที่เกิดขึ้น ซึ่งการระบาดดังกล่าว เมื่อดูจากภาพใหญ่ของประเทศจะเห็นว่ายังไม่มีท่าทีจะยุติลง โดย 2-3 ที่ผ่านมา ในจังหวัดยะลาก็มีตัวเลขการติดเชื้อที่ค่อนข้างสูงขึ้นเกือบทุกวัน

สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นหน้าที่ของฝ่ายรัฐเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นหน้าที่ของภาคประชาชนทุกคนที่ต้องร่วมมือช่วยเหลือกัน ในขณะเดียวกันฝ่ายของรัฐเอง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ หรือพยาบาลเองก็เป็นที่น่าเห็นใจอย่างมาก เพราะเตียงของโรงพยาบาล สนามก็เต็มเกือบทั้งหมด จำเป็นต้องก่อสร้างอาคารอย่างฉุกเฉินเพิ่มอีก 2 อาคาร ซึ่งต้องใช้เตียงราว 300-400 เตียง ในส่วนของโรงพยาบาล (รพ.) นั้น การผ่าตัดก็ต้องลดลงครึ่งหนึ่ง ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยธรรมดาได้ ต้องลด Case ลง เพื่อเพิ่มจำนวนเตียงให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นผลกระทบที่เกิดมาจากการระบาดของโควิ-19 ทั้งสิ้น

สำหรับภาคธุรกิจเมื่อมีการระบาดเกิดขึ้น ทุกคนก็อยู่กับบ้าน หรือมีการ Lock Down เกิดขึ้น ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีความลำบากอยู่แล้ว กอรปกับเกิดการระบาดของโคโรนา 2019 จึงส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจซบเซาอย่างหนัก ในขณะเดียวกันเราเองก็ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก

 

1. การมีวินัยดูแลตนเองและมีสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมนั้นจะทำให้เกิด 100% เป็นเรื่องยาก เราต้องยอมรับว่าหลายคนที่มีความตระหนัก ก็ดูแลป้องกันตัวเองเป็นอย่างดี แต่สำหรับคนบางคนบางกลุ่มก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ แต่สุดท้ายด้วยความประมาทหรือความไม่รู้ก็นำเชื้อเหล่านี้ไปติดผู้อื่น จนกระทั่งระบาดไปในหลาย ๆ จุด ทั้งในเขตเทศบาลฯ หรือพื้นที่ใกล้เคียง เพราะฉะนั้นสำหรับเรื่องนี้คงยากมาก แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ปฏิบัติกัน คงต้องขอความร่วมมือและความเห็นใจจากทุกคน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่เราทุกคนสามารถทำได้ แม้บางครั้งการติดเชื้อนี้อาจไม่แสดงอาการสำหรับคนอายุน้อย แต่ถ้าเชื้อนี้ไปสู่คนที่มีอายุมากขึ้น ก็อาจจะลงปอด และนำไปสู่การเสียชีวิตได้

2. การบริการสาธารณสุข ทาง รพ. ได้ปิดอาคารรักษาผู้ป่วยไปเรื่อย ๆ เพื่อนำอาคารเหล่านั้นไปใช้กับผู้ป่วยโควิด ส่วน รพ.สนามก็ไม่เพียงพอ ต้องมีการสร้างขยายเพิ่ม ด้วยเหตุนี้ทางเทศบาลฯ จึงได้ใช้อาคารส่วนหนึ่งให้เป็นที่พักสำหรับผู้ที่มารับการตรวจโควิด และติดเชื้อ เนื่องจากทาง รพ. มีที่พักไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องให้มาพักกับทางเทศบาล 24 ชั่วโมง ก่อนส่งต่อให้กับทาง รพ. ซึ่งปรากฏการนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น หากพวกเราดูแลตนเองตามข้อ 1 ได้ดี สภาวะการขาดแคลนเตียงในข้อ 2 ก็คงไม่จะไม่เกิดขึ้น

3. การค้นหาผู้ป่วย คนติดเชื้อ หลังจากหลาย ๆ หน่วยงานได้ทราบว่าบุคลากรในสำนักงานตนเองมีการติดเชื้อ ก็ได้ทยอยกันมาเพื่อตรวจหาเชื้อในจุดที่เทศบาลจัดบริการให้มีการตรวจฟรี ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เทศบาลเองก็ใช้งบประมาณพอสมควร

4. วัคซีน ปัจจุบันวัคซีนก็มีหลายแบรนด์หลายยี่ห้อ อาทิ ซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ โมเดอร์นา และซิโนฟาร์ม แต่ในประเทศไทยได้นำเข้ามาเพียง 2 ยี่ห้อ คือ ซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า แม้ว่าจะฉีดวัคซีนแต่ก็ยังมีการติดเชื้อ ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เป็นความผิดมาจากวัคซีน สิ่งที่ต้องพึงตระหนัก คือ เชื้อก็มีการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เช่น สายพันธุ์แอลฟ่าของอังกฤษ เบต้าของแอฟริกาใต้ ทำให้วัคซีนที่เรามีบางอย่างไม่สามารถตอบสนองต่อตัวเชื้อที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ กล่าวคือ ตัวเชื้อก็ทำงานแข่งกับวัคซีน วัคซีนเองก็ต้องพัฒนาแข่งกับตัวเชื้อ เมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวเชื้อพัฒนาได้เร็วกว่า วัคซีนก็จะไม่ตอบสนอง

ในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา เทศบาลเองก็รับภาระจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ขณะเดียวกันก็มีงบประมาณจำกัด เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการให้ลดภาษี 90% จากการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งทำให้เทศบาลมีรายได้เพียง 10% เท่านั้น และปัจจุบันเทศบาลก็ยังไม่ได้รับการชดเชยส่วนที่ขาดจากรัฐบาลเลย ซึ่งถือว่ารายได้ส่วนนี้มีจำนวนมาก ภาษีที่เป็นรายได้หลักอีกตัว คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นภาษีที่ขึ้นอยู่กับการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ เมื่อมีการบริโภคมาก ก็สามารถเก็บภาษีได้มาก เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการบริโภคน้อย ก็จะเก็บภาษีได้น้อย จึงส่งผลกระทบต่อการเก็บรายได้ของเทศบาลทีเดียว

ด้วยความตระหนัก ด้วยความสำนึกการเป็นเทศบาล เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนและทำงานร่วมกันมากที่สุด เทศบาลจึงตัดสินใจนำเงินสะสมออกมา เพื่อจัดซื้อวัคซีน แต่ถ้ามีการระบาดหรือการพัฒนาของเชื้อต่อไป เม็ดเงินที่มีก็คงไม่เพียงพอ เราจะทำอย่างไรให้การฉีดวัคซีนครอบคลุมและรวดเร็ว ซึ่งการฉีดวัคซีนให้ได้ 70% ของประชากร ตามหลักวิชาการเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ที่เรียกว่า “Herd Immunity” โดยเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนพร้อม ๆ กัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการเร่งฉีดวัคซีนในระยะเวลาที่สั้นที่สุด เพื่อให้ประชาชนในเทศบาลได้วัคซีนมากที่สุด

แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และสายพันธุ์มีการพัฒนาเกิดขึ้น ด้วยข้อจำกัดที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น การต่อสู้ครั้งนี้คงต้องใช้เวลา เพราะตอนนี้เริ่มมีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์แล้วว่าอาจจะมีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ในอีก 6 เดือนข้างหน้า เทศบาลจึงได้กันเงินเอาไว้อีกส่วน เพื่อซื้อวัคซีนเข็มที่ 3 ฉีดให้แก่ประชาชน สำหรับในส่วนที่ยังขาด หรือจำเป็นต้องเพิ่มให้ได้ 70% ให้เร็วที่สุด

อีกทั้งเพื่อช่วยเสริมการทำงานให้กับภาครัฐ โดยได้มีการรวมตัวกันของเครือข่ายพลเมืองยะลา เพื่อปรึกษาหาแนวทางในการแก้ปัญหาเหล่านี้ ซึ่งทุกท่านได้เห็นพ้องต้องกันว่า ควรให้มีการดำเนินการจัดตั้งกองทุน และในวันนี้จึงได้เชิญ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดยะลา หอการค้าจังหวัดยะลา มูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา มูลนิธิแม่ทับทิมยะลา ชมรมชาวไทยเชื้อสายจีนจังหวัดยะลา ชมรมนักธุรกิจมุสลิมจังหวัดยะลา และชมรมธนาคารจังหวัดยะลา เพื่อประกาศอย่างเป็นทางการในการจัดตั้งกองทุนในลักษณะของการบริจาค แต่จะไม่เกี่ยวกับสิทธิในการฉีดวัคซีน เพื่อใช้ต่อสู้กับโควิดต่อไป

เทศบาลได้ตระหนักดีว่า การฉีดวัคซีนเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการลดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19ดังนั้น คนที่ไม่ได้อยู่ในเขตเทศบาล แต่ประกอบกิจการในเขตเทศบาลนั้น ก็มีสิทธิที่จะได้รับวัคซีนเช่นเดียวกับคนที่มีสำเนาทะเบียนอยู่ในเขตเทศบาล ซึ่งการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวเป็นการให้สิทธิทุกคนเพื่อให้ทุกคนมีสิทธิในการฉีดวัคซีนแม้จะไม่ได้มีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตเทศบาลก็ตาม พร้อมทั้งเพื่อลดเวลาการนอนในโรงพยาบาลให้สั้นที่สุด ลดภาระงานของบุคลากรทางทางการแพทย์ให้น้อยที่สุด เพราะเราคงไม่ได้ต่อสู้กับโรคนี้ในระยะเวลาสั้น ๆ แน่นอน เมื่อไหร่ที่โรคนี้กลายโรคประจำถิ่น เหมือนกับโรคหวัด เวลานั้นทุกอย่างคงกลับมาเป็นปกติ แต่อย่างไรก็ตามเราคงต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น อันส่งผลให้เมืองของเรากลับไปใช้ชีวิตปกติได้

นายกเทศมนตรีนครยะลา ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เงินกองทุนตัวนี้ เทศบาลจะตั้งคณะกรรมการจากเครือข่ายทั้งหมดมาเป็นผู้ดูแลและบริหาร โดยการบริจาคทุกอย่าง เทศบาลจะออกใบเสร็จให้ โดยเงินกองทุนนี้ 1) เป็นการบริจาคตามความสมัครใจ 2) ไม่จำกัดสิทธิในการเข้าถึง 3) ไม่จำกัดจำนวนเงินในการบริจาค 4) ไม่เกี่ยวข้องกับการแลกสิทธิ์ ในการฉีดวัคซีนของเทศบาล

เนื่องจากเทศบาลได้ตระหนักถึงปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซาในปัจจุบัน และสำหรับการจับจ่ายใช้สอยก็จะเชิญเครือข่ายทั้งหมดมาร่วมหารือ หากมีเงินเหลือจากการซื้อวัคซีน อาจจะนำเงินส่วนนั้นไปซื้อวัสดุทางการแพทย์เพิ่มขึ้น ซึ่งทุกอย่างนี้เทศบาลได้เตรียมไว้พร้อมแล้ว เราสามารถเดินหน้าทำงานได้ทันที โดยเป้าหมายที่สำคัญ คือ ถ้ามีวัคซีนเข็ม 3 ทำอย่างไรให้ได้ฉีดวัคซีนที่ดีที่สุด เร็วที่สุด เพื่อทำให้บ้านเมืองเรากลับไปสู่ภาวะปกติ

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วธ.เปิดชุมชนคุณธรรมฯ วัดท่าขนุน กาญจนบุรี 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ปี 66 ดินแดนประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 หลากหลายชาติพันธุ์ ชมเส้นทางรถไฟสายมรณะ บ้านหลบภัยเชลยศึก ไหว้พระยอดเขารอยพระพุทธบาท-พระพุทธเจติยคีรี ช้อปชิมสินค้า-อาหารตลาดริมแคว
TPIPL จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567
"พิพัฒน์" ห่วงใย เยียวยาแรงงานเทศบาลเมืองชัยภูมิ พลัดตกหลังคาเสียชีวิต มอบประกันสังคมช่วยทายาท กว่า 1.3 ล้านบาท
ม.เกษตรศาสตร์ และ อัลเตอร์วิม ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อความร่วมมือในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจ ด้านพลังงานหมุนเวียน และระบบกักเก็บพลังงาน
"นายกฯ" พบชาวหนองพอก จ.ร้อยเอ็ด โชว์ผลงาน 10 เดือน ดึงราคาพืชผลเกษตรได้ดี ย้ำดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่
ระทึก เพลิงเผาวอดเก๋งทั้งคัน กลางเมืองพิษณุโลก จนท.คาดอากาศร้อนทำไฟฟ้าลัดวงจร
"อัษฎางค์" สะท้อน 2 มุมมอง จาก "ดร.วิทย์" ถึง "โน้ส อุดม" ต่างสุดขั้ววิธีคิด คนหนึ่งตอแxล ทำตัวรู้รอบด้าน
นายกฯกราบ “พระอาจารย์ต้อม” วัดท่าสะแบง ร้อยเอ็ด รับปากชาวบ้าน รัฐบาลเร่งแก้ยาเสพติด-ดูแลน้ำท่วม
ไม่ดูอีกต่อไป “ครูแหม่ม” ซัดแรง “โน้ส อุดม” หากินแขวะ ศก.พอเพียง ไร้สำนึก คนเห็นตัวตนแท้จริงหมดแล้ว
เพจดังโพสต์คลิปชายทุบขวดริมทะเลบางแสน เตือนภัย สุดอันตรายหากนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมได้รับบาดเจ็บ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น