วันที่ 18 มิ.ย. – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค.เลื่อนกำหนดการลงพื้นที่จ.ภูเก็ต จากวันที่ 25 มิ.ย. เป็นวันที่ 1 ก.ค.ว่า ในวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ส่วนก่อนหน้านั้นคงมีการมอบหมายผู้ที่เกี่ยวข้องให้ลงไปดูเรื่องการเตรียมความพร้อม ส่วนกรณีการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ชุดใหญ่ในวันนี้จะมีการผ่อนคลายมาตรการใดเป็นพิเศษหรือไม่นั้น ขอให้รอฟังผลการประชุม ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคงได้เตรียมข้อมูลในส่วนที่เหมาะสม
ผู้สื่อถามว่านอกจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้วจะมีการเปิดเกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวจ.สุราษฎร์ธานีด้วยหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ขอให้รอฟังผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ คงมีการเสนอในวาระเพื่อหารือ ส่วนจะผ่อนคลายอย่างไร ขอให้รอผลการประชุมที่มีความชัดเจน ทั้งนี้การผ่อนคลายมาตรการนั้นเพื่อเอื้อให้เกิดการทำธุรกิจในประเทศได้คล่องตัว เมื่อถามว่า แต่ทางแพทย์ยังมีความคิดเห็นว่าไม่ต้องการให้เปิดประเทศอย่างเต็มที่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า เขาคงมีความเป็นห่วงทุกคน คงได้หารือกันแล้วในที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก
เมื่อถามว่า ภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลกำหนดไทม์ไลน์ที่ชัดเจนว่าช่วง 120 วันจะทำอะไรบ้าง นายสุพัฒนพงษ์
กล่าวว่า ตนเชื่อว่าศบค.คงนำเสนอ ขอให้รอติดตามกัน แต่ที่สำคัญทันที่ที่รัฐบาลประกาศคนมักจะมองว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำอะไรทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สำคัญที่สุดคือพวกเราที่ต้องรู้ทิศทางประเทศว่าทิศทางเช่นนี้เป็นเรื่องที่ดี ใครๆ ก็อยากให้เปิดประเทศ เราควรจะดีใจที่วันนี้เรามีเป้าหมาย อย่างน้อยเบื้องต้นก็รู้ว่า 120 วันพวกเราก็เตรียมตัวเตรียมใจสนับสนุนช่วยกันคิดช่วยกันทำว่าทำอย่างไรให้ประเทศเปิดได้ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลจะทำคนเดียว ภาคเอกชนก็ต้องปรับตัวด้วย ดังนั้นถ้ามีการปรับตัวตามลำดับถือเป็นเรื่องที่ดี เพื่อปรับปรุงทำให้ดีขึ้น และรอดูนายกฯกับรัฐบาลจะทำอะไร แล้วเราจะได้ประโยชน์จากตรงนั้น หากให้เป็นหน้าที่รัฐบาลฝ่ายเดียวคงไม่ใช่ เพราะพื้นฐานคือการควบคุมการระบาด การป้องกันตนเองให้ปลอดภัย แล้วเชื้อจะลดลงไปเอง นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดระดับประชาชน
“วันนี้เราต้องดูผลพวงการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ผมยังเชื่อมั่นชาวจ.ภูเก็ต ผู้ประกอบการ และประชาชนชาวภูเก็ต รวมถึงทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่ช่วยกันดูทุกด้านอย่างรอบคอบ ประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากสิ่งนี้” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว