No data was found

“หมอธีระวัฒน์” เตือนระวังโควิด 2 สายพันธุ์ ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มยังติดเชื้อได้!

กดติดตาม TOP NEWS

"หมอธีระวัฒน์" เตือนระวังโควิด 2 สายพันธุ์ ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วยังติดเชื้อได้!

วันที่ 16 พ.ค. 64 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะ​แพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha” ระบุว่า “วัคซีน และ คงวินัย รักษาระยะห่าง คนไทยได้วัคซีนครบ 2 เข็มแล้วก็ตามอย่ามั่นใจ สายพันธุ์เพี้ยน อินเดีย แอฟริกา ไฟเซอร์ โมเดอนา ครบ 2 เข็มในสิงคโปร์ ยังติดเชื้อได้”

 

 

นอกจากนี้ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ยังโพสต์ด้วยว่า… สายพันธุ์ที่ต้องจับตาสูง จนถึงกลายเป็นสายก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรง?

12/5/64

15/5/64

ในสิงคโปร์ พบสายอินเดียในชุมชนเองแล้ว และที่ติดสายอินเดียเป็นคนได้วัคซีน ไฟเซอร์ โมเดอนา ครบ 2 แล้ว

โควิดซึ่งมีการปรับเปลี่ยนหน้าตาจนกลายเป็นที่เรียกว่าสายพันธุ์ ที่ต้องจับตามองด้วยความกังวลสูง ( variant of high global concern ) ไปจนถึงที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื่อง (high consequence)
ล้วนแล้วแต่เกิดจากการระบาดที่รุนแรงแรงกว้างขวางจนเกิดการวิวัฒน์ ให้มีความเก่งกาจขึ้น (gain of function) ตั้งแต่ สายอังกฤษ แอฟริกาใต้บราซิลฟิลิปปินส์และจนอินเดีย ที่ถูกจัดจากองค์การอนามัยโลกให้ทั่วโลกจับตา และในอีกไม่ช้าไม่นาน ถ้าสถานการณ์คุมไม่ได้ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งก็จะเกิดมีสายใหม่เกิดขึ้นอีก

ในส่วนของสายอินเดีย ที่มีการตรวจพบมานานพอสมควรในประเทศไทย หลายรายด้วยกันแล้ว ในสถานกักตัว

ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตจากหมอและนักวิทยาศาสตร์อินเดียและหลายกลุ่ม ในไวรัสสายนี้มานานพอสมควร ที่ว่าสามารถ

“จับลึก” นั่นก็คือไถลลงไปจับกับหลอดลมส่วนลึกและถุงลมแทนที่จะเป็นโพรงจมูกและลำคอ

“จับแน่น” ทำให้มีความสามารถในการติดเชื้อได้เก่งขึ้นและจากนั้นแพร่ได้ง่ายขึ้น

“หลีกหนี” การมองเห็นการเฝ้าระวังตรวจตราของระบบป้องกันและภูมิคุ้มกันที่ได้จากวัคซีน

ทั้งนี้ยังหมายควบรวมไปถึงภูมิคุ้มกันที่ได้จากการติดเชื้อครั้งแรกจากโควิดธรรมดา และเมื่อติดเชื้อสายใหม่นี้ สามารถมองเห็นจับได้ แต่ไม่ยับยั้งไวรัสและกลับจับไวรัสไปส่งให้ เซลล์ที่มีหน้าที่ป้องกันไวรัส โดยมีหน้าที่ทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อ แต่กลับปล่อยสารอักเสบขึ้นมาแทนเลยเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อและต่อทุกระบบในร่างกาย

ถือเป็น “บาป” ที่ภูมิคุ้มกันไม่รู้จักปรับตัวพัฒนาขึ้นมาสู้กับของใหม่ (original antigenic sin: ที่ทราบกันมาตั้งแต่ปี 1960)

และในลำดับต่อไป ถ้าไวรัสมีการปรับเปลี่ยนส่วนท่อนต่างๆที่ปกติออกแบบมาอยู่แล้วเพื่อก่อโรคให้มีความรุนแรง และกลับรุนแรงขึ้นไปอีก จนมีปัญหาในการรักษาและรวมไปกระทั่งถึงดื้อยาที่ใช้ได้ผลอยู่ในปัจจุบัน จะกลายเป็น สายที่ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างสูง

ทั้งหมดนี้สามารถชนะได้ด้วยวัคซีนพร้อมกับมีวินัยทั้งทางบุคคลและทางสังคมอย่างเข้มข้น

พยายามสงบการระบาดให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่อย่างไรก็ตามสายใหม่เหล่านี้ ต้องเล็ดลอดเข้ามาไม่ช้าก็เร็ว และแพร่ระหว่างคนไทยสู่คนไทย แต่ทั้งหมดเพื่อเป็นการซื้อเวลา เพื่อรอวัคซีนพัฒนารุ่นที่สองต่อไป

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เพลิงไหม้โรงงานเก็บการสารเคมีอุตสาหกรรมวินโพรเสส สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งควบคุมสถานการณ์ไฟที่ปะทุ และจัดทำแผนการเยียวยา ปชช.
กองทัพเรือ ร่วมมูลนิธิ รพ.สิริกิติ์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ทอดผ้าป่าสามัคคีการกุศล
"บีทีเอส" แจงปมผู้โดยสารติดลิฟต์ สถานีแบริ่ง จนท.เร่งช่วยเหลือปลอดภัย
"ตร.ไซเบอร์" บุกทลาย 2 เหมืองบิทคอยน์ ภาคตะวันตก ลักไฟหลวง 2 เดือน กว่า 5 ล้านบาท
"กกต." เตือน จูงใจ ชี้ชวนให้คนลงสมัครสว.เสี่ยงผิดกฎหมาย
ข่าวดี "นายกฯ" เผยยางพาราแตะ กก. 100 บาทเร็วๆนี้ ลั่นมาจากการทุ่มเททำงาน ไม่ใช่โชคช่วย
สอบสวนกลาง รวบ "หนุ่มดาวทวิต" ลวงเด็กชายถ่ายคลิปสร้างคอนเทนต์ ขายในกลุ่มลับ
จนท.ชุดลาดตระเวนกว่า 20 นาย เร่งติดตาม "แก๊งผ้าเหลือง" ลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว
สอบสวนกลาง บุกค้นโรงงานรีไซเคิลพลาสติกเถื่อน ชลบุรี สร้างความเดือนร้อนให้ชุมชน
เปิดเบื้องลึก "รมว.ปุ๋ง" ถูกโยกนั่งวธ. รับงานใหญ่ ลุย Soft Power

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น