No data was found

เจ้าของ “ประภากรออยล์” เปิดใจ! หลังรู้สาวหัวหน้าแผนกคลังสินค้า เป็นคนก่อเหตุวางเพลิง

กดติดตาม TOP NEWS

เจ้าของ "ประภากรออยล์" เปิดใจ! หลังรู้สาวหัวหน้าแผนกคลังสินค้า เป็นคนก่อเหตุวางเพลิง

จากกรณีเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างหนัก ภายในคลังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ ประเภทน้ำมันเครื่องของ บริษัท ประภากร ออยล์ จำกัด ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยมีเจ้าของบริษัทคือ นายพิพัฒน์ อึ้งประภากร อายุ 65 ปี เป็นเจ้าของและเป็นผู้แทนจำหน่ายน้ำมัน คลังเก็บสินค้าน้ำมันเครื่อง ชนิดแกลลอน 20 ลิตร และ 5 ลิตร จำนวนนับหมื่นแกลลอน มีน้ำมันบรรจุรวมหลายแสนลิตร อยู่ติดด้านหลังตลาดธัญญา ห่างจากถนนเพชรเกษม 300 เมตร เข้าไปในซอย มีลักษณะเป็นโกดังชั้นเดียวตั้งอยู่ในเนื้อที่กว่า 1 ไร่ เจ้าหน้าที่ช่วยกันใช้โฟมฉีดเพื่อดับไฟ แต่ระดับความรุนแรงของไฟที่ลุกไหม้และควันดำลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้านั้นโหมอย่างหนัก จนต้องใช้รถดับเพลิงกว่า 40 คัน ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ คือ นางสาวสิราสินี ศรียา หรือ แอน อายุ 38 ปี เป็นพนักงานตำแหน่งหัวหน้าแผนกคลังสินค้า

 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำ นางสาวสิราสินี และตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ จนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ถูกไฟไหม้เสียหาย แต่สามารถกู้ไฟล์มาได้ พบว่า นางสาวสิราสินี เป็นผู้ก่อเหตุวางเพลิงในครั้งนี้ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง โดยใช้ไฟแช็กจุดกระดาษแล้ววางไว้ในกล่องกระดาษบรรจุน้ำมันหล่อลื่น จำนวน 2 จุด จนเกิดเพลิงไหม้ ส่วนแรงจูงใจที่ก่อเหตุนั้น นางสาวสิราสินีบอกว่าเกิดจากความคับแค้นใจที่ถูกนายจ้างดุด่าหลายครั้ง

ล่าสุดวันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ สภ.โพธิ์แก้ว มีการแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา โดย พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) ได้เดินทางมาสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง และเปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพแล้วว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมว่าทำคนเดียวหรือมีคนอื่นร่วมด้วยหรือไม่ส่วนสาเหตุที่ระบุว่าเป็นการโกรธแค้นเจ้านายที่ถูกดุด่า ก็อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นนี้ รวมถึงประเด็นสาเหตุอื่นๆ ด้วย ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดอยู่ในสำนวนคดี โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานเพียงพอในการดำเนินคดี

 

 

ทั้งนี้ สำหรับการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงงานแห่งนี้ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหารายนี้ และสาเหตุก็คนละสาเหตุกัน แต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยหลังจากทำการสอบสวนผู้ต้องหาเสร็จสิ้น ก็จะส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐมต่อไป โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้มายื่นขอประกันตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด

ด้าน นายพิภัช อึ้งประภากร เจ้าของบริษัท ประภากรออยล์ จำกัด เปิดเผยว่า ประเด็นที่ผู้ต้องหาให้การว่าก่อเหตุเพราะคับแค้นที่ถูกนายจ้างดุด่า ตนยืนยันได้ว่า ตลอดระยะเวลากว่า 9 ปี ที่ นางสาวสิราสินี ทำงานบริษัทนี้มา ก็ดูเป็นคนร่าเริงปกติไม่เคยแสดงอาการหรือท่าทีไม่พอใจ โดยตนก็ไม่เคยด่าทอลูกน้อง แต่ก็มีบ้างที่ต้องตำหนิตักเตือนเวลาทำงานผิดพลาด เพราะนางสาวสิราสินี เป็นถึงระดับหัวหน้างาน ซึ่งประมาณ 2 อาทิตย์ที่แล้ว นางสาวสิราสินี ก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรที่จะก่อเรื่อง ส่วนนายนภรุจ อึ้งประภากร ลูกชายที่ทำงานคลุกคลีกับพนักงาน ก็ยิ่งไม่เคยตำหนิเลย เป็นคนรักลูกน้อง สิ้นเดือนก็พาไปกินข้าวกันทุกเดือน

โดยหลังทราบจากตำรวจว่าผู้ก่อเหตุคือ นางสาวสิราสินี ทั้งลูกชายและพนักงานคนอื่นๆก็รู้สึกผิดหวังกันหมด ยิ่งเป็นเพื่อนร่วมงานยิ่งไม่เชื่อว่า นางสาวสิราสินี จะเป็นผู้ก่อเหตุ ส่วนสาเหตุว่าจะเป็นการก่อเหตุเพราะคับแค้นใจ หรือเป็นการทำลายหลักฐานเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง ตนก็ไม่สามารถตอบได้ และไม่กล้าที่จะคาดเดา แต่ในสายตาก็ยังคิดว่า นางสาวสิราสินี เป็นคนดี อย่างไรก็ตามตนได้ขอให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นของการรับจ้างวางเพลิงด้วย แต่ก็ยืนยันว่าตนไม่มีศัตรูหรือคู่แข่งทางธุรกิจ รวมไปถึงปัญหาทุจริตภายในบริษัท

นอกจากนี้ นายพิภัช ยังบอกด้วยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะนำไปเป็นบทเรียนให้กับตน ในเรื่องของการจัดตั้ง คลังเก็บน้ำมันให้ไกลจากสถานที่ชุมชน และในเรื่องระบบป้องกัน พร้อมจะดูแลคนของตัวเองให้ดี ทั้งนี้ต้องขอโทษผู้ที่ได้รับผลกระทบและสังคมที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ซ้ำสอง หากตนใส่ใจมากกว่านี้ ก็จะเห็นปัญหาของพนักงาน หรืออาจป้องกันเหตุไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียนมา กองทัพยืนยันยึดเมียวดีคืนได้แล้ว
ศาลสั่งคุก 18 ปี 24 เดือน "อดีตผอ.-รองผอ." สามเสนวิทยาลัย รับแป๊ะเจี๊ยะเข้ากระเป๋าตัวเอง
สุดทึ่ง พ่อเผลอทำลายแบงก์หมื่นเยนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ลูกชายต่อจนแลกเงินคืนได้
ปรับครม. เศรษฐา 2 นิ่งสนิท! เด็กในคาถา "นายหญิง - นายใหญ่" เก้าอี้แข็งโป้ก
"สุรพงษ์" นำทีมคมนาคมลงใต้ ลุยพัฒนาระบบขนส่งหนุนท่องเที่ยวปัตตานี
"บิ๊กโจ๊ก" เดินสายร้องปปง.ค้านทำคดีฟอกเงิน จ่องัดม.157 ฟาดกลับ ปลดออกราชการมิชอบ
ผ่าชนวนระเบิดเวลาขย่มรัฐบาล แก้ "รธน." นโยบายเรือธงส่อแป้ก ยึดคืน "ประธานสภา" สะเทือนสัมพันธ์พรรคร่วม
ศาลลงโทษ “การ์ดวีโว่” จุ้นเรื่องเมียนมา ก่อม็อบต้าน “มินอ่องหล่าย” รัฐประหาร
"ปลัดก.คลัง" ชี้ความเห็น "ผู้ว่าฯธปท." ไม่มีอะไรใหม่ ไม่กระทบแผน "ดิจิทัล วอลเล็ต"
มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบรถเข็นวีลแชร์ แก่สำนักงานจัดหางาน จ.นนทบุรี เติมกำลังใจให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น