วันที่ 1 ก.ค. – พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดโครงการ “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” (HUG THAIS HUG PHUKET) ภายใต้โครงการ “ฮักไทย” โดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต และหอการค้าจังหวัดภูเก็ต โดยนายกฯ กล่าวระหว่างเปิดงาน ว่า ความหมายชื่อโครงการคือการส่งกำลังใจมอบโอบกอดให้คนไทยด้วยความรัก ยามที่คนไทยต้องการกำลังใจให้กันผ่านความท้าทายนี้ไปด้วยกัน ซึ่งการติดตามงานครั้งนี้ถือว่าได้เตรียมการมานาน ซึ่งถ้าสามารถทำงานได้สำเร็จตามที่ได้วางแผนไว้ ก็จะส่งผลให้เปิดการท่องเที่ยวในพื้นที่อื่นๆ ตามมา ถือมีความท้าทายและจำเป็นเร่งด่วนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งรัฐบาลมีการประเมินจนเห็นชอบให้จัดทำในรูปแบบแซนด์บ็อก และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป เพราะไทยมีศักยภาพเศรษฐกิจอยู่แล้ว
พร้อมชื่นชมถึงเมืองที่มีความสะอาด และอยากให้นักท่องเที่ยวมีความประทับใจเมื่อมาถึงเป็นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ และปลอดภัย รวมถึงกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ เมื่อมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศในจ.ภูเก็ต ก็จะเกิดการเชื่อมโยงให้กับประชาชนในห่วงโซ่ เช่นเกษตรกร ที่จะได้รับประโยชน์ในการขายสินค้า เป็นต้น ขอให้การเปิดเมืองภูเก็ต ดังสมญานามเมือง คือ ไข่มุกแห่งอันดามัน รวมถึงการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี ดังนั้นต้องทำให้ปราสาททรายแห่งนี้เป็นเมืองแห่งความแข็งแกร่งต่อไป ไม่ล่มสลายด้วยสถานการณ์โควิด หรือสถานการณ์อื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย ทุกอย่างจะต้องเดินหน้า แต่การแก้ปัญหาข้างหลังที่เกิดขึ้นด้วย
วันนี้รัฐบาลจึงมียุทธศาสตร์ชาติในระยะเวลา 1 ปี หรือ 5 ปี ที่วางแผนไว้ให้เดินหน้า เติบโตไปด้วยกัน เมื่อประเทศไทยมีเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวแล้วจะต้องขยายโอกาสในด้านอื่นๆ ด้วย เช่น การเกษตร ยืนยันว่ารัฐบาลมีแผนที่จะทำงานไว้แล้วโดยไม่หยุดยั้งที่จะคิด ซึ่งทุกคนจะต้องมาร่วมช่วยประวัติศาสตร์ให้กัน ด้วยความร่วมมือร่วมใจกับทุกคน เชื่อว่าทุกคนฝากความหวังไว้ที่รัฐบาล แต่ก็จะต้องทำไปด้วยกัน ส่วนตัวจะทำให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันขอเรียนรู้ที่จะสร้างความเข้าใจร่วมกัน เพราะทุกวันนี้ทั่วโลกเป็นโรคที่ไร้พรมแดน เชื่อมโยงด้วยดิจิทัล ภายในเวลารวดเร็วดังนั้นคนไทยก็ต้องมีความพร้อมในการรองรับ ดีกว่ามา สร้างความขัดแย้ง สร้างความไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทั้งนี้คนไทยจะต้องยึดถือในเรื่องของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
นายกฯยอมรับว่า ทั้งประเทศเดือดร้อน เนื่องจากจัดเก็บงบประมาณได้น้อย แต่ก็ไม่ท้อ จะพยายามใช้สติปัญญาบริหารงบประมาณที่มีอยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด แต่อาจจะตอบสนองไม่ได้ทุกคนทั้ง 77 จังหวัด หากยังอยู่ในความขัดแย้ง จะทำให้นายกฯเสียสมาธิการทำงาน และไม่ใช่เวลาเรื่องการเมืองใดๆทั้งสิ้น แต่เป็นเวลาที่ต้องช่วยกันแก้ปัญหาและอุปสรรคให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปด้วยกัน เช่นโครงการนี้ “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” เพราะอยู่บนผืนแผ่นดินเดียวกัน ทุกคนคือคนไทยต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ย้ำว่าวันนี้ให้ความสำคัญในการสร้างรายได้ ช่วยเหลือทุกกลุ่ม ยอมรับทุกคนเหนื่อยแสนเข็ญ แต่ก็ทำเพื่อคนไทย หากแตกแยกประเทศจะเดินหน้าไม่ได้ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นหน้าตาของประเทศ ส่วนตัวพร้อมยอมรับฟังข้อคิดเห็นทุกระดับ โดยทุกคนรู้ปัญหาอยู่ที่ว่าจะช่วยกันหรือไม่ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเชิงรุก
“วันนี้ยอมรับว่ามีความสุข แม้ว่าเหนื่อยตั้งแต่เช้า เมื่อวานเจ็บคอไม่พูดกับใคร แต่เก็บมาพูดที่ภูเก็ต เพราะไม่อยากพูดแล้วมีปัญหา และขอคนภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวคนไทยด้วยนอกจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยอย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา ขอให้ทุกคนคืนรอยยิ้มให้กับประชาชนทุกคน ยอมรับว่าตนเองเจ็บปวด เมื่อมีมาตรการออกไป สั่งปิดอะไรไป ผมเจ็บปวด เพราะกระทบกับทุกคน แต่มีความจำเป็นต้องทำ ถ้าไม่ทำก็จะแย่ไปหมด ดังนั้นทุกคนต้องร่วมมือกันควบคุมโรค แต่รัฐบาลก็มีแผนฉุกเฉิน แผนรองรับไว้หมดแล้ว โดยทั่วโลกจับตามองภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์อยู่ นี้คือประเทศของเรา ถ้าไม่ร่วมมือก็ไม่สำเร็จ ไม่มีชาติไหนอยู่ได้ถ้าไม่ร่วมมือกัน จำคำพูดผมไว้” พลเอกประยุทธ์กล่าว