บรรยากาศการเมืองขณะนี้เรียกว่าเริ่มกลับมาคึกคักตามลำดับ เพราะหลายพรรคการเมืองเริ่มทยอยลงพื้นที่เก็บคะแนนจากชาวบ้าน บางพรรคเริ่มตั้งคณะกรรมการสรรหาตัวผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศแล้ว บางพรรคก็เริ่มการสัมมนาตัวว่าที่ผู้แทน บางพรรคก็เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครในบางเขตที่พร้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรียกว่าเดินหน้ากันไปพอสมควรแล้ว และยิ่งงวดมากขึ้นไปอีกหลังจากที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2564 มีผลบังคับใช้ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่ถือว่าขณะนี้มีการวางกติกาในการเลือกตั้งเที่ยวหน้าออกมาแล้ว ว่าจะใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ล่าสุดพรรคแกนนำรัฐบาลอันดับ 1 พลังประชารัฐของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เตรียมจัดสัมมนาส.ส. ส.ก. และว่าที่ผู้สมัครส.ส.กรุงเทพฯ ช่วงเย็นของวันเสาร์ 27 พ.ย.นี้ ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ เขตบางพลัด กทม. โดยงานนี้พล.อ.ประวิตรจะเดินทางมามอบนโยบายการทำงานของภาคกทม.แก่ผู้เข้าร่วมประชุมด้วยตัวเอง พร้อมหนีบผู้บริหารแกนนำของพรรค อย่าง “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค , “อ.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค มาร่วมพบปะให้นโยบายกับทุกคนด้วย
ทั้งนี้ไฮไลต์สำคัญของการสัมมนาคราวนี้ เบื้องหน้าพล.อ.ประวิตรและแกนนำพรรคต้องการหารือกับบรรดาสมาชิกสาขาพรรคในกรุงเทพฯ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้คุยกันมานานงวดนี้ก็เลยรวมพูดพบเจอกันทีเดียวทั้งส.ส. ส.ก. เขต และผู้สนับสนุนต่างๆ อย่างไรก็ตามเบื้องหลังแท้จริงก็คือการเปิดตัว อ.แหม่มกับสมาชิกพรรคเมืองหลวง แม้ตอนนี้พื้นที่กรุงเทพฯพล.อ.ประวิตรจะประกาศตัวลงมาเป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง และมอบหมายให้ จักรพันธ์ พรนิมิต ส.ส.กทม. ทำหน้าที่หัวหน้าภาคกทม. ดูแลประสานงานส.ส.กทม.ทั้ง 12 คนไปก่อน ภายหลังจากก่อนหน้านี้พล.อ.ประวิตรกับร.อ.ธรรมนัสพยายามขยับปรับงานให้นฤมลลงมาคุมกทม. มีการนัดคุยกับส.ส.กรุงเทพฯไป 2-3 ครั้งแล้ว แต่ผลปรากฎว่าไม่เวิร์คไปไม่รอด เพราะเหมือนพูดกันคนละคีย์คุยกันไม่รู้เรื่อง สารพัดปัญหาในพื้นที่หลากหลายเรื่องราวที่ผู้แทนกทม.สะท้อนฝากผ่านอ.แหม่ม ดูเหมือนอดีตรมช.แรงงาน จะไม่เก็ตเนื้อแท้ของปัญหา ไม่เข้าใจวิธีบริหารจัดการ อาจเป็นเพราะความที่นฤมลไม่ได้เป็นนักการเมืองขนานแท้ จึงไม่มีประสบการณ์รับรู้ปัญหาชาวบ้าน เรื่องพื้นฐานจิปาถะอย่างแท้จริง พอได้รับทราบปัญหาจากส.ส.กทม.ทั้ง 12 คน แล้วต่อยอดไม่ถูกไม่ต่อไม่เป็น ที่สุดพล.อ.ประวิตรกับร.อ.ธรรมนัสเลยต้องแก้เกมส์ลงมาคุมเอง และตั้งจักรพันธ์มาคุมกทม.ขัดตาทัพแทน แต่ลึกๆจริงๆต้องการวางตัวให้นฤมลดู อยากมอบบทบาทให้อ.แหม่มมีบารมีและอำนาจเป็นที่ยอมรับของส.ส.ในพรรค
สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ เลือกตั้งคราวก่อนปี 2562 ส.ส.เขต 30 เก้าอี้ พรรคที่ชนะเลือกตั้งได้ส.ส.มากสุดคือ 1. พลังประชารัฐได้ส.ส. 12 คน คะแนนรวม 791,821 คะแนน 2.อนาคตใหม่ได้ส.ส. 9 คน คะแนนรวม 804,217 คะแนน 3.เพื่อไทยได้ส.ส. 9 คน คะแนนรวม 604,661 คะแนน โดยรายชื่อ 12 ส.ส.พลังประชารัฐ ประกอบด้วย 1.น.ส. กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ 2.น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ 3.นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา 4.น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ 5.น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ 6.นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ 7.นายสิระ เจนจาคะ 8.น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ 9.นายชาญวิทย์ วิภูศิริ 10.นายศิริพงษ์ รัสมี 11.นายประสิทธิ์ มะหะหมัด และ12.นายจักรพันธ์ พรนิมิตร
ย้อนอดีตนฤมล เคยเป็นอาจารย์ ณ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เคยมีชื่อมาช่วยงาน “บิ๊กบี้” พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล สมัยเป็น “จับกัง 1” โดยได้รับมอบหมายให้ดูแลยุทธศาสตร์การลงทุนของกองทุนประกันสังคมและการบริหารเงินตอบแทนการลงทุน ภายหลังพล.อ.ศิริชัย ลาออกช่วงปี 2560 ก็ถูก “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจที่คุ้นเคยกันดีตั้งแต่นิด้าอยู่แล้ว ดึงตัวมาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีของอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ขุนคลังยุคนั้น จากนั้นได้เข้าร่วมงานกับพลังประชารัฐโดยลงสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 5 ของพรรคได้เป็นส.ส.สมัยแรก ก่อนขึ้นชั้นนั่งเป็นโฆษกรัฐบาลเมื่อ 30 ก.ค. 2562 จากการผลักดันของสมคิด จากนั้นก็ไต่เส้นทางอำนาจเข้าร่วมก๊วนส.ส.กรุงเทพฯกับ “บี-ตั้น” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลฯ กับ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ก่อนเปลี่ยนเส้นทางเบิกเนตรทางการเมืองหลังไปติดสอยห้อยตามพล.อ.ประวิตรได้ดิบได้ดีถึงขั้นผงาดเป็น “จับกัง2” ขึ้นแท่นรมช.แรงงาน เมื่อ 5 ส.ค.2563
ก่อนมาขึ้นหม้อสุดๆ หลังมาผนึกกำลังกับร.อ.ธรรมนัส ตั้งก๊วนรัฐมนตรีช่วย ” 4 ช.” เดิน จากนั้นตกสวรรค์หลังถูกพล.อ.ประยุทธ์ปลดพ้นตำแหน่ง จากกรณีเดินเกมส์ล้มนายกฯร่วมกับร.อ.ธรรมนัส ล่าสุดมีข่าวพลังประชารัฐเล็งดันชิงผู้ว่าฯกทม.สร้างประวัติศาสตร์เป็นพ่อเมืองหญิงของกรุงเทพฯคนแรก ตอนนี้ก็เลยต้องชิงจังหวะส่งมาคุมงานกทม. วางเป้าสร้างผลงานสะสมบารมีไปก่อน อนาคตถ้าคะแนนนิยมดีเสียงตอบรับได้ค่อยตัดสินใจอีกครั้งว่าจะส่งชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.หรือไม่ ถึงตอนนั้นก็ยังไม่สาย เพราะเลือกผู้ว่าฯกทม.เสาชิงช้ายังมีเวลาอีกยาว แถมงานนี้ลุงป้อมการันตีให้อยู่แล้ว
///////////////////
