“อนุทิน” มั่นใจร่วมงานผู้ว่าฯกทม.ได้ เตรียมความพร้อมก่อนปรับโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยแนวทางเตรียมความพร้อมการปรับโรคโควิดสู่โรคประจำถิ่น พร้อมร่วมงานกับผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ด้านสาธารณสุขอย่างเต็มที่ เพื่อการรวมพลังยับยั้งการระบาดของโรค

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 6 โดยนายอนุทิน กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ว่าดีขึ้นตามลำดับ ส่วนใครที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนก็ขอให้เข้ามารับ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมจะให้บริการกับประชาชนมารับเข็มบูสเตอร์ ยืนยันให้บริการวัคซีนอย่างเต็มที่ เพราะวัคซีนเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมโรค และป้องกันการเสียชีวิต

กระทรวงสาธารณสุขมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆของโควิดได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันลดลงต่ำกว่า 5,000 ราย พบผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 50 ราย มีความครอบคลุมการฉีดวัคซีนป้องกันเกือบ 140 ล้านโดส และยังมีการรณรงค์ให้ฉีดเข็มกระตุ้นอย่างต่อเนื่องจนกว่าประชาชนจะมีความปลอดภัย

ทั้งนี้ ได้เสนอมาตรการผ่อนคลายต่างๆเพื่อคืนความเป็นปกติให้กับประชาชนโดยในวันนี้ 1 มิถุนายน รัฐบาลโดย ศบค. ได้ปรับมาตรการในระดับพื้นที่ให้กับพื้นที่นำร่อง และพื้นที่เฝ้าระวังสามารถเปิดสถานประกอบการที่มีลักษณะเป็นสถานบันเทิงผับบาร์คาราโอเกะและสถานบริการอาบอบนวดหรือสถานบริการอื่นๆที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยขอให้ปฏิบัติตามมาตรการโควิด Free Setting ขอให้เปิดไม่เกินเที่ยงคืน หากเปิดเกินเข้าข่ายผิดกฎหมายทันที

ข่าวที่น่าสนใจ

ขอย้ำว่าหากเกิดการระบาดในโรคระบบทางเดินหายใจ กระทรวงสาธารณสุขพร้อมที่จะมีบุคลากรและยาไปส่งมอบให้กับประชาชน ได้อย่างเพียงพอ สำหรับนักเรียน ทางกรมอนามัยได้ปรับแนวทางการเรียนแบบ On Site โดยเปิดให้นักเรียนและครูประเมินความเสี่ยงอยู่เป็นประจำ และตรวจ ATK ทุกครั้งที่มีอาการ หรืออยู่ในความเสี่ยง และขอให้นักเรียนและครูได้รับการฉีดวัคซีนตามระยะเวลาที่กำหนด

ส่วนโควิด 19 จะเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบเสนอให้มีการปรับโควิด 19 จากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังและจะมีการกำหนดแนวทางควบคุมป้องกันให้คล้ายกับโรคติดต่อทั่วไป ก็ยังคงต้องทำการเสนอนโยบายแนวทางปฏิบัติต่างๆผ่านที่ประชุมสปกเพราะว่ายังอยู่ภายใต้พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ ส่วนนโยบายที่จะประกาศอย่างไร หรือประกาศเมื่อไหร่ให้เป็นโรคประจำถิ่นนั้นยังต้องคงมีอีกหลายขั้นตอน ต้องนำเสนอให้ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสปกเท่านั้นและขอความร่วมมือกับประชาชนถือเป็นสิ่งสำคัญคือช่วงการเตรียมเข้าสู่โรคประจำถิ่นขอให้พี่น้องประชาชนยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคในการใช้ชีวิตแบบใส่หน้ากากอนามัยล้างมือเว้นระยะห่างทางสังคมและประเมินความเสี่ยงอยู่บ่อยครั้ง

ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้ายถึงกรณีว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ที่จะเข้ามาทำงานนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขพร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการที่จะให้บริการด้านสาธารณสุขแก่พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ตามนโยบายผู้ว่าฯกทม. ให้เกิดการรวมพลังต่อไปไม่ต้องแบ่งแยกงานกันทำเหมือนที่ผ่านมาเพราะกระทรวงสาธารณสุขยังคงต้องรับผิดชอบภาพรวมแต่ก็ไม่สามารถที่จะสั่งการบริหารเฉพาะเจาะจงในพื้นที่ใดๆได้ควบคุมกทมได้เป็นอย่างดีก็สามารถควบคุมได้เกือบครึ่งประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญในการระบาดของโรคหากทุกคนให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายตั้ม" จับมือ "อี้ แทนคุณ" หอบหลักฐาน แจ้งเอาผิด บอสบริษัทดัง ผิดฐานฉ้อโกง ฟอกเงิน พรบ.คอมพ์
วันไข่โลก รักใครให้กินไข่
ฟิลิปปินส์ท้าทายจีนเรื่องทะเลจีนใต้ ในประชุมอาเซียน
"สุริยะ" ยัน "ทักษิณ" ไม่ก้าวก่ายเพื่อไทย ไม่จำเป็นต้องแจง 6 ข้อ หลัง "ธีรยุทธ" ยื่นศาลรธน.
แลร์รี แมวเซเลปเมินเซเลนสกี
ตร.ทลายเครือข่ายต่างด้าวร่วมกับคนไทย แอบขาย"เซ็กซ์ทอย" ออนไลน์ เงินหมุนเวียนหลายล้านบาท
ราชกิจจาฯ ประกาศกฎกระทรวง กำหนดประเภทการพนันต่อไปนี้ ให้เล่นได้ภายในเวลาที่กำหนด
MEA มอบเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงให้แก่กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม จ.เชียงราย
กูรูชี้ชัด “ธีรยุทธ” มีของดีในมือ 2 หมัดเด็ด สอยร่วง “นายใหญ่-พท.”
เปิดเหตุผล ศาลยกฟ้องคดี 112 “โตโต้ ปิยรัฐ” ปมวิจารณ์วัคซีนโควิด หมิ่นสถาบันฯ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น