“หมอวรงค์-หมอตุลย์” คาใจขั้นตอนส่งตัว “ทักษิณ” ไม่ปกติ แพทย์เวรเลือกไปรพ.ตร. ใช้เวลา 2 ชม. ทั้งๆอ้างเหตุฉุกเฉิน

ชาญชัย เผย ศาลสั่งห้ามเผยแพร่การเบิกความคดีชั้น 14 ด้านหมอวรงค์ สังเกตแพทย์เวรไม่รู้เรื่องอะไรเลย พยาบาลประสานงานทั้งหมด หมอตุลย์ สงสัยใช้เวลาส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจ 2 ชม.ทั้งที่มีอาการแน่นหน้าอก

“หมอวรงค์-หมอตุลย์” คาใจขั้นตอนส่งตัว “ทักษิณ” ไม่ปกติ แพทย์เวรเลือกไปรพ.ตร. ใช้เวลา 2 ชม. ทั้งๆอ้างเหตุฉุกเฉิน – Top News รายงาน

 

หมอวรงค์-หมอตุลย์

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 12.30 น. ของวันนี้  ภายหลังการไต่สวนของ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีการพักรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ นัดที่ 2 นานกว่า 3 ชั่วโมง นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ศาลมีคำสั่งห้ามไม่ให้นำข้อเท็จจริงการเบิกความและการไต่สวน ในนัดก่อนๆ ออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนในลักษณะคำต่อคำ เพราะอาจทำให้ข้อไต่สวนและข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนไม่สมบูรณ์ และการนำการเบิกความดังกล่าวไปวิเคราะห์ หรือให้ความเห็นในทางคดี ทำให้เกิดความสับสนในสังคม และอาจมีข้อมูลส่วนบุคคล ศาลจึงขอให้คู่ความและผู้เข้าฟังพิจารณาคดี งดเว้นการเผยแพร่การเบิกความพยานบุคคลและพยานเอกสารที่ศาลไต่สวน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ได้ตั้งข้อสังเกตหลังการเข้าร่วมรับฟังการไต่สวน ว่า วันนี้มีความเชื่อมโยงระหว่างพยาบาลเวร แพทย์เวรและแพทย์ผู้ทำการตรวจร่างกายซึ่งเป็นผู้ทำหนังสือส่งตัว แต่ในภาพรวมทั้งหมดเป็นการดำเนินการของพยาบาลเวรเป็นหลัก ที่แม้แต่แพทย์เวรไม่รู้เรื่องอะไรเลย

ข้อสังเกตที่ 2 ในเรื่องระยะเวลาการส่งตัวนักโทษผู้ป่วยรายนี้ไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งศาลได้ถามว่าทำไมไม่ส่งไป ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อนเพราะอยู่ใกล้ ประมาณ 200 เมตร ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที หากผู้ป่วยมีอันตรายจะทำอย่างไร ก็เป็นมุมที่ตนได้สังเกตแล้วว่าตอบยาก

ส่วนประเด็นที่ 3 ก็มีการถามว่ารู้หรือไม่ว่านักโทษรายนี้คืออดีตนายกรัฐมนตรี หากปล่อยไว้ 2 ชั่วโมง ที่อ้างว่าเจ็บหน้าอกหรือหายใจหอบขึ้นมา หากเป็นอะไรไปจะเป็นอย่างไร

และในประเด็นสุดท้ายในภาพรวม พยาบาลเป็นผู้ประสานงานในการเลือกโรงพยาบาลตำรวจ

 

ส่วน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในมุมส่วนตัวขอย้ำว่า ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลตำรวจ อยู่คนละตึกกับชั้น 14 จึงอยากให้ตั้งข้อสังเกตว่าหากฉุกเฉิน จะต้องส่งตัวไปที่ห้องฉุกเฉินก่อน และหากตรวจแล้วไม่ฉุกเฉินจริงสามารถรักษาผู้ป่วยนอกได้ ก็สามารถรักษาและส่งกลับเรือนจำ หากฉุกเฉินและมีอาการหนักจริงชั้น 14 ก็ไม่เหมาะสมอยู่ดี ซึ่งเป็นข้อสังเกตส่วนตัวในฐานะที่เป็นหมอคนหนึ่งคิดว่าประชาชนและแพทย์ทั่วไปน่าจะเห็นด้วยและตั้งข้อสังเกตในคดีนี้

จากนั้นเวลา 12.59 น. แพทย์ผู้ให้การรักษาและพยาบาล จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้เดินทางออกมาจากศาลฎีภา ได้ขึ้นรถตู้ออกไปทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"GLO" จัด Kid Dee Roadshow ภาคเหนือ เสริมพลังคนรุ่นใหม่รู้เท่าทันภัยพนันออนไลน์
“ภูมิธรรม” ชี้ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด ยันยึดมาตรการตามเดิม ไม่มีผ่อนปรนเข้า-ออก ข้ามแดน
"บิ๊กเล็ก" แจงเข้าใจคลาดเคลื่อน ยันคุยทางออกขัดแย้งกัมพูชา ไม่ได้หมายถึง "เตีย เซียฮา" ขอเชื่อมั่น ไว้ใจนำสงบสุขกลับคืน
"อ.ไชยันต์" ซัด "ไอติม พริษฐ์" อ้างเหตุปชน.ไม่ร่วมยื่นซักฟอก "นายกอิ๊งค์" ทำปชช.เสียโอกาส สวนเจ็บ รัฐสภาอังกฤษ เขียนชัด จริยธรรมนักการเมือง อย่าทำไม่รู้เห็น 
ปั๊มน้ำมันระเบิดดังสนั่นทั่วกรุงโรมของอิตาลี
"โฆษกทบ." แจงเหตุ "ทหารพรานไทย" ปะทะคารม "ทหารกัมพูชา" จุดชมวิวภูผี ไม่ถึงขั้นรุนแรง ย้ำต่างฝ่ายต่างยึดข้อตกลง
"จุลพันธ์" อ้างเหตุครม.ใหม่ เตรียมถอนร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์-กาสิโน พิจารณาซ้ำ ยันไม่เกี่ยวปมขัดแย้งกัมพูชา
ดร.เฉลิมชัย ปิดหลักสูตร ปธส. 12 มุ่งสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ท่ามกลางวิกฤตโลกเดือด
"มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์" ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรทุ่งหลวง ราชบุรี มอบรถเข็นวีลแชร์ผู้สูงอายุ-ผู้ป่วย ถวายเป็นพระราชกุศลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568
"หมอวรงค์" สรุปแยกเป็นข้อๆ ไต่สวนแพทย์-พยาบาล รักษา "ทักษิณ" พิรุธหนัก แพทย์อ้างส่งไปรพ.ตร. เพราะ "พยาบาลเวร" วินิจฉัยอาการ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น