No data was found

คกก.PPP เห็นชอบโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง มูลค่า 1.4 หมื่นลบ. แก้ปัญหาจราจร

กดติดตาม TOP NEWS

คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เห็นชอบในหลักการโครงการทางพิเศษสายกะทู้ - ป่าตอง จ.ภูเก็ต มูลค่าลงทุนรวม 1.4 หมื่นล้านบาท รองรับปริมาณจราจร ลดอุบัติเหตุทางถนน ให้การทางพิเศษฯ เร่งทำข้อมูลประกอบการเสนอครม.ต่อไป

วันนี้(17 พ.ค.) นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการ PPP ครั้งที่ 2/2564 โดยเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีผลการประชุม ดังนี้

1. คณะกรรมการ PPP ได้เห็นชอบในหลักการของโครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร ในรูปแบบ PPP Net Cost ระยะเวลาสัมปทาน 35 ปี (นับจากวันที่ กทพ. แจ้งให้เริ่มปฏิบัติงาน) โดยภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินวงเงิน 5,792 ล้านบาท ในขณะที่เอกชนรับผิดชอบการออกแบบรายละเอียด การก่อสร้าง และการดำเนินการและบำรุงรักษา โดยเอกชนจะโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ลงทุนทั้งหมดให้แก่ภาครัฐก่อนเริ่มดำเนินงาน (BTO)
ซึ่งโครงการนี้ จะช่วยลดอุบัติเหตุทางถนน แก้ปัญหาจราจร และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการเดินทางระหว่างเมืองภูเก็ตและหาดป่าตอง และมอบหมายให้ กทพ. เร่งรัดจัดทำข้อมูลเพื่อประกอบการเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป เช่น ความพร้อมเรื่องที่ดินของโครงการ พร้อมทั้งสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ด้วย

2. คณะกรรมการ PPP ยังรับทราบความคืบหน้าและเร่งรัดโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในกลุ่ม High Priority PPP Project ตามแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน พ.ศ. 2563 – 2570 ให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่วางไว้ เพื่อสนับสนุนให้เอกชนร่วมลงทุนพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ ซึ่งช่วยลดข้อจำกัดการลงทุนจากเงินงบประมาณแผ่นดินและเงินกู้ ตลอดจนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ประชาชนจากความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และนวัตกรรมของเอกชน

3. คณะกรรมการ PPP ได้รับทราบแนวทางการกำหนดรายละเอียดในการวิเคราะห์ถึงหลักการและเหตุผลประกอบการพิจารณาความสำคัญของโครงการร่วมลงทุน ตามหลักเกณฑ์ในเรื่องการพิจารณาความสำคัญของโครงการที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1,000 – 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินโครงการในกลุ่มดังกล่าวภายใต้ พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี 2562 มีกรอบการพิจารณาที่ชัดเจน และช่วยให้การดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะมีความคล่องตัว และเป็นไปตามแผนที่กำหนด

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คุมตัว 3 โจ๋ ไล่ฟันคู่อริ ขี่จยย.ชนเสาไฟฟ้า ดับ 2 เจ็บ 1 ฝากขังศาลเยาวชนฯ ยอมสารภาพปมลงมือแล้ว
"ทนายตั้ม" ยื่นปปง.อายัดทรัพย์สิน "ภรรยาบิ๊กตำรวจ" อ้างพบข้อมูล จ่อหนีคดีเว็บพนันไปอังกฤษ
"อนุทิน" สั่งเข้ม ห้ามสมาชิกภูมิใจไทย ฝ่าฝืนกม.ช่วยผู้สมัครสว.เด็ดขาด
ตร.บุกรวบ "กี้" พ่อค้ายาฯ รายใหญ่ คาบ้านพักได้พร้อมของกลางและยึดทรัพย์กว่า 1.2 ล้าน
ก๊วนผู้สมัครสว.โร่ร้องศาลปกครอง ค้านอำนาจกกต.วางระเบียบห้ามหาเสียง แนะนำตัว
มติสภาฯธรรมศาสตร์ เลือก "ดร.ศุภสวัสดิ์" เป็นอธิการบดีมธ.คนที่ 25
ครอบครัว "รองสว.จร." เหยื่อแท็กซี่เมาชนดับ เชิญวิญญาณกลับวัด หลังหมอดูทักดวงจิตยังอยู่จุดเกิดเหตุ
"ปลัดกระทรวงแรงงาน" มอบหมาย "ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน" ร่วมตรวจเยี่ยมนำแรงงานสัญชาติเมียนมา เข้ามาทำงานผ่านท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง
โซเชียลแห่ชื่นชมฝรั่งแจกหมวกกันน็อคให้เด็ก เพราะเคยมีปมประสบอุบัติเหตุ
"ปานปรีย์" ลาออกสายฟ้าแล่บ คนทำงานถวายหัว "หมอชลน่าน" โดนเท ตบโบนัส "รมต.สายล่อฟ้า" ท้าทายนายใหญ่เอาอยู่ไหมสยบคลื่นใต้น้ำ "พท."

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น