“มะเร็งปอด” แพทย์ชี้ ยาภูมิคุ้มกันบำบัด เหนือกว่าเคมีบำบัด
- เผยแพร่ : 12/05/2022 10:25
Post Views: 0
กดติดตาม TOP NEWS
"มะเร็งปอด" ภัยร้ายใกล้ตัว รอบนี้มีข่าวดี แพทย์เผยเคสตัวอย่าง รักษาแบบภูมิคุ้มกันบำบัด พบผลข้างเคียงน้อยกว่าเคมีบำบัด ผลการรักษาดี แถมทรมานน้อยกว่า
ข่าวที่น่าสนใจ
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หรือหมอนูญ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เผยข้อมูลการรักษาเคสผู้ป่วยสูงอายุกับการรักษาโรค “มะเร็งปอด” ผ่าน Facebook เพจ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC โดยระบุว่า การรักษาด้วยยาภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ยาไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายกำจัดเซลล์มะเร็ง พบผลข้างเคียงน้อยกว่าการให้เคมีบำบัด แต่มีราคาแพงมาก ต้องเลือกใช้เฉพาะกับคนที่มีโอกาสสูงที่จะตอบสนองต่อยา
โดยการตรวจพิเศษหา programmed cell death-ligand 1 (PD-L1 )ในเซลล์มะเร็ง ถ้าพบ PD-L1 มากกว่า 50% จะให้ยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้ง programmed cell death receptor-1 (PD-1) เช่น ยา pembrolizumab ที่ขัดขวางการจับของ PD-1 บนเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันกลับมาทำหน้าที่กำจัดเซลล์มะเร็ง
ผู้ป่วยชายอายุ 79 ปี มีอาการ ดังนี้
- เหนื่อย อ่อนเพลีย
- ไอ 2 สัปดาห์
- มีโรคประจำตัวถุงลมโป่งพอง หัวใจขาดเลือด เส้นเลือดในสมองตีบ
- เคยสูบบุหรี่วันละ 1 ซอง หยุดมา 28 ปี
จากการเอกซเรย์ปอดพบก้อนในปอดด้านซ้ายบน ทำคอมพิวเตอร์สแกนปอดวันที่ 12 มิถุนายน 2564 พบก้อนขนาด 4.3 × 5.0 × 4.3 เซนติเมตรที่ปอดซ้ายด้านบน (ดูรูป) ตรวจชิ้นเนื้อพบเป็นมะเร็งปอดชนิด adenocarcinoma ส่งชิ้นเนื้อตรวจ PD-L1 ผล strongly positive ไม่พบยีนกลายพันธุ์ EGFR และ ALK ทำ PET scan พบมะเร็งกระจายเข้าสมอง
วันที่ 9 กรกฎาคม 2564 เริ่มยาภูมิคุ้มกันบำบัด pembrolizumab 200 mg ทางเส้นเลือดทุก 3 สัปดาห์ ผลการรักษาพบว่า
- ผู้ป่วยไม่แพ้ยา อาการเหนื่อยดีขึ้น
- ไอลดลง กินอาหารได้ดี
- น้ำหนักขึ้น เอกซเรย์ปอดก้อนเล็กลง
หลังจากให้ยา pembrolizumab 12 ครั้ง วันที่ 20 มีนาคม 2565 ทำคอมพิวเตอร์ปอดซ้ำ พบก้อนในปอดขนาดเล็กลงเหลือ 2.5 × 1.8 × 1.8 เซนติเมตร (ดูรูป) และมะเร็งในสมองหายไป คนไข้ตอบสนองดีต่อยาภูมิคุ้มกันบำบัด
ข้อมูล : หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC
ข่าวที่เกี่ยวข้อง