นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เปิดเผยกับ TOPNEWS ถึงความคืบหน้าการลงทุนใน EEC ว่า ในปี 64 เงินลงทุนใน EEC ไม่น่าจะต่ำกว่า 3-4 แสนล้านบาท แต่ 3 แสนล้านบาท เป็น minimum โดยปี 63 ที่ผ่านมา นักลงทุนที่ขอลงทุนไว้มาดูที่ไม่ได้ ก่อสร้างโรงงานไม่ได้ จึงเลื่อนมาปี 64 แต่มีเงื่อนไขว่า โควิดต้องจบ ถ้าโควิดจบ เขาก็พร้อมจะมาลงทุน จึงกลายเป็นการลงทุนของปี 64 และปี 63 ที่อยากจะลงทุน แต่ไม่ได้ลงทุน ก็เลยจะมาทับในปี 64 เราถึงแน่ใจว่าปี 64 คงไม่มีอะไรเลวหรอก ถ้าโควิดจบ พวกเราก็ขออย่างเดียว ขอให้ฉีดวัคซีนให้เร็วๆ หน่อย
โดยตอนนี้ให้ priority ที่จ.ชลบุรี เพราะที่พัทยา โดนหนัก ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ EEC ไม่ว่าจะเป็นพัทยา ฉะเชิงเทรา และระยอง องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) เขาพร้อม ถ้าปล่อยให้ซื้อวัคซีนมาฉีดได้ มีวัคซีนให้เขา เขาพร้อมจะซื้อเอง
อย่างไรก็ตาม ต้องดูว่าเรามีวัคซีนเยอะแค่ไหน ถ้าตอนนี้ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์มาช่วยด้วย คนมาช่วยด้วย หา Alternative คนหลายคน โดยเฉพาะนักลงทุนในพื้นที่ EEC และนักลงทุนต่างประเทศ หรือว่าคนต่างประเทศที่อยู่ เค้าก็พร้อมจะจ่ายเงินฉีดอยู่แล้ว ถึงไม่ให้เขาฟรี เขาก็พร้อมจะจ่าย เข็มละพัน สองพัน สบายมากไม่ได้เป็นปัญหา
แต่ข่าวร้ายก็คือ ตอนที่ตั้งทุน EEC เมื่อ 3 ปีที่แล้ว อยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท ทีนี้เงินลงทุนที่วางแผนไว้แล้ว แน่นอนใน 3-4 ปีข้างหน้า ได้อย่างน้อย 1.2 ล้านล้านบาทแล้ว ปลายปีนี้รถไฟ สนามบิน อุตสาหกรรมเริ่มลง ปรากฎว่า โควิดทำประเทศไทยสูญเสียรายได้ไปประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท เพราะฉะนั้น แทนที่แต่เดิมตั้งใจจะเป็นส่วนที่สร้าง มันก็กลายมาเป็นส่วนที่ซ่อมโควิดแทน คำถามว่า แล้วจะกลับไปให้มันมีแรงขับดันของเศรษฐกิจมากๆ เป็นสิ่งที่ต้องคิดกันอีกรอบ
โดยก่อนโควิดคาดว่า 1.7 ล้านล้านบาท ลงปีละ 3 แสนล้านบาท น่าจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปได้ประมาณ 4.5% ปกติเราโต 3% เศรษฐกิจก็น่าจะโตได้ประมาณ 4.5% นั่นคือหน้าที่ EEC ซึ่งทำได้อยู่แล้ว แต่เมื่อโควิดมา ทำให้ฐานมันทรุดหายไป 2.2 ล้านล้านบาท เพราะฉะนั้น เศรษฐกิจไทยจะออกไปเป็นประเทศที่มีรายได้สูง พ้นกับดักรายได้ปานกลาง EEC ก็ช่วยไม่ได้เต็มที่ คำถามคือ EEC จากตรงนี้จะทำอะไรเพิ่ม เพื่อที่จะสร้างให้กลับไปที่เก่า
ทั้งนี้ นายคณิศ ได้คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 64 ที่ประมาณ 1-2% และถ้ามีการฉีดวัคซีนได้ 70% ในปลายปีนี้ ก็จะผลักดันให้เศรษฐกิจในปีหน้า เติบโตได้ 4.5% แต่ถ้าฉีดไม่เสร็จจีดีพีก็กลับมาอยู่ที่ 1-2%
“ปีนี้ กะไว้ประมาณ 1-2% ปีหน้าถ้าฉีดวัคซีนเสร็จเดือนธันวาคม ปีหน้าจะโต 4.5% คือปลายปีนี้ฉีดได้ 70% ปีหน้าการันตี เศรษฐกิจ 4.5% แต่ถ้าฉีดไม่เสร็จปีหน้าจะเหลือ 1-2% เพราะนักท่องเที่ยวไม่มา นักลงทุนก็มาไม่ไหว เราก็หมดแรง เศรษฐกิจพื้นฐานยิ่งหมดแรงใหญ่ …เราคิดว่าเรื่องการลงทุน เรื่องการทำโครงสร้างพื้นฐานไม่ค่อยเป็นห่วง เพราะพวกเราทำเป็น แต่ตัวโควิด ตัวฉีดวัคซีน เราช่วยตัวเองไม่ได้ ก็ต้องช่วยเรา ” นายคณิศ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายคณิศ มองว่า ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ก็เป็นโอกาส พยายามสร้างโอกาส อย่างสมมติว่า 5G เรามีข้อได้เปรียบ เพราะเราทำระบบ 5G เร็วว่าประเทศอื่น เร็วกว่าทุกประเทศในอาเซียน ก็ถือโอกาสรีบทำเรื่องนี้เราเป็นฮับรถยนต์อยู่ เราก็รีบทำ EV ก็เป็นโอกาส แต่ขณะเดียวกัน การลงทุนอื่นๆ มันก็ลดลง ทำรถยนต์ก็ไม่รู้จะไปขายใคร แต่ตอนนี้ต้องรีบฉีดวัคซีน เพื่อให้สถานการณ์การติดโควิดลดลง
สำหรับสถานการณ์การลงทุนในอีอีซี ไตรมาส 1 (ม.ค- มี.ค.) จากบีโอไอ ยอดการขอรับการ ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี มีมูลค่ารวม 64,410 ล้านบาท คิด เป็น 67% ของมูลค่าการขอรับส่งเสริมทั้งหมด และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 63 ที่ 39% แสดงให้เห็นว่าอีอีซี ยังเป็นพื้นที่เป้าหมายของนักลงทุนส่วนใหญ่
โดยประเทศที่มีการลงทุนมากที่สุด ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน และสิงคโปร์ และอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีการลงทุนสูง ที่สุด ได้แก่ อุตสาหกรรมด้านการแพทย์ และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเลคทรอนิกส์
