วันที่15 ธ.ค. 2564 เสถียรธรรมสถาน เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้ากราบกายสังขารของ ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถานเป็นวันแรก ภายหลังท่านแม่ชีศันสนีย์ ได้คืนสู่ธรรมชาติอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ไปเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2564 สิริอายุ 68 ปี 1 เดือน 7 วัน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่ายและสงบมีทั้งจิตอาสาของมูลนิธิคอยอำนวยความสะดวก ซึ่งภายในงานจะงดรับพวงหรีด ดอกไม้สด และไม่มีการจุดธูป ในการกราบกายสังขารให้ใช้ดอกไม้เทียนแทน (เทียนทำเป็นรูปดอกไม้) ซึ่งประชาชนสามารถซื้อ ดอกไม้เทียน ตามกำลังศรัทธาร่วมทำบุญสืบสานปณิธานการทำงานสร้างหุบเขาโพธิสัตว์ โดยจะมีการดอกไม้เทียนไปเป็นหนึ่งในเชื้อเพลิงในวาระสุดท้ายวันสลายสังขารแม่ชีศันสนีย์ด้วย และดอกไม้เทียนยังสื่อถึง “แสงสว่างแห่งปัญญา” ตามปณิธานของท่าน ด้วยการร่วมแสดงความเคารพและกตัญญูผ่าน ‘ดอกไม้เทียน’ ศิลปะภาวนาที่มีจุดเริ่มต้นจากการเยียวยาผู้หญิงที่ถูกกระทำความรุนแรง กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญาที่นำพาให้ใจพ้นทุกข์
อีกทั้งยังมีกลุ่มเด็กๆจากมูลนิธิร่วมกันทำตุ๊กตานางฟ้าประดับตามต้นไม้เพื่อเป็นการส่งท่านแม่ชีศันสนีย์สู่สรวงสวรรค์ ภายใต้มาตราการป้องกันการระบาดของโควิด 19 กำหนดให้โดยผู้เข้าร่วมงานทุกคนจะต้องได้รับวัคซีนจำนวน 2 เข็ม หรือได้รับการตรวจ ATK ภายใน 72 ชั่วโมง โดยสามารถเข้ากราบร่างท่านแม่ชีศันสนีย์ ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น. โดยกำหนดเป็นรอบ รอบละ 15 คน วันละไม่เกิน 400 คน
จากนั้นทีมข่าวท็อปส์นิวได้มีโอกาสพูดคุยกับท่านแม่ชีพิศมัย ผิวขาว ลูกศิษย์ของแม่ชีศันสนีย์ที่บวชมากว่า 22 พรรษา ท่านได้พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่เข้มแข็งว่าแม่ชีศันสนีย์ได้บอกอยู่เสมอว่าอะไรเกิดขึ้นก็ให้เราเป็นปกติและยังใช้การทำงานเพื่อระลึกถึงท่านเสมอ/และมีหลายคำสอนที่ประทับใจและเป็นผู้นำในการทำและใช้การทำเป็นการฝึกตนเอง และมีคุณูปการมากล้นโดยเฉพาะการให้โอกาสผู้หญิงและเด็กและตัวท่านเองก็ได้รับโอกาสนั้นเช่นกันยอมรับว่ารู้สึกเสียใจแต่ก็ต้องยอมรับความจริง
เบื้องต้นทางเสถียรธรรมสถานจะเปิดให้ประชาชนเข้าเคารพกายสังขารของท่านแม่ชีศันสนีย์ อย่างไม่มีกำหนดว่าจะเคลื่อนไปที่เสถียรธรรมสถาน หุบเขาโพธิสัตว์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี วันไหน คาดว่าจะตั้งกายสังขารแม่ชีศันสนีย์ไว้ที่เสถียรธรรมสถาน กรุงเทพมหานคร ถึงปลายปี 2565 สำหรับกำหนดการฌาปนกิจกายสังขารของ ท่านแม่ชีศันสนีย์ ทางเสถียรธรรมสถานจะขอเรียนให้ทราบในโอกาสต่อไป