No data was found

อัยการสั่งฟ้อง “แอมมี่” คดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ โดน 3 ข้อหาหนัก

กดติดตาม TOP NEWS

อัยการสั่งฟ้อง "แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์" คดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ โดน 3 ข้อหาหนัก

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชัยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ “แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์” อายุ 32 ปี เป็นจำเลย ในฐานความผิดร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินีรัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ , ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 83 ,91, 112, 217 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6 )พ.ศ 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ

โดยคำฟ้องบรรยายพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกอีก 2 คน ที่ยังไม่ได้นำตัวมาฟ้องและหลบหนี ได้บังอาจร่วมกันวางเพลิงโดยใช้น้ำมันก๊าดราดใส่และจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 10 ที่บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของเรือนจำกลางคลองเปรม จนไฟได้ลุกลามไหม้พระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมโครงไม้ เหล็กและอุปกรณ์ที่ประดับจนได้รับความเสียหาย รวมทั้งสิ้น 6 รายการ และค่าติดตั้ง 1 รายการ รวมเป็นความเสียหายทั้งหมดเป็นเงิน 60,000 บาท ซึ่งขณะเกิดเหตุประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และรัฐธรรมนูญมาตรา 6 บัญญัติว่าองค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ดังนั้นการกระทำของจำเลยกับพวกข้างต้น จึงเป็นการกระทำอันไม่สมควร นับเป็นการแสดงอาฆาตมาดร้ายดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ทำให้พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น หมิ่นพระเกียรติ ถูกลบหลู่ และมีเจตนาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของปวงชนชาวไทย ไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้

อีกทั้งจำเลยได้เผยแพร่ภาพที่ไฟกำลังลุกไหม้พระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 และมีการพิมพ์ข้อความด้วย โดยจำเลยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเผยแพร่ที่ในบัญชีเฟสบุ๊ก ชื่อว่า The Bottom Blues ของจำเลย ซึ่งเปิดเป็นบัญชีสาธารณะประชาชนทั่วไป สามารถเข้าถึงได้ ดังนั้นพฤติกรรมของจำเลย จึงเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย ทั้งนี้ศาลประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา เป็นคดีหมายเลขดำ อ.1199/2564 เพื่อนัดสอบคำให้การจำเลยและตรวจพยานหลักฐานต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

Top News เดินหน้าชำแหละซ้ำ ปัญหาสลากฯแพง ผู้พิการร้องเข้าไม่ถึงโควต้าโดนสมาคมฯปิดกั้น "นอท" โผล่ขายเย้ยกม.
"ผบก.น.2" ยันไม่มี 2 มาตรฐาน ชี้พบเส้นเงิน 32 เส้นเชื่อมโยงเว็บพนัน BNK จ่อเรียกสอบ "บิ๊กต่อ"
"ทนาย แอมไซยาไนด์" จ่อเอาผิด "บิ๊กโจ๊ก-ทีมสืบสวน" ตามพ.ร.บ.อุ้มหายฯ อ้างถูกย่ำยีศักดิ์ศรี ทำร้ายจิตใจจนแท้งลูก
ผู้ประกอบการ รวมตัวร้องทุกข์ ตำรวจแหลมฉบัง หลังถูกบริษัทรับเหมาก่อสร้างเบี้ยวจ่ายค่าวัสดุอุปกรณ์ เสียหายมากกว่า 15 ล้าน
"สุลต่านบรูไน" เสด็จเยือนไทย 28-29 เม.ย.นี้ ร่วมลงนามความร่วมมือไทย-บรูไน 2 ฉบับ
ชื่นมื่น “บิ๊กป้อม” เปิดบ้านป่ารอยต่อ กินข้าวร่วมวง “รมต.-สส.พรรคพปชร." ย้ำตั้งใจทำงานเพื่อปชช.
ประชุมเพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการน้ำและผลกระทบในเขตพื้นที่ 7 ตำบล
"บุ้ง" อดอาหาร 91 วันแล้ว ล่าสุดแน่นหน้าอก ชามือเท้า ปวดขามาก
คดีสะเทือนขวัญ ตร.เร่งล่าตัว 2 หนุ่มญี่ปุ่น ฆ่าหั่นศพเพื่อนร่วมชาติ หนีซุกประเทศเพื่อนบ้าน
มีหนาว! สะเทือน "คณะก้าวหน้า" ทำ "ธนาธร" สะดุ้งโหยง "กกต."จ่อฟันเคมเปญชี้ชวนหาแนวร่วมสมัคร ส.ว. จี้ยุติการกระทำทันที

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น