ศบ.ทก. ย้ำฝ่ายไทยไม่เห็นด้วย “กัมพูชา” ขู่งัดมาตรการห้ามส่งสินค้าผ่านแดน ชี้ยิ่งบานปลายซ้ำเติมปัญหา

ศบ.ทก. ย้ำฝ่ายไทยไม่เห็นด้วย "กัมพูชา" ขู่งัดมาตรการห้ามส่งสินค้าผ่านแดน ชี้ยิ่งบานปลายซ้ำเติมปัญหา

วันที่ 4 ก.ค.2568  ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดย พลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณว่าสถานการณ์อาจจะคลี่คลายไปในทางที่ดี ซึ่งหากมีโอกาสจะแจ้งให้ประชาชนทราบ อย่างไรก็ตามอยากจะขอให้ประชาชนดำรงความอดทนอดกลั้นเช่นเดิม ส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบยังคงดำเนินการอยู่ ซึ่งรัฐได้ออกมาตรการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

ด้านนางมาระตี กล่าวว่า ที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ โดยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงในเรื่องการควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ ยังคงเป็นไปตามความเรียบร้อยสงบ ยืนยันว่าการเพิ่มความเข้มข้นจุดผ่านแดนขณะนี้ เป็นมาตรการที่หน่วยงานพิจารณาอย่างรอบคอบและโปร่งใสตามนโยบายที่ได้รับการมอบหมายจาก ศบ.ทก. โดยคำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ ไทยพร้อมปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่และความจำเป็น และทุกครั้งที่มีการปรับเปลี่ยนจะสื่อสารไปยังประชาชนให้ทราบอย่างโปร่งใส

นางมาระตี กล่าวต่อว่า ตามที่ได้เห็นจากข่าวในพื้นที่ว่า มีการผ่อนปรนให้ผ่านแดนปกติสำหรับบุคคลที่มีความจำเป็น เช่น ผู้ป่วย นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องข้ามมาฝั่งไทย รวมถึงประชาชนทั่วไป ซึ่งได้รับรายงานจากหน่วยงานในพื้นที่ว่า มีการจับกุมบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติมากขึ้น แม้จะเริ่มต้นด้วยระดับที่ไม่มากนัก แต่เชื่อว่า ภายหลังจากการที่ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ก็จะเห็นมากขึ้น และขอย้ำว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาระดับภูมิภาคที่สร้างความเสียหายให้ประชาชนทุกประเทศ

 

 

ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่า ฝ่ายกัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ขนส่งสินค้าตามจุดผ่านแดนต่างๆ นั้น นางมาระตี กล่าวว่าฝ่ายไทยกำลังติดตามมาตรการดังกล่าวเพื่อประเมินอนาคต ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า มีการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว และฝ่ายไทยขอยืนยันว่า มาตรการนี้จะเป็นการขยายปัญหาออกไปโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก และเป็นการสวนทางจากความพยายามของฝ่ายไทย ในการหลีกเลี่ยงความตึงเครียดระหว่างสองรัฐบาล รัฐบาลไทยยังคงมองว่าสถานการณ์ความตึงเครียดนี้เป็นปัญหาระหว่างรัฐบาล ไม่ใช่ระหว่างประชาชน ย้ำว่าฝ่ายไทยยังพร้อมเจรจากับฝ่ายกัมพูชาผ่านกลไกลทวิภาคี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หนุ่มหลอนยาซิ่งเก๋งพุ่งแหกด่านตรวจ ตำรวจตามรวบตัว พบยาอื้อ โดนหนัก 7 ข้อหา
มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 320 คน อย่างอบอุ่น ในโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 45 จัด “ค่ายประวัติศาสตร์ชาติไทย”
ปลุกเสกกระสุนพลาสติก ยิงเป้า 'วุ้นเส้น' กลางงานถนนคนเดินยูวิลล์มาร์เก็ต ผู้จัดประกาศไล่สิ่งชั่ว–คืนสีสันให้คนโคราช
จนท.เร่งตรวจสอบโครงสร้าง "อาคาร ROUTE 66" ย่าน RCA หลังเกิดเหตุไฟไหม้
"นฤมล" พรรคกล้าธรรม คว้าเก้าอี้เลือกตั้งซ่อม ส.อบจ.เชียงราย
มุกดาหาร ชสอ.แถลงข่าวมหกรรมข้อมูล ล่าสุด ณ เดือนธันวาคม 2567 ชี้ให้เห็นว่า เฉพาะเครือข่ายสหกรณ์ออมทรัพย์ มี สินทรัพย์รวมกันสูงถึง 3.43 ล้านล้านบาท มีการให้เงินกู้แก่สมาชิกเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตไปแล้วกว่า 2.39 ล้านล้านบาท และที่สำคัญที่สุดคือ มียอดเงินรับฝากจากสมาชิกรวมกันสูงถึง 1.43 ล้านล้านบาท ประกอบกับมี ทุนเรือนหุ้นของสมาชิกอีกกว่า 1.37 ล้านล้านบาท ตัวเลขมหาศาลนี้ยืนยันว่าสหกรณ์ออมทรัพย์คือแหล่งเงินออมภาคสมัครใจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากธนาคารพาณิชย์ และเป็นกลไกสำคัญที่สร้างผลตอบแทนในรูปของ "เงินปันผล" และ "เงินเฉลี่ยคืน" กลับสู่สมาชิกโดยตรง ช่วยลดความเหลื่อมล้าและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม มหกรรมวันออมแห่งชาติ ปี 2568 ณ จังหวัดมุกดาหาร ด้วยความสำคัญดังกล่าว ในปี 2568 นี้ เราจึงร่วมกับจังหวัดมุกดาหาร จัด "มหกรรมวันออมแห่งชาติ" ภายใต้แนวคิด "พลังสหกรณ์ ส่งเสริมความมั่นคงทางการออมให้คนไทย" และนับเป็นพระคุณอย่างสูง ที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของขบวนการสหกรณ์และการออมของภาคประชาชน โดยท่านได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการออมเป็นวาระแห่งชาติ สาหรับกิจกรรมในวันงาน 31 ตุลาคม 2568 จะมีความหลากหลายตลอดทั้งวัน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและส่งต่อแรงบันดาลใจในทุกมิติ ประกอบด้วย: ภาคเช้า กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ "Mekong Savings Run & Ride 2025" การเดิน-วิ่ง และ ปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพริมฝั่งโขง เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นสร้างความมั่นคงจากสุขภาพกาย สู่สุขภาพทางการเงิน ภาคกลางวัน เวทีสัมมนาวิชาการ "ก้าวข้ามกับดัก เพื่อโอกาสสหกรณ์ไทยให้ยั่งยืน" และทอล์คโชว์ "อนาคตการออมไทย ขับเคลื่อนโดยพลังสหกรณ์" โดยผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ เพื่อมอบความรู้และเปิดมุมมองใหม่ๆ ทางการเงิน ภาคค่ำ งานเลี้ยงสังสรรค์ "Cooperative Power Night" และพิธีมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ "สหกรณ์ส่งเสริมการออมยอดเยี่ยม" เพื่อยกย่องสหกรณ์ที่เป็นต้นแบบในการสร้างวินัย ทางการเงิน ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวมุกดาหารและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงเครือข่ายสหกรณ์ทั่วประเทศ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานประวัติศาสตร์ครั้งนี้ เพื่อร่วมกันประกาศเจตนารมณ์และสร้างวัฒนธรรมการออมที่เข้มแข็งให้แก่สังคมไทย เพราะเราเชื่อว่า "เงินออมของสมาชิกทุกคน คืออิฐแต่ละก้อนที่ประกอบกันขึ้นเป็นรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงของประเทศ" มาร่วมกันทาให้วันที่ 31 ตุลาคม ไม่ใช่เป็นเพียงวันออมแห่งชาติ แต่เป็นวันที่คนไทยทุกคนเริ่มต้นสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับตนเองและประเทศชาติสืบไป. ภาพ-ข่าว อนุศักดิ์ - เสาวภา แสนวิเศษ ผู้สื่อข่าวTOPNEWSทั่วไทย จ.มุกดาหาร ประจาปี 2568 ส่งเสริมความมั่นคงทางการออมให้คนไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​