แม้จะพยายามประคบประหงมกันมาตลอดภายในพรรคพลังประชารัฐ แต่เรื่องของความบาดหมางและรอยร้าวภายใน ให้ปิดยังไงก็คงปิดไม่มิด ล่าสุดมีการปล่อยข่าวออกมาว่ากลุ่มสามมิตรภายใต้การนำของสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ,สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม, อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะย้ายสังกัดกลับบ้านเก่าไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย อ้างสาเหตุแตกหักเพราะความสัมพันธ์ของทางกลุ่มสามมิตร กับ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค มีความขัดแย้งต่อเนื่อง จึงทำให้กลุ่มสามมิตรตัดสินใจไขก๊อก
ในกระแสข่าวเดียวกันยังระบุว่า นอกจากกลุ่มสามมิตรจะย้ายกลับพรรคเพื่อไทยแล้ว ก๊วนโคราชของวิรัช รัตนเศรษฐ อดีตประธานวิปรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ก็เตรียมยกโขยงส.ส.ตระกูลรัตนเศรษฐ ไปซบไหล่ “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล หนุนตัก “เฮียเน” เนวิน ชิดชอบ ณ พรรคภูมิใจไทย งานนี้เลยทำให้แกนนำกลุ่มสามมิตรออกมาตอบโต้ข่าวลือเรื่องนี้แบบเผ็ดร้อน เริ่มจากน้องเล็ก อนุชา ออกมายืนยันไม่เป็นความจริง แถมระบุตอนนี้ไม่มีสามมิตรแล้วมีแต่พลังประชารัฐ พร้อมโยนให้กลับไปถามคนปล่อยข่าวมีเป้าหมายหวังผลอะไร ขณะที่พี่ใหญ่อย่างสุริยะ ก็ยาหอมยืนยันว่าสามมิตรทั้ง 3 คน จะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งหน้าและอยู่ตลอดไป ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ต้องเคลียร์กับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เพราะผู้ใหญ่ทั้ง 2 ท่านเข้าใจเป็นอย่างดี
ในบรรดาแกนนำสามมิตรทั้ง 3 คน ดูเหมือนพี่กลางนามสมศักดิ์ ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะออกมาสวนหมัดจัดหนักไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังการปล่อยข่าวสามมิตรทิ้งพลังประชารัฐกลับไปอยู่กับโทนี่วู้ดซั่มชนิดเผ็ดร้อนดุเดือดที่สุด ถึงขั้นเล่าเบื้องหลังการปล่อยข่าวเรื่องนี้เป็นขั้นเป็นตอน ” ส่วนหนึ่งก็พยายามปล่อยข่าวสื่อมวลชน และส่วนตัวก็รู้ว่า สื่อที่ปล่อยข่าวฉบับแรกเป็นใคร แต่อยากบอกว่าเรื่องการเมืองยังไม่ควรเอามาพูดกันในเวลานี้ ควรให้ถึงเวลาที่เหมาะสม ให้ประเทศได้เห็นแสงสว่างเรื่องเศรษฐกิจ และเรื่องอื่นที่กำลังจะพัฒนาก่อน การนำเรื่องของการเลือกตั้งหรือการโยกย้ายต่างๆ มาพูดตอนนี้ไม่เป็นผลดีกับประเทศในภาพรวม อยากให้ลืมเรื่องการเลือกตั้ง และการย้ายพรรคไปก่อนที่จะถึงเวลาอันควร อย่างน้อยให้เดินไป 1 ปี เหลือเวลา 5-6 เดือน ค่อยมาพูดกันเรื่องนี้ก็เป็นไปได้ แต่วันนี้ไม่สมควร” สมศักดิ์จัดหนัก ก่อนแฉจอมบงการที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เป็นคนนอกรัฐบาล ” เป็นเรื่องงานที่บางคนไม่มีโอกาสทำงานของตัวเอง และขอให้ไปถามสื่อที่เขียนฉบับแรก เรารู้กันหมดว่าใครเริ่มตรงนี้ แต่ขออย่าไปทำลายกัน” รมว.ยุติธรรมระบุ
สมศักดิ์ยืนยันชัดเจนมีคนปล่อยข่าวผ่านสื่อมีจุดมุ่งหมายปั่นพรรคป่วนรัฐบาล โดยจอมบงการเป็นคนที่ไม่มีโอกาสทำงานของตัวเองรู้กันหมดว่าใครเป็นคนเริ่ม วิเคราะห์กันตรงๆจากคำพูดของสมศักดิ์ เรื่องพรรค์อย่างนี้คนนอกพรรคไม่น่าจะออกมาให้ข่าว น่าจะเป็นเรื่องของคนในกันเองล้วนๆ ย้อนอดีตไปก่อนหน้านี้คู่ขัดแย้งของกลุ่มสามมิตรในพรรคพลังประชารัฐก็ไม่มีใคร จะมีก็แค่คนเดียวจากก๊วนเดิมที่งัดข้อขบเหลี่ยมกันมาตลอด ไม่ต้องเอ่ยชื่อไม่ต้องบอกเสียงเรียงนาม คนที่ตามการเมืองก็คงถึงบางอ้อรู้ว่าเป็นใคร รอบก่อนคราวที่แล้วกลุ่มสามมิตรทั้ง 3 คนก็ประกาศตัวจะลาออกจากกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้มีการปรับโครงสร้างใหม่จัดทัพวางคนให้ถูกที่ถูกทาง พุ่งเป้าหมายไปที่คนใหญ่ในพรรคต้นทางของสารพัดปัญหา แต่ติดที่โดนลุงป้อมเบรกไว้ต้นตอและเหตุของปัญหาทั้งมวลในพรรคจึงยังไม่ถูกสะสางกำจัดออกไปให้พ้นทาง
เที่ยวนี้ขาใหญ่เลยหมายเอาคืนว่าแล้วก็ปล่อยข่าวสามมิตรตีจาก ถีบ “สุริยะ-สมศักดิ์-อนุชา” ให้เป็นจำเลยของส.ส.ในพรรค ตกเป็นเป้าถูกตราหน้าจากสังคม หยิบเอาเรื่องที่ทั้งหมดเคยเป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงของทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่พรรคเพื่อไทยมาเชื่อมโยง ต้องการดิสเครดิตสามมิตรในพรรคทำให้ลุงป้อมลุงตู่ไม่ไว้วางใจ อีกด้านก็ผลักวิรัชกับส.ส.ในครอบครัวที่มีข่าวจะตีจากพลังประชารัฐไปอยู่กับภูมิใจไทย หลังน้อยใจเรื่องถูกศาลชี้มูลคดีมีเอี่ยวสร้างสนามฟุตซอลจนต้องหยุดทำหน้าที่ส.ส. ปล่อยข่าวสองทางจัดการสองก๊วน ด้านหนึ่งก็ด้อยค่าตีหัวก๊วนศัตรูฝ่ายตรงข้ามอย่างสามมิตรไม่ให้จองหองพองขนว่ามีนายกฯถือหาง อีกด้านก็ตีกันปล่อยข่าวดักคอไม่ให้พรรคพวกที่ลงเรือลำเดียวกันเดินหนีตีจากทิ้งไปเสวยสุขกับคนอื่น ใครกันหนอใจดำจริงทำกับคนในพรรคเดียวกันเองได้ถึงขนาดนี้ เห็นแบบนี้แล้วต้องบอกว่าพลังประชารัฐยังคงมีเรื่องวุ่นไม่จบ เพราะต้นตอของปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาวุ่นๆในพรรคเลยไม่มีวันจบ อนาคตเชื่อแน่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร ยังต้องปวดหัวอีกยาว เพราะคงมีอีกหลายเรื่องให้ปวดหัวกันอีกนาน
////////////////