วันนี้ (10 มิ.ย.64) : พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมจุดบริการฉีดวัคซีนนอกรพ. “หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร – หอการค้าไทย” ณ บริเวณ ชั้น 2 บิ๊กซี บางบอน เขตบางบอน และ PTT Station พระราม 2 ขาออก (กม.12) เขตบางขุนเทียน โดยมี นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักอนามัย สำนักการแพทย์ ผู้บริหารเขตบางบอน เขตบางขุนเทียน ผู้บริหารหอการค้าแห่งประเทศไทย และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมคณะ
สำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล หรือ “หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย” ณ ศูนย์บริการวัคซีนบิ๊กซี บางบอน” เป็น 1 ใน 25 จุด ที่กรุงเทพมหานครได้จัดสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล ซึ่งหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย บิ๊กซี บางบอน” ดำเนินการโดยความร่วมมือกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก มีการเตรียมระบบให้วัคซีนที่ปลอดภัยและครบถ้วนทุกขั้นตอน โดยมีเป้าหมายการให้บริการฉีดวัคซีน จำนวน 500 คน/วัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. ในส่วนของหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย ณ PTT Station พระราม 2 ขาออก (กม.12) เขตบางขุนเทียน ดำเนินการโดย PTT OR ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอกและปิยะเวท ให้บริการฉีดวัคซีนได้ประมาณ 500-550 คน/วัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น. โดยไม่มีวันหยุด ซึ่งทั้ง 2 จุดให้บริการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ ไทยร่วมใจ “กรุงเทพฯ ปลอดภัย” SAFE BANGKOK
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า วันนี้ (10 มิ.ย.64) เป็นวันที่ 4 ของการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนผ่าน www.ไทยร่วมใจ.com/ แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง และร้านสะดวกซื้อตามที่กรุงเทพมหานครกำหนด ซึ่งทั้ง 25 จุดที่ให้บริการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สรุปยอดผู้ได้รับวัคซีน ณ หน่วยความร่วมมือบริการวัคซีนนอกโรงพยาบาล 25 ศูนย์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 9 มิ.ย 64 มีผู้ได้รับวัคซีน จำนวน 14,981 คน รวมสะสม (7 – 9 มิ.ย. 64) มีผู้ได้รับวัคซีน จำนวน 41,572 คน ซึ่งในช่วงแรกของการฉีดวัคซีนระหว่างวันที่ 7-14 มิ.ย.64 แต่ละหน่วยบริการจะให้บริการวัคซีนแก่ประชาชนได้จำนวน 500-590 คน/วัน หลังจากนั้นตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.64 เป็นต้นไปจะเพิ่มศักยภาพการฉีดตามจำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งรวมทุกจุดมีความพร้อมที่จะฉีดวัคซีนเต็มศักยภาพที่ได้กำหนดไว้คือ 50,000 – 60,000 คน/วัน โดยจะกระจายฉีดให้บริการแก่ประชาชนทั้ง 25 จุด และให้บริการทุกวันจนครบ 2 เข็ม เพื่อบริการประชาชนที่ไม่ได้เข้าไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาล
มาตรการดูแลแคมป์คนงานมีความปลอดภัยขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจ
สำหรับมาตรการความปลอดภัยภายในแคมป์คนงานที่พบผู้ป่วยติดเชื้อนั้น กทม.อนุญาตให้ทำงานได้ตามมาตรการการควบคุมโรคโดยการกักตัวคนงานไม่ให้ออกจากที่ทำงานและที่พัก (Bubble and Seal) โดยเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครจะร่วมกับตำรวจ สน.ท้องที่ และฝ่ายความมั่นคงในการกักตัวคนงานในพื้นที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น หากพบผู้ป่วยจะคัดแยกและนำส่งโรงพยาบาล ส่วนคนงานที่ไม่ป่วย กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกับกระทรวงแรงงานฉีดวัคซีนให้แก่คนงาน นอกจากนี้จะเร่งตรวจคัดกรอง (swab) คนงานในแคมป์ก่อสร้างในพื้นที่ประมาณ 400 แห่ง คนงานประมาณ 60,000 คน สำหรับการเข้มงวดจากการตรวจพบเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่น กทม. มีความเข้มงวดในการควบคุมโรคมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการคัดกรอง การฉีดวัคซีน การให้คำแนะนำประชาชน รวมทั้งขอความร่วมมือจากภาคเอกชนในการปฏิบัติเพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนทั้งที่ฉีดวัคซีนแล้วหรืออยู่ระหว่างรอรับบริการ ปฏิบัติตามหลัก DMHTTA โดยเฉพาะการเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ และสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
