ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 56,614 คน และ นายกฯอบต. 5,329 แห่งทั่วประเทศ เป็นไปตามคาดหมายว่านักการเมืองและพรรคการเมืองท้องถิ่นที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองใหญ่พรรคการเมืองดังต่างพาเหรดชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ ฯลฯ ที่เหลือก็เป็นพรรคการเมืองอิสระของชาวบ้านในท้องถิ่น
แต่ประเด็นซึ่งเป็นที่จับตามองในการเลือกตั้งท้องถิ่นรอบนี้ ถูกโฟกัสไปที่ “คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล” ที่ประกาศรุกคืบการเลือกตั้งท้องถิ่นเที่ยวนี้แบบเต็มกำลัง ชนิดที่บรรดาแกนนำ อาทิ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ฯลฯ สลับสับเปลี่ยนกันลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน ผลปรากฎว่าเลือกตั้งอบต. 28 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะก้าวหน้าส่งคนลงชิงนายกฯอบต. ทั้งสิ้น 196 คนทั่วประเทศไทย ก่อนได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนชนะเลือกตั้งมาได้ 38 แห่ง คิดเป็น 19.4% ของจำนวนที่ส่งทั้งหมด แม้จะดูเล็กน้อยไม่มากหากเทียบกับจำนวนนายกฯอบต.ทั้งหมด แต่ปรากฎการณ์ทางการเมืองแบบนี้ก็ไม่อาจที่จะมองข้ามได้ โดยเฉพาะเมื่อคนที่รุกคืบการเมืองคราวนี้ คือ “คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล” ต้นทางแพร่พันธุ์แนวความคิดล้มเจ้าในเมืองไทย
ธนาธรประกาศชัยชนะในคราวนี้อย่างมีนัยยะ เพราะหลายแห่งเป็นพื้นที่ๆไม่เคยได้รับการสนับสนุนเลย ไม่เคยชนะเลือกตั้ง ห่างไกลเมือง ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่ใช้กลุ่มเป้าหมายโดยตรง แต่คณะก้าวหน้าพรรคก้าวไกลก็ปักธงชนะการเลือกตั้งในรอบนี้มาได้ ” อบต.เป็นพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม มีความเป็นเมืองน้อยมีจำนวนคนรุ่นใหม่ต่อสัดส่วนจำนวนประชากรไม่มาก ซึ่งไม่ใช่กลุ่มคนที่จะใช้โซเชียลมีเดีย นอกจากนี้พื้นที่ที่เราไม่เคยเจาะได้เลยไม่ว่าจะสนามไหนก็ตาม เช่น เพชรบูรณ์ สุพรรณบุรี แต่จากผลงานระดับเทศบาลที่เราลงมือทำก็ส่งผลให้ชนะเลือกตั้งในระดับอบต. เช่น ใน อุดรธานี ร้อยเอ็ด และ นครปฐม ทำให้ได้เห็นว่าเราไม่ได้เข้าถึงพื้นที่ในลักษณะเมืองใหญ่หรือมีคนหนุ่มสาวทำงานเท่านั้น แต่พื้นที่ชนบทและเกษตรกรรมเราก็เจาะได้ ” ธนาธรระบุ
ย้อนอดีตกลับไปดูการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อปี 24 มี.ค.2562 พรรคอนาคตใหม่ (ถูกยุบพรรคไปแล้ว) มีคะแนนดิบจาก 77 จังหวัดสูงถึง 6,284,282 คะแนน คิดคะแนนจัดสรรปันส่วนผสมเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อได้ 51 คน ชนะการเลือกตั้งแบบเขตมาได้อีก 31 คน ประกอบด้วย กทม. 9 คน ภาคกลาง 15 คน ภาคอีสาน 1 คน ภาคเหนือ 6 คน ภาคใต้ 1 คน หากไปดูรายละเอียดการเลือกตั้งระบบเขตของพรรคอนาคตใหม่รอบที่แล้วพบว่าส่งคนลงครบ 350 เขต ในจำนวนคะแนนดิบที่ได้รับทั้งหมด 6,284,282 คะแนน แบ่งเป็นคะแนนที่ชนะเขต 31 คน 1,085,412 คะแนน และคะแนนตกน้ำ 5,198,870 คะแนน ( กทม.501,685 ภาคกลาง 1,580,973 ภาคอีสาน 1,549,917 ภาคเหนือ 1,008,328 ภาคใต้ 557,967) ถือเป็นพรรคที่มีคะแนนตกน้ำมากที่สุดในการเลือกตั้งรอบที่แล้ว
25 ธ.ค. 2563 ในการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) คณะก้าวหน้าส่งผู้สมัครนายกฯอบจ. 42 แห่ง แต่ไม่ชนะเลือกตั้งแม้แต่ตัวเดียว จากนั้น 28 มี.ค. 2564 ในการเลือกตั้งสมาชิกเทศบาลและนายกเทศมนตรี 2,472 แห่ง คณะก้าวหน้าส่งผู้สมัคร 106 แห่ง ชนะเลือกตั้ง 16 แห่ง คิดเป็น 15% ขณะที่การเลือกตั้งอบต.ล่าสุด คณะก้าวหน้าคว้าชัยไป 38 แห่ง คิดเป็น 19.4% ของจำนวนที่ส่งทั้งหมด โดยท้องถิ่นภายใต้การบริหารงานของคณะก้าวหน้า ระดับเทศบาลมีงบประมาณต่อปีรวม 1,341,324,537 บาท มีประชากรรวม 165,474 คน ระดับ อบต. มีงบประมาณ 1,649,351,116 บาท มีประชากรรวม 244,409 คน ถ้ารวมทุกระดับการปกครองส่วนท้องถิ่น จะมีงบประมาณทั้งหมด 2,990,693,653 บาท และมีจำนวนประชากรรวม 409,883 คน สำหรับพื้นที่ 17 จังหวัดที่คณะก้าวหน้าชนะเลือกตั้งอบต.คราวนี้ ประกอบด้วย 1. กาฬสินธุ์ 2. ขอนแก่น 3. ชัยภูมิ 4. เชียงใหม่ 5. นครปฐม 6. นครราชสีมา 7. น่าน 8. บึงกาฬ 9. พิษณุโลก 10. เพชรบูรณ์ 11. มหาสารคาม 12. ร้อยเอ็ด 13. ศรีสะเกษ 14. สุพรรณบุรี 15. หนองคาย 16. หนองบัวลำภู 17. อุดรธานี
ถามว่าผลการเลือกตั้งอบต.รอบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ห่วงไหม รัฐบาลคิดอย่างไร หน่วยงานรัฐต้องเฝ้าระวังหรือไม่ คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกลมันเดินเกมส์ทางการเมืองไปไกลแล้ว และพวกนี้ไม่เคยคิดหยุด แม้จะมีการยุบพรรคอนาคตใหม่ไปแล้ว แต่ในสภาก็มีการตั้งพรรคก้าวไกลมาเป็นปากเป็นเสียงแทน นอกสภาก็มีคณะก้าวหน้าภายใต้การนำของ “ทอนสามกีบ-บูดล้มเจ้า” เดินหาเสียงกับชุมชนเคาะประตูคุยกับชาวบ้าน แยกดันเดินร่วมกันตีเอาโมเดลพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมาใช้เลย ยุทธศาสตร์ของกลุ่มสามกีบล้มเจ้านั้นมีหลายแผนมีหลายศาสตร์ “เอ็งมาข้ามุด เอ็งหยุดข้าแหย่ เอ็งแย่ข้าตี เอ็งหนีข้าตาม” ล่าสุดธนาธรส่งสัญญาณชัดต่อให้ยุบพรรคต่อให้มีคดีต่อให้ถูกกลั่นแกล้งขนาดไหน คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกลก็ไม่ยุบไม่ท้อ ” เราทำงานอย่างแน่วแน่ จริงจัง และไม่ย่อท้อ เราถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองถูกยุบพรรคก็ยังทำงานการเมืองต่อ ถูกกลั่นแกล้งต่างๆ นานา ถูกฟ้องดำเนินคดี เราก็ยังมุ่งมั่นทำงานต่อ เพื่อให้ประชาชนเห็นถึงความแน่วแน่ของเรา ก้าวต่อไปเราจะทำนโยบายให้เกิดขึ้นจริงในทุกระดับ” ธนาธรระบุ
ระดับท้องถิ่นตอนนี้ทั้งเทศบาลและอบต. คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกลมีงบประมาณในมือต่อปี เกือบ 3 พันล้าน มีคนในความดูแลเกือบ 4 แสนคน ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ อีสาน และ ภาคกลาง จากนี้เชื่อว่าคณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกลจะเร่งใช้งบก้อนโตตรงนี้ ขยายงานไปในพื้นที่ยุทธศาตร์ของตัวเอง สร้างฐานมวลชนให้เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน อย่าลืมว่าหัวใจสำคัญของคณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล ธงมีอยู่ผืนเดียวคือการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ แท้จริงคือการล้มเจ้ารื้อล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ตอนนี้ก็ใช้วิธีน้ำเซาะทราย แทรกซึมเข้าไปหาชาวบ้านทางนักการเมืองท้องถิ่น เอาสารพัดโครงการต่างๆ เข้าไปล่อชาวบ้าน อาทิ โครงการจัดการน้ำกร่อย น้ำใต้ดิน บ่อบำบัดน้ำเสียในชุมชน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก การจัดการขยะ ฯลฯ เห็นวิธีการนำเสนอข้อมูลของธนาธรเที่ยวนี้บอกได้เลยว่าหมายมั่นปั้นมือพยายามรุกคืบเข้าไปหาชาวบ้าน ต้องการล้างของเก่าล้างทฤษฎีเดิมของดีที่มีมาแต่โบราณ เอาแนวคิดล้มเจ้า เอาวิธีปฏิรูปแบบตะวันตก เอาไอเดียประชาธิปไตยหัวใจเผด็จการเข้าไปใช้
พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร ร.อ.ธรรมนัส พรรคพลังประชารัฐ ยังมัวงมโข่งแย่งเก้าอี้ชิงอำนาจในพรรคในรัฐบาลอยู่ ถามจริงว่าเคยเห็นเค้าลางของปัญหาพวกนี้ไหม คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกลเดินเกมส์แย่งชิงมวลชนรุกคืบถึงรากหญ้ารากแก้วแล้ว วิธีการก็ลอกแบบจากพรรคคอมมิวนิสต์มาเต็มๆ แต่แยบยลซับซ้อนมีกุศโลบายที่ลึกล้ำกว่า ไม่โกงไม่กินไม่วอกแวก ตั้งธงล้มเจ้าเพียวๆหวังพลิกประเทศเปลี่ยนระบบให้จงได้ ก่อนหน้านี้ก็มีกรณีให้ส.ส.ไปล้างสมองชาวบ้าน ปฏิรูปสถาบัน ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ไม่เคารพเพลงชาติไม่ยืนตรงให้เพลงสรรเสริญ อนาคตถ้าปล่อยให้พวกนี้เดินคุยกับชาวบ้าน ครอบงำรากหญ้าล้างสมองรากแก้วได้ เชื่อแน่ว่าโครงการหลวง โครงการพระราชดำริ ของดีๆที่สถาบันวางกรอบ ทำแนวทางไว้ในต่างจังหวัด ชนบทห่างไกล มีหวังโดนรื้อล้างทำลายหมดแน่ ป้ายหน้ายังประกาศขอลุยสนามนายกฯเมืองพัทยา ต่อด้วยผู้ว่าฯกทม. พรรคพลังประชารัฐรู้เรื่องพวกนี้เข้าหูไหม คณะก้าวหน้าพรรคก้าวไกลกำลังขยายฐานการเมืองตีกินแนวคิดล้มเจ้าล้างสถาบันไปยังชาวบ้านแล้ว
” ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้คณะก้าวหน้าเข้ามาบริหารงาน อบต. ผมสัญญาว่าการบริหารงานของเราจะตั้งมั่นอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชน จะไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น เรามาที่นี่เพื่อสร้างประเทศไทยที่ดีกว่า เพื่อยกระดับชีวิตพี่น้องประชาชน ไม่ได้มาที่นี่เพื่อแสวงหาความร่ำรวยมั่งคั่งให้กับตัวเอง และพวกพ้อง ขอให้รอดูผลงานของพวกเราต่อจากนี้ไป” ธนาธรกล่าว ได้ยินแบบนี้แล้วผู้มีอำนาจในบ้านในเมือง คนที่มีหน้าที่ปกป้องสถาบันยังนิ่งอยู่ไหวไหม พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร ตำรวจ ทหาร หน่วยความมั่นคง ทำอะไรอยู่เตรียมพร้อมรับมือเรื่องพวกนี้แล้วหรือยัง
///////////////////////////
