No data was found

“สัณหพจน์” จ่อฟ้อง ขบวนการดิสเครดิตรับซื้อ “พริกเขียว”

กดติดตาม TOP NEWS

ส.ส.พปชร. เตรียมมอบทนายฟ้องดำเนินคดี ขบวนการดิสเครดิต กรณีรับซื้อ “พริกเขียว”ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง หลังปล่อยข่าวทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ชี้ตนเป็นผู้แทนประชาชนทำหน้าที่โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง

วันนี้(12 มิ.ย.64) นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากกรณที่มีการนำเสนอข่าวทางออนไลน์ ว่าตัวแทนพรรคการเมืองและกลุ่มเกษตรกรเข้าร้องเรียนผู้ว่าราชการ จ.นครศรีธรรมราช และเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตน เนื่องจากรับซื้อพริกเขียว จากเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง โดยเฉพาะพื้นที่อ.หัวไทร แล้วไม่ยอมจ่ายเงินค่าพริกเขียวที่รับซื้อเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาทนั้น

ทั้งนี้การนำเสนอข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยเรื่องนี้มีการทำงานกันเป็นขบวนการเพื่อหวังที่จะทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงและสร้างความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่

 

โดยขณะนี้ตนได้มอบหมายให้ทนายความฟ้องดำเนินคดี ในความผิดตามมาตรา 14  นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา

สำหรับข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเกษตรกรมีความเดือดร้อนจากการขายผลผลิตพริก ซึ่งมีราคาตกต่ำไปถึง 6 บาท/กก. ดังนั้นตนในฐานะผู้แทนประชาชนในพื้นที่ จึงได้ดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเป็นผู้ประสาน องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร อ.ต.ก.และให้ผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้ส่งออกพริกเขียวได้เข้ามารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรง ณ.จุดรับซื้อ 4 จุด คือ 1. สหกรณ์การเกษตรหัวไทร จำกัด 2. หอประชุม ม.4 ต.แหลม อ.หัวไทร 3. อบต.ไสหมาก อ.เชียรใหญ่ 4. ที่ทำการผู้ใหญ่ธีระเดช แป้นจันทร์ ม.7 ต.เขาพระบาท อ.เชียรใหญ่ จนราคาปรับสูงขึ้นถึง 20 บาท/กก. ทำให้ตัดวงจรพ่อค้าคนกลางโดยเฉพาะกลุ่มที่กดราคารับซื้อออกไปได้ในระดับหนึ่ง

 

นอกจากนี้ยังได้ประสานช่วยเหลือเกษตรกรที่ขอให้ผู้รับซื้อช่วยซื้อพริกต่อไป หลังจากผู้ซื้อจะหยุดรับซื้อในวันที่ 9 พ.ค.64 เป็นต้นมา จนกว่าจะแก้ปัญหาพริกไม่ได้คุณภาพได้ เนื่องจากพบว่าบางรายซึ่งเป็นพ่อค้าคนกลางไม่ใช่เกษตรกรตัวจริง ได้นำพริกไม่มีคุณภาพมาสวมรอยขายเกือบ 30 ตัน ในวันที่ 8 พ.ค.64 จากจำนวนรับซื้อจากเกษตรกรทั้งหมด 43 ตัน

 

จากการประสานงานช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่จำนวน 563 ราย นำพริกมาจำหน่ายผลผลิตรวม 223 ตัน รวมเป็นมูลค่าทั้งหมด 3.1 ล้านบาท  โดยใช้เวลาดำเนินการระหว่างวันที่ 8-20 พ.ค.64 โดยที่ผ่านมาทราบว่ามีการจ่ายเงินรับซื้อผลผลิตล่าช้าในเกษตรกรบางราย และตนได้ติดตามการดำเนินการมาโดยตลอดจนกระทั่ง มีการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรที่ไม่ใช่กลุ่มซึ่งแอบนำพริกไม่มีคุณภาพมาปะปนและนำมาขายมาจนครบทุกราย

 

อย่างไรก็ตามข่าวที่นำเสนอไปนั้น ได้นำเอาข้อมูลจากกลุ่มบุคคลซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรดังกล่าว ดังนั้นจึงไม่มีรายละเอียดข้อมูลและข้อเท็จจริงจากเกษตรกรส่วนใหญ่มานำเสนออย่างครบถ้วน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุลต่านบรูไน" เสด็จเยือนไทย 28-29 เม.ย.นี้ ร่วมลงนามความร่วมมือไทย-บรูไน 2 ฉบับ
ชื่นมื่น “บิ๊กป้อม” เปิดบ้านป่ารอยต่อ กินข้าวร่วมวง “รมต.-สส.พรรคพปชร." ย้ำตั้งใจทำงานเพื่อปชช.
ประชุมเพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการน้ำและผลกระทบในเขตพื้นที่ 7 ตำบล
"บุ้ง" อดอาหาร 91 วันแล้ว ล่าสุดแน่นหน้าอก ชามือเท้า ปวดขามาก
คดีสะเทือนขวัญ ตร.เร่งล่าตัว 2 หนุ่มญี่ปุ่น ฆ่าหั่นศพเพื่อนร่วมชาติ หนีซุกประเทศเพื่อนบ้าน
มีหนาว! สะเทือน "คณะก้าวหน้า" ทำ "ธนาธร" สะดุ้งโหยง "กกต."จ่อฟันเคมเปญชี้ชวนหาแนวร่วมสมัคร ส.ว. จี้ยุติการกระทำทันที
"วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนง. 100 กว่าชีวิต
"พิพัฒน์" ห่วงร้อนจัดทำร้ายแรงงาน ฝาก 6 ข้อเตือนระวังคุณภาพชีวิต
กกต.เตือนกลุ่มบุุคคล-องค์กร จูงใจเชิญชวนให้คนลงสมัครสว. เสี่ยงทำผิดกฎหมาย
เปิดคลิปวินาที สุดกร่าง "ผู้บริหารหญิง" บ.ระดับโลก เมาแล้วขับ ด่าตร.ชั้นต่ำ แถมถีบหน้า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น