No data was found

ตัวแทน “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” แจ้งความเอาผิด บุคคลแอบอ้างวัคซีน

กดติดตาม TOP NEWS

ตัวแทน "ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์" แจ้งความ สน.ทุ่งสองห้อง เอาผิด 2 คดี ฐาน แอบอ้าง รับจองฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ทำองค์กรเสื่อมเสีย

นายวัลลภ ยุติธรรมดำรง รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ด้านบริหาร ตัวแทน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นำเอกสารหลักฐาน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้แอบอ้างเป็น เจ้าหน้าที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้ที่นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ เรื่องการฉีดวัคซีนชิโนฟาร์ม  ที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง

 

โดย นายวัลลภ เปิดเผยว่า กระแสวัคซีนทางเลือก มีความต้องการสูง แต่ก็มีบุคคลละเมิด แอบอ้าง และนำเข้าข้อมูลที่เป็นเท็จ เป็นเรื่องที่ทำให้ทางราชวิทยาลัยเสื่อมเสียชื่อเสียง และ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุ

 

ด้าน พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ระบุว่า คดีแรกทางฝ่ายกฎหมายของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้รับทราบข้อมูลเมื่อวันที่ 28 ต่อเนื่อง 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่า มีเพจเฟซบุ๊ก 1 เพจ (ขอไม่เปิดเผยข้อมูลชื่อของเพจดังกล่าวเนื่องจากอยู่ในสำนวน)  ซึ่งเพจดังกล่าวนี้เป็นเพจของศูนย์ที่ให้บริการทางการแพทย์ และทำการโพสต์ข้อความระบุ รับจองวัคซีนทางเลือก วัคซีนชิโนฟาร์ม  พร้อมระบุราคา และ สถานที่ฉีด รวมถึง นัดหมายการฉีด โดยย้ำว่า องค์กรที่โพสต์นั้นมีตัวตนจริง แต่ไม่ใช่คู่สัญญาที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน เบื้องต้นพบว่ามีประชาชนหลงเชื่อ โอนเงินให้กับองค์กรดังกล่าวแล้ว  ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผล และจะดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด

 

ซึ่งกรณีนี้จะมีการเชิญเจ้าของเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวมาสอบปากคำ และขยายผลเส้นทางการเงินว่า มีการรับโอนเงินมากน้อยเพียงใด ซึ่งขณะนี้ เพจดังกล่าวก็ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ และมีการกระทำการลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 4 ครั้ง

 

ส่วนกรณีที่ 2 มีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีของราชวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า ไม่ใช่บุคคลขององค์กรตามที่มีการกล่าวอ้าง  เบื้องต้นทราบว่า ผู้กระทำการเป็นหญิงและไม่ใช่ข้าราชการ หรือ เจ้าหน้าที่ของจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย อีกทั้งยังพบว่า มีรายชื่อที่จะนำไปสวมสิทธิ์อีก 18 รายชื่อ ขณะนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน นำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี  ซึ่งเจ้าหน้าที่รู้ตัวผู้กระทำผิดชัดเจน

 

โดยทั้ง 2 คดี จะเข้าข่ายความผิด การแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน โทษจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท  / ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท และอาจเข้าข่ายความผิดฉ้อโกง  ซึ่งจะขึ้นอยู่ตามพยานหลักฐาน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พายุฝน" ทำอ่วม บ้านเรือนปชช.พังเสียหายเพียบ ต้นไม้-เสาไฟฟ้าหักโค่น หลังคาตลาดสดถล่ม
ฟังคำเตือน "นักวิชาการ มช."ออกโรงเตือนระวัง บริโภคข้าวเก่าค้าง 10 ปี มีโอกาสสูงได้รับสารพิษ
ฟังอีกมุม ปมแม่ชีกระโดดออกกุฎิเจ้าอาวาส "อดีตผู้ใหญ่บ้าน-ชาวบ้าน" เปิดใจเชื่ออาจจะถูกกลั่นแกล้ง
สลด "รอง สวป.เขาพนม" ชักปืนปลิดชีพตัวเอง ดับคารถ ลูกสาวมาเจอแทบช็อก คาดปัญหารุมเร้า
"ปารีณา" ลั่นทนไม่ไหว ขึ้นโรงพักแจ้งเอาผิด "โน้ส อุดม"
คนร้ายสุดอุกอาจ บุกยิง "ปลัด อบต.-ผู้ใหญ่บ้านคอลอตันหยง" เสียชีวิตคาสนามบอล พบโดนลูกหลงเจ็บ 2 ราย
"ดร.อานนท์" จวกแรง "โน้ส อุดม" ตีความ "พอเพียง" แบบโง่ๆ ไม่พอ เอามาเสี้ยมทำยาก
ปู่-ย่าน้ำตาไหลพราก หลังตร.ตามรวบทันควัน กะเทยแสบลักตัวหลานวัย 9 เดือนไปต่อหน้า อ้างอยากได้เป็นลูก
"อ.ไชยันต์" ขยายความสำคัญปรัชญา "ศก.พอเพียง" นานาชาติยกย่องนำใช้เกิดประโยชน์
ครอบครัวชาวอังกฤษสุดห่วง วอนช่วยตามหา ชายวัย 65 หลังมาเที่ยวไทยแล้วขาดการติดต่อ ไม่รู้ชะตากรรม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น