วันที่ 24 ม.ค.2565 จากกรณีนายวรเชษฐ์ ลั่นซ้าย อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 4 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ถูก “บังบ่าวหรือบ่าวตา” ขาใหญ่เอเยนต์ค้ายาเสพติดพร้อมพวก 4-5 คนรุมทำร้าย โดยใช้อาวุธมีดฟัน แทงและฟันตามร่างกายจนพรุนไปทั้งร่าง โดยเฉพาะบริเวณหน้าอกซ้ายและขวาพรุน ขาทั้งสองข้างถูกฟันหวิดขาด ส่วนมือทั้งสองขางก็ถูกหั่นเป็นแผลฉกรรจ์เช่นกัน เสียชีวิตสุดสยองขวัญในชุมชนบ้านท้องโกงกาง หมู่ 4 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ในที่เกิดเหตุพบยาบ้าและเงินสดจำนวนหนึ่ง จึงเก็บเป็นหลักฐาน ตำรวจเชื่อว่าสาเหตุมาจากการขัดแย้งผลประโยชน์ในการจำหน่ายยาเสพติด โดยหลังจากก่อเหตุบังบ่าว หรือบ่าวตา คนร้ายพาพรรคพวกที่ร่วมก่อเหตุลงเรือหางยาวหลบหนีไปในพื้นที่ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 19 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาศาลจังหวัดปากพนัง ได้อนุมัติหมายจับนายวิเชษฐ์ หรือบ่าว คงเมือง อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 85/7 หมู่ 4 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ที่ 14/2565 ลงวันที่ 21 ม.ค. 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสารณโดยไม่มีเหตุอันควร และนายวิเชษฐ์ หรือบ่าว ผู้ต้องหาดอดเข้ามอบตับ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด ร.ต.อ.สมชาย ยอดสุวรรณ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ควบคุมตัวนายวิเชษฐ์ หรือบ่าว คงเมือง ผู้ต้องหาไปฝากขังยังศาลปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ในขณะทางด้านญาติ ๆ ของนายวรเชษฐ์ ลั่นซ้าย ได้เดินทางร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช โดยนำหลักฐานสำคัญในทางคดีคือโทรศัพท์มือถือของนายวรเชษฐ์ ผู้ตายที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งตำรวจไม่ได้เก็บไปตรวจสอบหรือเป็นหลักฐานสำคัญในทางคดีแต่อย่างใด มามอบให้กับสื่อมวลชนเพื่อให้นำไปมอบให้กับ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ญาติของนายวรเชษฐ์ ลั่นซ้าย ผู้ตาย คนหนึ่ง กล่าวว่าพวกเรายอมรับว่านายวรเชษฐ์ ผู้ตาย อาจจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเป็นสาเหตุที่คนร้ายวางแผนฆ่าอย่างโหดเหี้ยม พวกเราไม่มั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาของตำรวจ เพราะไม่ได้แจ้งข้อมูลรายละเอียดความคืบหน้าใด ๆ ให้กับพวกเราที่เป็นผู้เสียหายทราบเลย เมื่อโทรไปถามล่าสุดก็แจ้งว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีเพียงคนเดียวและมอบตัวแล้ว ไม่ต้องนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะเป็นความประสงค์ของนายวิเชษฐ์ หรือบ่าว คงเมือง ผู้ต้องหาที่กลัวจะไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเพราะที่เกิดเหตุเป็นบ้านของผู้ต้องหา ในชุมชนล้วนญาติ ๆ และคนที่รู้จักสนิทกับผู้ต้องหาทั้งนั้นจะไม่ปลอดภัยได้อย่างไร พวกเราคือผู้เสียหายญาติในสายเลือดเดียวกันถูกรุมฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม “ชาวบ้านในที่เกิดเหตุเขาทราบกันเป็นดีว่าคนร่วมก่อเหตุหลายคน น่าจะมีพยานหลักฐานอื่น ๆ หรือพยานวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องอีกมากมายมาประกอบที่สามารถชี้ชัดว่าคนร้ายก่อเหตุคนเดียวไม่ได้ แต่ตำรวจกลับยืนยันว่ามีคนเดียว เพราะมีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้คนเดียวและมอบตัวแล้ว…จบข่าว”
“ตนและญาติ ๆ ไม่มั่นใจในการทำงานของตำรวจมาตั้งแต่ต้น เพราะการตรวจสอบในสถานที่เกิดเหตุก็ไม่ละเอียดรอบคอบ แม้แต่โทรศัพท์ของนายวรเชษฐ์ ลั่นซ้าย ผู้ตาย ซึ่งน่าจะเป็นวัตถุพยานที่สำคัญในคดีก็ยังตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ตำรวจกลับทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ คนที่อ้างว่าเก็บได้ในที่เกิดเหตุโทรมาหาเมียคนตายเพื่อเรียกค่าไถ่ แต่ในที่สุดก็มอบโทรศัพท์ให้เมียผู้ตายโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ใด ๆ ก่อนที่เมียผู้ตายจะนำมามอบให้ตนและตนตรวจสอบเบื้องต้นมีข้อมูลการโทรหาหลายเบอร์ ในช่วง 22.30-23.00 น.ซึ่งอาจจะอยู่ในช่วงก่อนเกิดเหตุหรือหลังเกิดเหตุเล็กน้อย และไลน์ก็มีข้อมูลการติดต่อด้วยเช่นกัน แต่ตนและญาติ ๆ ไม่มั่นใจที่จะมอบให้กับตำรวจในพื้นที่ จึงนำมามอบให้ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้การ ฯตำรวจ ผ่านสื่อมวลชน ฯ เพื่อนำไปตรวจสอบข้อมูลขยายผลในคดีต่อไป
นอกจากนี้ทราบว่ารองเท้าของผู้ตายที่สวมใสในวันเกิดเหตุ ตำรวจก็ไม่เอาไปด้วยทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุในขณะนี้มีคนในชุมชนที่เกิดเหตุสวมใส่อยู่ ซึ่งบุคคลดังกล่าวอาจจะพัวพันร่วมก่อเหตุด้วย ตนอยากกราบวิงวอนขอร้องท่านผู้การ ฯให้กำชับให้มีการสอบสวนสืบสวนขยายผลติดตามคนร้ายอีกหลายที่ร่วมก่อเหตุ มาดำเนินคดีให้ได้ทุกคนด้วย อย่าตัดปัญหาแค่ว่ามีคนร้ายก่อเหตุคนเดียว มีพยานเป็นคลิปวีดีโอ เข้ามอบตัวแล้ว คดีจบแล้ว เท่ากับว่าตำรวจสามารถปิดคดีสิ้นสุดแล้ว แต่ตนและญาติ ๆ ยังค้างคาใจและไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่ผู้ร่วมก่อเหตุอีกหลายคนยังลอยนวลเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”ญาติคนตายกล่าว
ในวันเดียวกันนายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช เดินทางไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราชนำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายเครื่องดังกล่าวไปมอบให้กับ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ซึ่งทาง พล.ต.ต.สมชาย ยืนยันว่าจะกำชับให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีและตำรวจที่เกี่ยวข้องแกะข้อมูลจากโทรศัพท์นำไปสอบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมก่อเหตุรายอื่น ๆ หากมีพยานหลักฐานเพียงพอกจะจับกุมตัวมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ไม่มีละเว้น รวมทั้งจะระดมกำลังกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรมในหมู่บ้านท้องโกงกางอย่างจริงจังต่อไป สำหรับศพนาย วรเชษฐ์ ลั่นซ้าย ผู้ตาย จะมีการประกอบพิธีฌาปนกิจในเวลา 13.00 น.วันนี้ (24 ม.ค.) ที่วัดสระแก้ว หมู่ 1 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช .
กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์/จ.นครศรีธรรมราช